หลายจังหวัดนัดชุมนุมคู่ขนานกรุงเทพฯ

ภูมิภาค 19 ต.ค.-ที่ต่างจังหวัดมีการดาวกระจายจัดชุมนุมในหลายพื้นที่ คู่ขนานกับจุดหลักที่กรุงเทพฯ โดยเฉพาะกลุ่มนักเรียนนักศึกษา


เริ่มกันที่ นักศึกษามหาวิทยาลัยทักษิณ จ.สงขลา ร่วมชุมนุมแสดงพลังทวงคืนประชาธิปไตย ที่ลานอเนกประสงค์ภายในมหาวิทยาลัยทักษิณ อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา โดยใช้สโลแกน “ฉันจิบ่ทน” “เผด็จการจงพินาศ ประชาราษฎร์จงเจริญ” “ยกเลิก ส.ว.ทวงคืนอำนาจประชาชน” โดยการชุมนุมครั้งนี้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายรักษาความสงบของมหาวิทยาลัยมาคอยสังเกตการณ์อย่างใกล้ชิด และบริเวณประตู รภป.ของมหาวิทยาลัย มีการตั้งจุดตรวจโดยจะอนุญาตให้เฉพาะนักศึกษามหาวิทยาลัยทักษิณเข้าไปเท่านั้น ทำให้มีนักศึกษาจากสถาบันอื่นที่ไม่สามารถเข้าได้ ยืนรออยู่บริเวณด้านหน้ามหาวิทยาลัย จนกระทั่งแกนนำนักศึกษาพยายามเจรจากับเจ้าหน้าที่ จึงให้นักศึกษาที่เหลือเข้าไปร่วมชุมนุมได้โดยไม่เกิดความรุนแรง กระทั่งเวลา 20.00 น. จึงสลายตัวไป

นักเรียน-นักศึกษา จ.พิษณุโลก ร่วมแสดงพลัง


ส่วนที่มหาวิทยาลัยนเรศวร กลุ่ม NU movement พร้อมด้วยนิสิติ นักศึกษา นักเรียน จากสถาบันการศึกษาในจังหวัดพิษณุโลก ร่วมชุมนุมทำกิจกรรมแสดงออกทางการเมือง โดยมีการสลับกันปราศรัยจากนักเรียน และนิสิต นักศึกษา ทั้งประเด็นขับไล่รัฐบาล การทำงานที่ไม่ชอบธรรม รวมถึงประเด็นสิทธิเท่าเทียมทั้งเพศและการศึกษาที่เท่าเทียมกัน นอกจากนี้ยังร่วมจุดเทียน ร้องเพลงเพื่อมวลชน เพื่อกระตุ้นการแสดงถึงสิทธิทางการเมืองของเยาวชน ก่อนจะยุติการชุมนุมในเวลา 20.30 น.

กลุ่มนักเรียน นักศึกษา ชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถ.ศรีจันทร์

ส่วนที่ จ.ขอนแก่น กลุ่มนักเรียน นักศึกษา นัดรวมตัวกันชุมนุมรอบบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถ.ศรีจันทร์ ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น โดยมีการตั้งขบวนแห่จาก 2 จุด คือ หน้ามหาวิทยาลัยขอนแก่น นักศึกษาใช้รถสองแถว รถจักรยานยนต์ รถยนต์ ส่วนจุดที่ 2 อยู่ที่หน้าโรงเรียนขอนแก่นวิทยายน เป็นกลุ่มนักเรียนที่ใช้ชื่อ กลุ่มภาคีนักเรียน KKC ซึ่งจุดนี้


กระทั่งเวลา 17.00 น. กลุ่มนักเรียนนักศึกษาเดินทางถึงยังลานอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถ.ศรีจันทร์ มีการพลัดกันขึ้นพูดของแกนนำ จากนั้นเวลา 18.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมได้ลงไปใช้พื้นที่ถนน ทางตำรวจได้พยายามเข้าขัดขวางแต่สุดท้ายตำรวจก็ไม่อาจต้าน ยอมให้กลุ่มผู้ชุมนุมลงมาใช้พื้นที่บนถนน โดยมีบางช่วงที่รถพยาบาลขับผ่านกลุ่มผู้ชุมนุมก็ได้ขยับหลบให้กับรถพยาบาลขับผ่านไปได้อย่างราบรื่น

นายอรรถพล บัวพัฒน์ หรือครูใหญ่ แกนนำกลุ่มขอนแก่นพอกันที กล่าวว่า การชุมนุมในครั้งนี้ เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออกจากตำแหน่ง ส่วนการสลายการชุมนุมหรือการจับกุมแกนนำทีละคน ถือว่าเป็นการตัดสินใจที่ผิด เพราะประชาชนถือเป็นดอกไม้ยิ่งเด็ด ดอกไม้ยิ่งงอก ซึ่งตอนนี้แกนนำรุ่นใหม่ของแต่ละจังหวัดก็จะมีมาแทนมากขึ้น เพราะประชาชนทุกคนคือแกนนำพร้อมที่จะลุกขึ้นมาต่อสู้ และเมื่อไม่มีแกนนำการทำงานของเจ้าหน้าที่ก็จะยากขึ้นตาม เพราะแต่ละคนก็จะทำตามใจตัวเองได้ ขอให้มีการปล่อยแกนนำที่ได้มีการจับกุมออกมาได้แล้ว ส่วนตนเองซึ่งมีหมายจับของตำรวจออกมานั้น ก็ได้ไม่กลัวถูกจับกุมแต่อย่างใด เพียงตำรวจเดินเข้ามาแสดงตัวอย่างชัดเจน และใช้อารยะวิธีและสันติ ตนเองก็จะยอมให้จับกุมตัวแต่โดยดี

เยาวชนจันทบุรี แสดงจุดยืน “ ปล่อยพี่เรา”

จังหวัดจันทบุรี เยาวชน ที่ใช้ชื่อว่า อำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชน ได้รวมตัวกันที่สถานที่ออกกำลังกาย ลานจันท์ แยกไฟแดงแวร์ซายด์ ถนนท่าแฉลบ อำเภอเมือง เพื่อแสดงพลัง ขับไล่นายกฯ และรัฐบาล โดยใช้ชื่อการชุมนุมครั้งนี้ว่า “ปล่อยพี่เรา” พร้อมเรียกร้อง ให้มีการปล่อยตัว เยาวชนชาวจันทบุรี 3 คน ที่ถูกจับกุม ในวันที่ 15 ตุลาคม หลังไปร่วมแสดงออกทางการเมืองร่วมกับกลุ่ม ของไผ่ ดาวดิน และข้อเรียกร้องที่ 2 คือต้องการให้นายกรัฐมนตรีลาออก

ต่อมา เวลา 17.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุม ร่วมกันเต้นแอโรบิค ออกกำลังกายประกอบเสียงเพลง จากนั้น นส.ขนิษฐา คงมี นักศึกษาสังกัดอาชีวศึกษาใน จ.จันทบุรี แกนนำผู้ชุมนุม ได้ปราศรัยเป็นคนแรก ก่อนจะผลัดเปลี่ยน หมุนเวียน ขึ้นมาแสดงความรู้สึก ความคิดเห็น โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตลอดจนหน่วยงานความมั่นคง ทั้งในและนอกเครื่องแบบ กระจายกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยโดยรอบการชุมนุม

กระทั่งเวลา 18.00 น. ทั้งหมดร่วมกันยืนตรงเคารพธงชาติ จากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุม ได้แสดงแฟลชม็อบโดยการเปิดไฟจากโทรศัพท์มือถือ เพื่อเป็นสัญญาลักษณ์ ก่อนจะนัดรวมตัวกันอีกครั้ง วันนี้ (19 ต.ค.) ที่บริเวณถนนหน้าโรงเรียน ศรียานุสรณ์ และโรงเรียนเบญจมราชูทิศ

นนทบุรีปิดถนนหน้าเซ็นทรัลเวสต์เกต

และที่ จ.นนทบุรี กลุ่มเครือข่ายคนรุ่นใหม่นนทบุรี และกลุ่มราษฎร รวมตัวกันที่สถานีรถไฟฟ้าสามแยกบางใหญ่ ก่อนจะเดินเท้าไปที่หน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวสต์เกต จากนั้นเวลา 17.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมได้พากันลงไปนั่งบน ถ.กาญจนาภิเษก ฝั่งคู่ขนาน ทำให้รถไม่สามารถสัญจรผ่านไปได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางใหญ่ ต้องปิดช่องทางดังกล่าว แล้วเปิดช่องพิเศษให้รถไปใช้ช่องทางด่วนแทน เพื่อช่วยบรรเทาความแออัดของรถยนต์

จนกระทั่งเวลา 18.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมได้ยืนขึ้นร้องเพลงชาติ บางช่วงมีการเปิดแสงแฟลชจากโทรศัพท์มือถือ ขณะที่ผู้ชุมนุมวันนี้ประกาศย้ำว่าไม่มีใครเป็นแกนนำ เพราะทุกคนถือเป็นแกนนำทั้งหมด ก่อนที่ผู้ร่วมชุมนุมจะผลัดกันขึ้นไปพูดบนรถขยายเสียงเคลื่อนที่ จนกระทั่งเวลา 21.00 น. จึงแยกย้ายเดินทางกลับบ้าน ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เปิดเส้นทางถนนคู่ขนานทันทีหลังมวลชนแยกย้ายกันหมดแล้ว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง