ทำเนียบฯ 22 ต.ค.- “พล.อ.ประวิตร” ถกคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมฯ อนุมัติโครงการสำคัญ ย้ำดูแลสิ่งแวดล้อมเพื่อประชาชน
วันที่ 22 ตุลาคม 2563 เวลา 09.00 น. พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (กก.วล.) ครั้งที่ 6/2563 ณ ห้องประชุม 301 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล โดยมี นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รองประธาน นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรรมการและเลขานุการ และ ดร.รวีวรรณ ภูริเดช เลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทำหน้าที่ฝ่ายเลขานุการ ซึ่งมีกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการประชุม
ทั้งนี้ ที่ประชุมฯ ได้มีการพิจารณารายงาน EIA จำนวน 3 โครงการ ได้แก่ 1) โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูส่วนต่อขยาย ช่วงสถานีศรีรัช-เมืองทองธานี ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย โดยเพิ่ม 2 สถานี เพื่อเข้าสู่เมืองทองธานี 2) โครงการรถไฟความเร็วสูง สายกรุงเทพฯ-นครราชสีมา (ช่วงชุมทางบ้านภาชี-นครราชสีมา) ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการส่วนที่เป็นอุโมงค์ การปรับโครงสร้างโครงการบางช่วง การปรับตำแหน่งศูนย์ซ่อมบำรุง และการปรับรูปแบบสถานีนครราชสีมา ให้สอดคล้องกับโครงการรถไฟทางคู่ โดยให้กระทรวงคมนาคมรับความเห็นของคณะกรรมการฯ เกี่ยวกับมาตรการด้านความปลอดภัยในอุโมงค์ไปพิจารณาเพิ่มเติม และ 3) โครงการอาคารเช่าสำหรับผู้มีรายได้น้อย จังหวัดเพชรบุรี (โพไร่หวาน) ของการเคหะแห่งชาติ ซึ่งเป็นโครงการอาคารอยู่อาศัยรวมสำหรับเช่า จำนวน 246 ห้อง
นอกจากนี้ ที่ประชุมฯ ได้พิจารณาเกี่ยวกับการจัดการขยะ ได้แก่ การแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อแก้ไขปัญหาการบริหารจัดการขยะมูลฝอยบนเกาะ เพื่อให้การจัดการขยะมูลฝอยบนเกาะ โดยเฉพาะเกาะที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว มีการจัดการอย่างถูกต้องตามหลักวิชาการ บริหารจัดการขยะมูลฝอยบนเกาะตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง ลดปัญหาการขนส่งขยะข้ามไปกำจัดบนแผ่นดินใหญ่ รวมทั้งเห็นชอบมาตรการการแก้ไขปัญหาการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งที่เกิดขึ้นในประเทศ และที่นำเข้าจากต่างประเทศ โดยมอบให้กระทรวงการคลัง โดยกรมศุลกากร พิจารณาระบบการตรวจสอบตู้บรรทุกสินค้าอย่างเข้มงวด และปรับปรุงกฎหมายเกี่ยวกับการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่นำเข้าอย่างผิดกฎหมาย
ในที่ประชุม พล.อ.ประวิตร ได้กำชับคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ และ ทส. ให้มีการกำกับ ติดตามการดำเนินงาน โดยคำนึงถึงการรักษาสิ่งแวดล้อมตามมาตรการ EIA อย่างเคร่งครัด และโครงการต่างๆ จะต้องมีความปลอดภัย และให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริงด้วย.-สำนักข่าวไทย