กรุงเทพฯ 10 พ.ย.-“พล.ท.คงชีพ” ระบุภาพรวมสถานการณ์ยาเสพติด พบลักลอบนำเข้าจากนอกประเทศต่อเนื่อง “พล.อ.ประวิตร” ชื่นชมการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย สั่งเข้มตามยึดทรัพย์ผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่และผู้เกี่ยวข้องทุกราย ย้ำห้าม จนท.รัฐยุ่งเกี่ยวเด็ดขาด
พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ภัยเงียบจากยาเสพติดยังคงเป็นภัยคุกคามสังคมที่ใกล้ตัวและทำลายทรัพยากรบุคลากรของชาติ โดยเฉพาะเด็กและเยาวชน และสร้างปัญหาเกิดเป็นอาชญากรรมลูกโซ่ต่อเนื่องตามมาในรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งจำเป็นที่ทุกฝ่ายต้องตระหนัก ตื่นรู้ และมีส่วนร่วมแก้ปัญหาไปด้วยกัน
พล.ท.คงชีพ กล่าวว่า ภาพรวมสถานการณ์ยาเสพติดที่ผ่านมา ยังคงพบการลักลอบนำเข้าจากนอกประเทศอย่างต่อเนื่อง สถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดนของฝ่ายต่อต้านรัฐบาล โดยกลุ่มต่าง ๆ ในประเทศเมียนมาที่ยังคงอยู่ปัจจุบัน ส่งผลให้ปริมาณการผลิตและการลักลอบนำยาเสพติดเข้าไทยมากขึ้น ทั้งทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือผ่านแม่น้ำโขงจากประเทศลาว มีการลักลอบขนย้ายยาเสพติดด้วยการดัดแปลงมาในรูปแบบต่าง ๆ มากขึ้น ครั้งละหลายล้านเม็ด รวมทั้งยังคงพบการกระจายตัวของยาเสพติดในสังคมเมืองหลายชุมชนที่เจ้าหน้าที่กำลังติดตามและปฏิบัติการกวาดล้างจับกุมเครือข่ายขยายโยงไปถึงการยึดทรัพย์รายใหญ่
พล.ท.คงชีพ กล่าวอีกว่า การปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติดตามนโยบายรัฐบาล โดยเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ทั้งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ( ป.ป.ส.) ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ยังคงร่วมปฏิบัติการเฝ้าระวัง สกัดกั้นและจับกุมยาเสพติดตามแนวชายแดนและพื้นที่ชั้นใน รวมทั้งบำบัดฟื้นฟูผู้เสพผู้ติดอย่างต่อเนื่อง โดยรอบเดือนตุลาคม 2563 เจ้าหน้าที่สามารถยึดของกลางยาบ้าได้ถึง 38,134,466 เม็ด , ยาไอซ์ 5,794 กก. จับกุมผู้ต้องหาได้ 26,597 คน โดยกองกำลังป้องกันชายแดนทั้งทางบกและทางน้ำ และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สกัดกั้นการขนย้ายยาเสพติดได้หลายครั้ง มีการขนย้ายจำนวนมากหลายล้านเม็ดในแต่ละครั้งในพื้นที่ จังหวัดเชียงราย เลย บึงกาฬ และพื้นที่ชั้นใน กทม.และปริมณฑล รวมทั้งเส้นทางลงใต้จังหวัดเพชรบุรี
“พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้ชื่นชมและเป็นกำลังใจในการทำงานอย่างแข็งขันของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย โดยย้ำทุกส่วนราชการต้องไม่มีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปยุ่งเกี่ยวเด็ดขาด และขอให้คงความต่อเนื่องปฏิบัติการสกัดกั้น ทั้งยาเสพติดและอาวุธสงครามตามแนวชายแดน ควบคู่กับปฏิบัติการกวาดล้างจับกุมเครือข่ายผู้ค้าในชุมชนเมืองทุกพื้นที่ต่อเนื่อง โดยขอให้กระทรวงมหาดไทย โดยผู้นำท้องถิ่นนำและดึงภาคประชาชนมีส่วนร่วมกันเฝ้าระวังให้เบาะแสมากขึ้น พร้อมทั้งขอให้ ป.ป.ส. และ ปปง.ติดตามขยายผลการจับกุม และนำสู่การยึดทรัพย์ผู้ค้ารายใหญ่และเครือข่ายที่อยู่เบื้องหลังให้ได้ทุกราย เพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่างในสังคม” พล.ท.คงชีพ กล่าว.-สำนักข่าวไทย