ไทเป 18 พ.ย.- ประธานาธิบดีไช่ อิงเหวินของไต้หวันแถลงวันนี้ว่า กองทัพอากาศได้สั่งจอดฝูงบินขับไล่เอฟ-16 หลังจากเครื่องบินลำหนึ่งหายไปขณะฝึกบิน เป็นการสูญเสียเครื่องบินลำที่สองภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งเดือน และเป็นช่วงที่ไต้หวันปฏิบัติภารกิจบินสกัดเครื่องบินจีนมากขึ้น
ประธานาธิบดีไช่แถลงต่อสื่อว่า กองทัพอากาศได้สั่งจอดฝูงบินเอฟ-16 แล้วเพื่อตรวจสอบ หลังจากกองทัพอากาศแจ้งเมื่อวานนี้ว่า เครื่องบินเอฟ-16 ที่ผลิตโดยสหรัฐขาดการติดต่อไปหลังทะยานขึ้นจากฐานทัพอากาศฮวาเหลียน ริมฝั่งตะวันออกได้ไม่นานเพื่อปฏิบัติภารกิจฝึกบินตามปกติ เป็นการสูญเสียเครื่องบินลำที่สองภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งเดือน เนื่องจากเครื่องบินขับไล่เอฟ-5 เพิ่งตกเมื่อปลายเดือนตุลาคม เป็นรุ่นที่ไต้หวันเริ่มนำมาใช้ตั้งแต่คริสต์ทศวรรษหลังปี 1970 ผู้นำไต้หวันกล่าวด้วยว่า ได้ขอให้กระทรวงกลาโหมมุ่งมั่นเตรียมความพร้อมในการปกป้องและต่อสู้เพื่อความมั่นคงแห่งชาติอย่างแข็งขัน
ด้านกระทรวงกลาโหมขอร้องสื่ออย่าเพิ่งคาดเดาว่าเกิดอะไรขึ้นกับเครื่องบินขับไล่ลำล่าสุด เพราะจำเป็นต้องเดินหน้าภารกิจฝึกบินต่อไปตามที่ยังคงมีภัยคุกคามจากจีนอยู่ สถานการณ์ในช่องแคบไต้หวันทวีความรุนแรง กองทัพจึงต้องเสริมการฝึกซ้อมความพร้อมในการต่อสู้เพื่อปกป้องความมั่นคงแห่งชาติ
รอยเตอร์ระบุว่า ไต้หวันสูญเสียเครื่องบินทหารแล้ว 4 ลำในปีนี้ หลังจากปีที่แล้วสหรัฐได้อนุมัติข้อตกลงจำหน่ายฝูงบินเอฟ-16 มูลค่ารวม 8,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 241,750 ล้านบาท) ให้แก่ไต้หวัน ซึ่งจะทำให้ไต้หวันมีฝูงบินประเภทนี้มากกว่า 200 ลำ มากที่สุดในเอเชีย.- สำนักข่าวไทย