อุทัยธานี 8 ต.ค. – วันนี้ (8 ต.ค.) จะมีพิธีพระราชทานเพลิงครูและนักเรียน 23 ศพ เหยื่อรถบัสไฟไหม้ บริเวณสนามของโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม จ.อุทัยธานี ญาติและเพื่อนๆ บวชหน้าไฟ 36 รูป เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้ผู้เสียชีวิต คาดมีประชาชนร่วมงานมากกว่า 10,000 คน
วันนี้ (8 ต.ค.) จะมีพิธีพระราชทานเพลิงศพครูและนักเรียนทั้ง 23 ราย จากเหตุรถบัสไฟไหม้ บริเวณสนามของโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม จ.อุทัยธานี เริ่มตั้งแต่เวลา 09.00 น. โดยมีสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดอุทัยธานี เป็นผู้จัดเตรียมงานพิธีและพระราชทานเพลิง เวลา 12.30 น. สำหรับพิธีพระราชทานเพลิงศพ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี เป็นประธานในการพระราชทานเพลิงศพ
สถานที่มีการนำหินคลุกและดินลูกรังหลายพันตันมาถม โดยเจ้าหน้าที่เร่งทำงานกันตลอดช่วงที่ผ่านมา และตลอดทั้งคืน เพื่อให้ทันสำหรับพิธีในวันนี้ ภายในสนามมีการทยอยนำเตาเผาจำนวน 9 เตา การตั้งเต็นท์โดมขนาดใหญ่ พร้อมเก้าอี้ และประดับตกแต่งดอกไม้ที่เสาของเต็นท์ ส่วนที่ราชรถตกแต่งด้วยดอกกล้วยไม้สีขาวบริสุทธิ์
นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี เปิดเผยว่า วานนี้ (7 ต.ค.) มีการซักซ้อมเสมือนจริง โดยจำลองนำราชรถเคลื่อนเข้ามาบริเวณหน้าเตาเผาไฟฟ้า เพื่อดูลำดับและห้วงเวลาในการเคลื่อนร่างทั้งหมด รวมถึงการจัดเส้นทางการเดินเข้าออกของผู้ที่ร่วมพิธีในการวางดอกไม้จันทน์ โดยพิธีทางการจะเริ่มต้นตั้งแต่ 09.30 น. เป็นต้นไป คาดว่าจะมีประชาชนร่วมงานมากกว่า 10,000 คน
ทดสอบความพร้อมระบบเตาเผาไฟฟ้า
นายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย ได้ประสานงานสนับสนุนเตาไฟฟ้า จากทั้งหมด 7 เตา ได้เพิ่มมาอีก 2 เตา รวม 9 เตา ที่จะใช้ในการประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพ คาดว่าการเผาร่างของผู้เสียชีวิตจะใช้ระยะเวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมงต่อ 1 ร่าง และจะเผาร่างเสร็จสิ้นทั้ง 23 ร่าง ใช้ระยะเวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง
ส่วนไฟฟ้าแต่ละเตาเผาจะใช้ไฟประมาณ 15 แอมป์ ขณะนี้การไฟฟ้าเตรียมพร้อมแล้ว โดยมีเครื่องโมบายสำรองไว้ 2 เครื่อง ในกรณีเครื่องมีปัญหาสามารถสแตนบายได้ทันที ซึ่งเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าระดมกันมาทั้งจังหวัดอุทัยธานี เพื่อช่วยงานนี้ให้พร้อมทุกอย่าง
ขณะที่ช่วงบ่ายวานนี้ เจ้าหน้าที่เริ่มทดสอบระบบไฟความร้อน เตาเผาไฟฟ้าซึ่งเป็นเตาปลอดมลพิษ พร้อมกันว่า มีความพร้อมใช้งานหรือไม่ เจ้าหน้าที่ซักซ้อมใช้ราชรถเคลื่อนย้ายศพเพื่อนำมาเผาเตาปลอดมลพิษ จะมีการแบ่งการพระราชทานเพลิงศพเป็นชุด ชุดที่ 1 และชุดที่ 2 จำนวน 7 ร่าง, ชุดที่ 3 จำนวน 6 ร่าง และชุดสุดท้ายเป็นคุณครู 3 ร่าง
