กทม. 26 ต.ค.- ลุ้น! คำพิพากษาศาลแพ่ง คดีครอบครัว “ชัยภูมิ ป่าแส” ฟ้องกองทัพบก เรียกค่าเสียหาย 4 ล้าน จากเหตุวิสามัญฯปี 60
ที่ศาลแพ่ง ถนนรัชดาฯ นางนาปอย ป่าแส พร้อมครอบครัวของนายชัยภูมิ ป่าแส ชาวลาหู่ เยาวชนนักกิจกรรมทางสังคมเพื่อกลุ่มชาติพันธุ์
มาฟังคำพิพากษา หลังยื่นฟ้องเรียกร้องค่าเสียหายเป็นเงิน 4 ล้านบาทจากกองทัพบก หน่วยงานต้นสังกัดของทหาร 2 นาย ที่วิสามัญฆาตกรรมนายชัยภูมิ บริเวณด่านรินหลวง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2560 ขณะนายชัยภูมิ กับเพื่อน ขับรถยนต์ผ่านด่านตรวจบ้านรินหลวง ถูกเจ้าหน้าที่ทหารประจำอยู่ที่ด่านตรวจค้นยานพาหนะ ซึ่งกล่าวอ้างว่า นายชัยภูมิ พยายามขัดขืนและทำร้ายเจ้าหน้าที่ด้วยอาวุธมีดและระเบิดขว้างสังหาร เจ้าหน้าที่จึงใช้อาวุธปืนยิงนายชัยภูมิ จนเสียชีวิตหลังเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ระบุว่ากระทำไปเพื่อป้องกันตัวนอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังอ้างว่าพบยาบ้าเป็นจำนวน 2,800 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ในช่องกรองอากาศรถยนต์ของนายชัยภูมิ อีกด้วย
ด้านครอบครัวนายชัยภูมิ เดินหน้าทวงถามความยุติธรรม ทั้งการทวงถามเรื่องกล้องวงจรปิดที่บันทึกเหตุการณ์แต่ไม่มีการตอบรับใดจากเจ้าหน้าที่ จนนำไปสู่การยื่นฟ้องต่อศาลแพ่งเพื่อเรียกร้องค่าเสียหายจากกองทัพบก ซึ่งเป็นหน่วยงานต้นสังกัดของเจ้าหน้าที่ทหาร ที่วิสามัญฆาตกรรมนายชัยภูมิ
ด้านนายไมตรี จำเริญสุขสกุล ประธานกลุ่มรักษ์ลาหู่ ในฐานะผู้ดูแลนายชัยภูมิ ป่าแส ระบุว่า พวกเรามีความคาดหวังว่าคำพิพากษาของศาลวันนี้(26 ต.ค.) จะคืนความยุติธรรมให้ครอบครัวนายชัยภูมิ ที่นอกจากต้องเสียชีวิตจากการถูกวิสามัญฆาตกรรมของเจ้าหน้าที่ ที่ผ่านมาก็ไม่เคยได้รับคำตอบหรือการแสดงความรับผิดชอบหรือขอโทษจากผู้เกี่ยวข้อง ขณะที่พยานหลักฐานสำคัญ เช่น กล้องวงจรปิดบริเวณด่านที่มีถึง 9 ตัว และถูกระบุในเบื้องต้นว่าใช้งานได้ 6 ตัว ก็ไม่ถูกนำมาเปิดเผย ส่วนคดีอาญา ยังอยู่ในชั้นของพนักงานสอบสวน หลังศาลจังหวัดเชียงใหม่ ไต่สวนมูลเหตุการตาย มาจากการกระทำของเจ้าหน้าที่แต่ไม่ได้ชี้ว่าใครถูกใครผิด.-สำนักข่าวไทย