ทำเนียบ 21 ธ.ค.- นายกขอประเมิน 7 วัน จะ ให้จัดงานปีใหม่ได้หรือไม่ หวังสถานการณ์จะดีขึ้นสั่งเจ้าหน้าที่ตรวจเข้มหากพบว่าโรงงานที่มีต่างด้าว ที่ลักลอบเข้ามาทำงานโดยผิดกฎหมายให้สั่งปิดโรงงานทันที พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นำผู้บริหารกระทรวงเข้าพบเพื่อรายงานและหารือถึงมาตรการป้องกันและรับมือผู้ติดเชื้อโควิด-19 จากการพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในหลายจังหวัดว่า ตั้งแต่วันแรกที่พบการติดเชื้อจนถึงวันนี้ (21ธ.ค.) ตนไม่เคยหยุดคิดและติดตามสถานการณ์ ยืนยันว่ามาตรการต่างๆของรัฐบาลที่ออกมาถือว่าทำครบถ้วน เพียงแต่ต้องแสวงหาความร่วมมือที่เพิ่มมากขึ้นจากภาคเอกชน ในกรณีการรับแรงงานต่างด้าวที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายเข้ามาทำงาน โดยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ติดตามไปยังโรงงานต่างๆให้มีระบบตรวจสอบและติดตามแรงงานต่างด้าวที่ทำงานอยู่ และหากโรงงานใดที่มีแรงงานต่างด้าวที่ผิดกฎหมายเข้ามาทำงานก็จะสั่งปิดโรงงานทันที ขณะเดียวกันหากใครที่เข้าข่ายสงสัยว่าอยู่ในกลุ่มเสี่ยงสามารถไปตรวจสอบตามโรงพยาบาลต่างๆเพื่อความปลอดภัยของตัวเองและจะได้ไม่เป็นพาหะนำเชื้อกระจายไปสู่ผู้อื่น |
“เดิมทีคิดว่าแรงงานต่างด้าวที่อยู่ในประเทศจะปลอดภัย แต่ก็พบรอยรั่วตรงส่วนนี้ จากผู้ไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบและมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขซึ่งจะโทษใครไม่ได้ ทุกคนก็มีส่วนร่วมทั้งสิ้น รัฐบาลก็มีมาตรการออกมา กระทรวงสาธารณสุขก็มีการออกหน่วยตรวจติดตามตลอด แต่ก็ยังมีการเล็ดลอดของแรงงานต่างด้าวที่เดินทางกลับประเทศและลักลอบเดินทางเข้ามาอย่างผิดกฎหมายอยู่ จึงเป็นเรื่องที่สังคมต้องช่วยกันหากเป็นเช่นนี้อยู่ก็จะต้องนำไปสู่การล็อกดาวน์ แล้วก็จะมีปัญหาแน่นอน แม้ขณะนี้ยังไม่ถึงจุดนั้นเพราะกระทรวงสาธารณสุขยืนยันว่า ยังสามารถควบคุมได้แต่ก็เตรียมมาตรการไว้พร้อมแล้วทั้งการรักษาโรงพยาบาลและยารักษาโรค”นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่านับจากนี้ไปอีก 7 วัน เป็นช่วงที่จะประเมินว่าการจัดงานเทศกาลปีใหม่ จะอนุญาตให้ดำเนินการได้หรือไม่ เพราะขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินได้ ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก และหวังว่าภายใน 7 วันนี้สถานการณ์จะคลี่คลายลง แต่ยอมรับว่า ระหว่างนี้การตรวจสอบจะต้องพบผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นเพราะเป็นการไปตรวจในกลุ่มของแรงงานต่างด้าว
“ตอนนี้ก็ได้สั่งการให้ทุกจังหวัดใช้ระบบสาธารณสุขเข้าไปสุ่มตรวจในทุกพื้นที่ที่มีแรงงานต่างด้าวอาศัยหรือรวมกลุ่มกันอยู่เป็นจำนวนมาก และอยากให้ทุกคนให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานเพราะถือว่าคนเหล่านี้มีความเสี่ยงหลายคนก็ติดเชื้อ ขณะนี้ต่างประเทศหลายประเทศก็ล็อกดาวน์ไปไม่รู้กี่รอบเรายังไม่ถึงจุดนั้น เรายังรู้ที่มาที่ไปของการแพร่ระบาดอยู่”นายกรัฐมนตรีกล่าว
ส่วนกระแสข่าว มีเจ้าหน้าที่ รู้เห็นและร่วมขบวนการนำแรงงานต่างด้าวเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายนั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าหากมีข้อมูลก็สามารถส่งเข้ามาได้ทันทีอย่ากล่าวหาลอยๆเพราะขณะนี้เจ้าหน้าที่ทุกคนถือว่าทำงานอย่างหนักลาดตระเวนตลอดแต่ก็ยังมีช่องโหว่ที่ทำให้คนเหล่านี้สามารถหลบหนีเข้ามาในประเทศไทยได้เพราะชายแดนไทยกับ ประเทศเพื่อนบ้านมีระยะทางมากถึง 2,500 กิโลเมตร และแม้เจ้าหน้าที่จะทำงานอย่างหนักแต่สิ่งสำคัญคือคนในพื้นที่และชาวบ้านจะต้องให้ข้อมูลเพื่อที่จะให้ง่ายต่อการตรวจสอบด้วย
นายกรัฐมนตรีกล่าวอีกว่า อยากให้เห็นใจเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติงานทุกคน เพราะ สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ ทุกคนก็ทำงานอย่างหนัก ขนาดตนยังนอนไม่ค่อยจะหลับจะหลับ คิดตลอด รับโทรศัพท์ อ่านไลน์ อ่านรายงานและสั่งการตลอด ไม่เคยหยุดนิ่ง ส่วนกระแสดราม่าในโซเชียลมีเดียเรียกร้องให้ปลดนายอนุทิน ชาญวีรกุล ออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขนั้น อยากจะให้ไปย้อนดูว่าการที่จะไปโทษใครคนใดคนหนึ่งถูกต้องหรือไม่ หากเป็นเช่นนั้นก็คงต้องปลดหมดทุกคนไม่ว่าจะเป็นกำลังของทหาร ตำรวจและเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน.-สำนักข่าวไทย