ตร.รับใช้แก๊สน้ำตาผสมน้ำสลายชุมนุมแยกปทุมวัน

รัฐสภา 9 พ.ย.- ตร.แจง กมธ.สิทธิมนุษยชนฯ ยอมรับใช้แก๊สน้ำตาผสมน้ำสลายชุมนุมที่แยกปทุมวัน โดยใช้เพียง 1 ครั้ง เพื่อยุติการชุมนุม ไม่เป็นอันตรายต่อผู้ชุมนุม เนื่องจากเป็นการผสมอย่างเจือจาง ยืนยันเป็นไปตามหลักสากล


นายสมชาย แสวงการ ส.ว. ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา เป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์สิทธิมนุษยชนและสิทธิเสรีภาพในการชุมนุมทางการเมือง ในประเด็นกระบวนการและขั้นตอนการควบคุมฝูงชน การออกหมายเรียกและหมายจับแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุม โดยมีตัวแทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เข้าชี้แจง

พ.ต.ต.อนันต์ จันทร์ศรี สารวัตรฝ่ายอำนวยการ 3 กองบังคับการอำนวยการ กองบัญชาการตำรวจนครบาล ชี้แจงถึงมาตรการดูแลผู้ชุมนุม ว่าปฏิบัติตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 มติคณะรัฐมนตรี แผนรักษาความสงบชุมนุมสาธารณะของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2563 และกฎหมายจราจรที่เกี่ยวข้อง


ด้าน พล.ต.ต.สหรัฐ ศักดิ์ศิลปชัย รอง ผบช.น. ชี้แจงถึงการดำเนินการออกหมายเรียกและหมายจับแกนนำผู้ชุมนุมว่า เมื่อมีการกระทำฝ่าฝืนกฎหมาย สืบเนื่องจากการชุมนุม บช.น.จะแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนขึ้นมาเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานที่จะแสวงหาได้ ทั้งภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว คำปราศรัยของแกนนำ จากนั้นจะร่วมกันพิจารณา หากเข้าหลักเกณฑ์ความผิด จะยื่นคำร้องต่อศาลขอออกหมายจับ โดยให้ศาลพิจารณาจากพยานหลักฐานดังกล่าวว่าเพียงพอจะออกหมายจับ หรือให้ตำรวจออกหมายเรียกก่อน

ขณะที่ พ.ต.ท.ชวลิต หรุ่นศิริ รองผู้กำกับการ กองกำกับการควบคุมฝูงชน 2 กองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน ชี้แจงถึงกรณีที่ กมธ.สิทธิมนุษยชนฯ ซักถามถึงการใช้น้ำสลายการชุมนุมบริเวณแยกปทุมวัน เมื่อวันที่ 16 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยยอมรับว่าตำรวจฉีดน้ำแรงดันสูงที่มีส่วนผสมของสารเคมี 2 ชนิด คือ สารเคมีสีฟ้า หรือสารเมทิลไวโอเลตทูบี ชนิดเดียวกับยาม่วงป้ายปาก โดยมีเอกสารยืนยันความปลอดภัยของสารดังกล่าว ทั้งนี้ มีการใช้อัตราส่วนผสม น้ำ 97% สารเมทิลไวโอเลตทูบี 3% ส่วนสารชนิดที่ 2 คือ แก๊สน้ำตา ใช้เพียง 1 ครั้ง เพื่อยุติการชุมนุม โดยไม่เป็นอันตรายต่อผู้ชุมนุม เนื่องจากเป็นการผสมสารอย่างเจือจาง

พ.ต.ท.ชวลิต ชี้แจงต่อว่า ส่วนสาเหตุที่ใช้น้ำสลายการชุมนุม เนื่องจากผู้ชุมนุมเข้าใกล้สถานที่สำคัญระยะ 150 เมตร ซึ่งการฉีดน้ำแบ่งออกเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงแรก ฉีดน้ำเปล่าไปด้านบนและกดต่ำลงพื้นถนน ก่อนประกาศว่าจะใช้รถฉีดน้ำแรงดันสูง เมื่อผู้ชุมนุมยังฝ่าฝืน เริ่มก่อความรุนแรง ในช่วงที่ 2 จึงใช้น้ำสีฟ้า เพื่อระบุตัวบุคคลผู้กระทำผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และสุดท้ายเมื่อสถานการณ์ไม่ยุติ จึงใช้แก๊สน้ำตาสลายการชุมนุม ยืนยันเจ้าหน้าที่ดำเนินการโดยใช้หลักสากล ตามกฎหมาย และเป็นไปตามสถานการณ์.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบนายกฯ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบ “แพทองธาร” นายกฯ ชื่นชมเป็นคนเก่ง-มองโลกบวก เป็นหน้าตาของประเทศ นำเสนอวัฒนธรรม-ซอฟต์พาวเวอร์ ผ่านการประกวด พร้อมชวนร่วมงานรัฐบาล สร้างแรงบันดาลใจเด็กๆ ขณะที่ นายกฯ เขินถูกชมว่าตัวจริงสวย

ล้มล้างการปกครอง

ศาล รธน.มีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้อง “ทักษิณ-พท.” ล้มล้างการปกครอง

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ล้มล้างการปกครอง

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่