หลังจากนั้นจะมีการเก็บอัฐิจนครบทั้ง 23 คน ซึ่งผ้าขาวที่ใช้ในการเก็บอัฐิ ทางครอบครัวของผู้เสียชีวิตได้ขอให้ใช้ผ้าขาวที่ใช้สำหรับการตัดเย็บชุดนักเรียน เนื่องจากอยากให้การจากไปของทั้ง 23 คน เป็นไปอย่างอบอุ่น และถือเป็นคุณค่าทางใจของครอบครัว
บวชหน้าไฟ 36 รูป อุทิศส่วนกุศลเหยื่อรสบัส
วันนี้ที่โบสถ์วัดเขาพระยาพายเรือ มีพิธีบวชหน้าไฟของสามเณรทั้ง 36 รูป เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับผู้เสียชีวิต ซึ่งสามเณรทั้งหมดเป็นทั้งเพื่อนร่วมโรงเรียน ญาติ และเพื่อนร่วมชั้นของผู้เสียชีวิต โดยมีเจ้าคณะอำเภอลานสัก ทำพิธีและห่มผ้าจีวรให้สามเณรทั้ง 36 รูป จากนั้นจะให้สามเณรจำวัดรวมกันภายในศาลาการเปรียญ จนเสร็จสิ้นพิธีพระราชทานเพลิงศพ
พี่สาวของผู้ที่เข้าร่วมบวชสามเณร บอกว่าน้องชายอายุเพียง 6 ขวบ เติบโตและเล่นกันมากับน้องๆ ที่เสียชีวิตหลายคน มีความผูกพัน วันนี้จึงสมัครใจเข้าร่วมพิธีบวชเณร เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้ผู้เสียชีวิต
ห้องเรียนครูจอยเหลือเพียงความทรงจำ
แม้ด้านนอกอาคารจะมีการปรับปรุงสถานที่ใหม่เพื่อให้พร้อมกับการจัดพิธี แต่บรรยากาศภายในห้องเรียนชั้น ป. 3 ซึ่งมีคุณครูพิมพ์ทอง คุณครูจอย หนึ่งในผู้เสียชีวิต เป็นครูประจำชั้น เพื่อนและคนสนิทมาประดับตกแต่งซุ้มดอกไม้แสดงความคิดถึงและความอาลัย ภายในห้องสื่อการสอนที่คุณครูตั้งใจเตรียมไว้สำหรับเด็กๆ ทุกมุมยังคงอยู่ ชั้นวางถูกจัดไว้อย่างเป็นระเบียบ รวมถึงคำปฏิญาณตนของครูที่แปะเอาไว้
จากเหตุการณ์ครั้งนี้ คุณครูผู้เสียสละทุกท่านได้แสดงให้เห็นว่ารักเด็กๆ มาก และทำหน้าที่ได้อย่างดีที่สุดจนนาทีสุดท้ายของชีวิต
ร้านข้าวมันไก่หน้าโรงเรียนตั้งโรงทานรำลึกถึงเด็กๆ
ขณะที่บ้านชั้นเดียวที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี ก่อนหน้านี้ที่ตรงนี้เคยเปิดเป็นร้านขายข้าว ยามเช้าจะมีเด็กๆ มาเข้าคิวซื้อ เพราะรสชาติอร่อยและราคาย่อมเยา มีลูกค้าประจำ รวมถึงน้องๆ นักเรียน 20 คนที่เสียชีวิตจากเหตุรถบัสทัศนศึกษาด้วย
พี่สุเจ้า ของร้าน เล่าให้ฟังว่า จำน้องนักเรียนผู้เสียชีวิตได้ทั้งทุกคน ยังจำได้ว่าเมนูโปรดที่เด็กๆ มักจะชอบรับประทานมากคือข้าวมันไก่ทอด ด้วยความที่เป็นโรงเรียนมีนักเรียนไม่ถึง 200 คน ทำให้มีความผูกพันกัน ช่วงเช้าพ่อแม่หลายคนต้องรีบไปทำไร่ จะมาฝากท้องลูกหลานก่อน วันที่ทราบข่าวแทบใจสลาย ทำให้ตั้งแต่วันแรกของงาน ทุกคนในบ้านหมู่ 5 พร้อมใจกันเป็นจิตอาสาตั้งเต็นท์โรงครัว ตั้งใจจะทำหน้าที่เป็นผู้ทำอาหารให้จนถึงวันสุดท้าย.-สำนักข่าวไทย