กรมธนารักษ์ เยียวยาประชาชนพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษกาญจนบุรี 115 ราย


กาญจนบุรี 30 ต.ค. – กรมธนารักษ์ เยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโครงการพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ จำนวน 115 ราย เป็นเงินกว่า 82.98 ล้านบาท


นายยุทธนา หยิมการุณ อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า ในวันที่ 5 พฤศจิกายน 2563 จะลงพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี ร่วมกับนายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อมอบเงินช่วยเหลือให้กับราษฎรที่ได้รับผลกระทบในที่ดินราชพัสดุ ที่ได้มาตามคำสั่งหัวหน้า คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 75/2559 ในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษกาญจนบุรี ทั้งนี้เพื่อเป็นการดูแลเยียวยา และบรรเทาความเดือดร้อนให้กับราษฎรที่ได้รับผลกระทบ จำนวน 60 ราย เป็นเงินกว่า 40.63 ล้านบาท โดยกรมธนารักษ์จะได้ส่งมอบพื้นที่ให้กับ บริษัท พร้อมเพรียงชัย ก่อสร้าง จำกัด ผู้ได้รับสิทธิพัฒนาในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษกาญจนบุรี เนื้อที่ประมาณ 2,979-0-72 ไร่ เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินโครงการพัฒนาให้เกิดเป็นรูปธรรมและบรรลุเป้าประสงค์สนองนโยบายของรัฐบาลในการปฏิรูปและพัฒนาประเทศเพื่อให้เกิดการค้า การลงทุน การจ้างงานในท้องถิ่นเพื่อสร้างรายได้ และยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในท้องถิ่นให้ดีขึ้น อีกทั้งช่วยให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน สำหรับราษฎรที่ได้รับผลกระทบส่วนที่เหลือจะได้ให้สำนักงานธนารักษ์พื้นที่กาญจนบุรีมอบเงินให้ความช่วยเหลือตามสิทธิที่ได้รับและส่วนประชาชนที่ไม่ยอมรับตามเงื่อนไข จำนวน 45 ราย กรมธนารักษ์จะได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

นอกจากนี้ อธิบดีกรมธนารักษ์ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกด้วยว่า การพัฒนาพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษกาญจนบุรีนั้น กรมธนารักษ์ได้จัดทำสัญญาเช่าที่ดินราชพัสดุกับบริษัท พร้อมเพรียงชัย ก่อสร้าง จำกัด ผู้ได้รับสิทธิพัฒนาในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษกาญจนบุรี แปลงหมายเลขทะเบียนที่ กจ.209 ตำบลบ้านเก่า อำเภอเมืองกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรี เนื้อที่ประมาณ 2,979-0-72 ไร่ เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2561 โดยบริษัทฯ ได้ยินยอมรับเงื่อนไขตามที่ทางราชการกำหนดแล้ว พร้อมทั้งชำระค่าเช่าและค่าธรรมเนียมการจัดให้เช่า รวมเป็นเงิน 78.57 ล้านบาท แต่ยังไม่สามารถส่งมอบพื้นที่ให้กับบริษัทฯ ได้ เนื่องจากมีราษฎรบุกรุกครอบครองเพื่ออยู่อาศัยและทำกินในที่ดินของรัฐโดยมิชอบ แต่อย่างไรก็ตาม อาศัยอำนาจตามมติ กนพ. เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2561 ทางราชการจึงได้มีมาตรการให้ความช่วยเหลือดูแลและเยียวยาเพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนให้กับราษฎรที่ได้รับผลกระทบ โดยเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2562 กระทรวงมหาดไทยได้ดำเนินการตรวจสอบกลั่นกรอง และเห็นชอบค่าช่วยเหลือตามการประเมินราคาค่าขนย้าย (ที่ดิน) ค่ารื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง และค่าพืชผล ให้แก่ราษฎรที่ได้รับผลกระทบ จำนวน 115 ราย เนื้อที่ประมาณ 2,681-2-17 ไร่ เป็นเงิน 82.98 ล้านบาท ตามที่คณะทำงานของจังหวัดกาญจนบุรีเสนอและได้ให้ความเห็นชอบแล้ว และให้กรมธนารักษ์เป็นหน่วยงานขอรับการจัดสรรงบประมาณและมอบเงินให้ความช่วยเหลือดังกล่าว . – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง