“ชินวัตร” นำมวลชนเคลื่อนไหวกดดันรัฐบาล

ภูมิภาค 22 ต.ค. – ชินวัตร จันทร์กระจ่าง พร้อมเยาวชน นักเรียนกลุ่มคนนนท์ท้าชนเผด็จการ รวมตัวกันหน้าห้างเมเจอร์ฮอลลีวูด สาขาแจ้งวัฒนะ ปราศรัยโจมตีนายกรัฐมนตรี เพื่อกดดันให้ลาออกจากตำแหน่ง


ที่ จ.นนทบุรี นำโดยนายชินวัตร จันทร์กระจ่าง หรือไบร์ท พร้อมเยาวชน นักเรียนกลุ่มคนนนท์ท้าชนเผด็จการ รวมตัวกันตอนประมาณ 16.00 น. ที่หน้าห้างเมเจอร์ฮอลลีวูด สาขาแจ้งวัฒนะ ปากเกร็ด จ.นนทบุรี และใช้เครื่องขยายเสียงปราศรัยโจมตีนายกรัฐมนตรี เพื่อกดดันให้ลาออกจากตำแหน่ง จากนั้นประมาณ 17.00 น. เคลื่อนขบวนไปที่บริเวณท่าน้ำปากเกร็ด เพื่อเปิดเวทีปราศรัยอีกจุด ซึ่งทางไบร์ทยืนยันผู้ชุมนุมจะไม่ใช้ความรุนเเรง พร้อมย้ำถึงข้อเรียกร้องไม่ยอมจำนนต่อเผด็จการ และต้องการให้นายกรัฐมนตรีลาออกภายใน 3 วัน หากไม่เป็นไปตามที่เรียกร้องจะมีการปักหลักชุมนุมในสถานที่สำคัญใน จ.นนทบุรี

ส่วนที่ จ.นครนายก เวลาประมาณ 15.30 น. กลุ่มเด็กนักเรียนรวมตัวกันบริเวณหน้าโรงเรียนนครนายกวิทยาคม ซึ่งเป็นจุดนัดหมายตามที่ได้ประกาศในเพจนครนายกไม่เอาเผด็จการ มีตัวแทนนักเรียนสลับกันขึ้นปราศรัยทางการเมืองบนรถยนต์ติดตั้งเครื่องขยายเสียง มีเนื้อหาหลักๆ คือโจมตีการบริหารงานของรัฐบาลที่ผ่านมา แต่ไม่มีการพูดพาดพิงถึงสถาบัน โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจมาดูแลความเรียบร้อยโดยรอบการชุมนุม ซึ่งเด็กนักเรียนรวมตัวจัดกิจกรรมกันประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นได้แเยกย้ายกลับบ้านกัน
ซ้อน นักเรียนชุมนุมขีดเส้นนายกฯ ลาออก


อีกจังหวัดที่มีการจัดกิจกรรมต่อเนื่องคือ ขอนแก่น กลุ่มแกนนำขอนแก่นพอกันที ดาวดินสามัญชน และภาคีนักเรียน KKC จัดกิจกรรมชุมนุมต่อเนื่องที่บริเวณหน้าโรงเรียนแก่นนครวิทยาลัย มีแกนนำนักเรียนขึ้นปราศรัย พร้อมประกาศข้อเรียกร้องหลัก 3 ข้อ คือให้นายกรัฐมนตรีและคณะลาออก โดยขีดเส้นตายภายในวันที่ 24 ตุลาคมนี้ เปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ และปฏิรูปสถาบัน นอกจากนี้ยังมีข้อเรียกร้องเพิ่มเติมคือ การปฏิรูปการศึกษา และยังรวมไปถึงการคุกคามนักเรียน โดยเฉพาะในประเด็นครูล่วงละเมิดนักเรียน ซึ่งทางกลุ่มผู้ชุมนุมมองว่าเมื่อมีเหตุการณ์เกิดขึ้น แต่ครูที่ก่อเหตุกลับไม่ได้รับโทษที่สมควรได้รับ จึงจำเป็นต้องมีการปฏิรูปการศึกษาโดยด่วน ขณะที่ตำรวจภูธรเมืองขอนแก่นจัดกำลังมาดูแลความเรียบร้อย และอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่สัญจรไปมาในบริเวณดังกล่าว

ส่วนที่ จ.พัทลุง เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา กลุ่มเยาวชนปลดแอกรวมตัวกันบริเวณสวนสาธารณะกาญจนาภิเษก ท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง มีการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ด้วยการชู 3 นิ้ว พร้อมย้ำถึงข้อเรียกร้อง 3 ข้อ คือให้นายกรัฐมนตรีลาออกจากตำแหน่ง ขอให้เขียนรัฐธรรมนูญใหม่โดยประชาชน และปฏิรูปสถาบัน โดยมีตัวแทนเยาวชนสลับกันขึ้นพูดโจมตีรัฐบาล ขณะที่โดยรอบการชุมนุมมีเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในเครื่องแบบและนอกเครื่องแบบ พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เข้าดูแลความสงบเรียบร้อย โดยการชุมนุมก็ผ่านไปด้วยดี ทางกลุ่มได้แยกย้ายกันหลัง 18.00 น. -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง