วงจรปิดนาทีรถไฟชนรถยนต์ ตาย 1 เจ็บ 2

เพชรบุรี 16 ต.ค.-เปิดวงจรปิดนาทีรถไฟชนพุ่งชนรถเก๋งที่ จ.เพชรบุรี มีผู้เสียชีวิต 1 คน บาดเจ็บ 2 คน จุดเกิดเหตุเป็นทางข้ามชั่วคราว ระหว่างก่อสร้างทางข้ามรูปเกือกม้า


กล้องวงจรปิด จับภาพขณะรถเก๋ง ซึ่งมีคนขับและผู้โดยสาร รวม 3 คน กำลังข้ามทางรถไฟ ที่บริเวณจุดตัดรถไฟ หมู่ 4 บ้านห้วยโรง ต.ห้วยโรง อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี ถูกขบวนรถไฟด่วนพิเศษ 39 กรุงเทพ-สุราษฎร์ธานี พุ่งเข้าชนอย่างจัง จนทำให้มีผู้เสียชีวิตทันที 1 คน และบาดเจ็บ 2 คน

เหตุเกิดประมาณ 23.00 น. เมื่อคืนที่ผ่านมา ที่เกิดเหตุ พบรถเก๋งสีขาว หมายเลขทะเบียน กต 6403 พระนครศรีอยุธยา ตะแคงหลังคาฟาดติดอยู่กับเสาตอหม้อ สภาพพังยับทั้งคัน ใกล้กันพบศพนางฐิติชญา แย้มเกษร อายุ 21 ปี กระเด็นออกมานอกรถ ส่วนในรถพบผู้บาดเจ็บ 2 คน คือ นายธีระยุทธ เขื่อนทา คนขับรถ อายุ 39 ปี และนายบัณฑิต เจริญทรัพย์ อายุ 33 ปี เจ้าหน้าที่ใช้เวลากว่า 30 นาที ใช้เครื่องตัดถ่างนำผู้บาดเจ็บออกมาจากรถ และรีบนำส่งโรงพยาบาล โดยทั้งหมดเป็นพนักงานโรงงานแห่งหนึ่งใน อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 5 กิโลเมตร ก่อนเกิดเหตุทั้งหมดขับรถออกมาจากโรงงานเพื่อออกมารัประทานอาหารในพื้นที่อำเภอเขาย้อย และกำลังจะกลับไปที่หอพักโดยใช้เส้นทางลัดผ่านจุดตัดทางรถไฟดังกล่าว


ช่วงเช้า ทั้งนายอำเภอ กำนัน และเจ้าหน้าที่การรถไฟ ได้ลงตรวจจุดที่เกิดเหตุ พบว่า บริเวณดังกล่าวกำลังมีการก่อสร้างทางข้ามทางรถไฟรูปเกือกม้า จึงมีการเลื่อนจุดข้ามเดิม ออกมาประมาณ 50 เมตร โดยผู้รับเหมา และด้วยความเห็นชอบของการรถไฟอนุญาตให้ทำทางข้ามชั่วคราว ซึ่งมีลักษณะวิ่งขนานกับรางรถไฟ และเมื่อถึงจุดกลับรถก็หักศอกข้ามทางรถไฟ จึงอาจทำให้วิสัยทัศน์ไม่ดี ประกอบกับไม่มีสัญญาณไฟเตือน จึงน่าจะเป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุดังกล่าว ซึ่งเส้นทางดังกล่าวเป็นเส้นทางเชื่อมระหว่าง ต.ห้วยโรง อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี กับ บ้านแพรกหนามแดง จ.สมุทรสงคราม ซึ่งทั้ง 2 อำเภอเป็นที่ตั้งของโรงงานอุตสาหกรรมจำนวนมาก จึงทำให้ถนนเส้นดังกล่าวมีประชาชนสัญจรผ่านไปมาจำนวนมาก

ด้านนายอำเภอเขาย้อยได้เรียกตัวแทนผู้รับเหมามาพูดคุย สั่งการให้ดำเนินการวางแนวแบริเออร์และสัญญาณไฟมาติดตั้งโดยด่วน เนื่องจากเส้นทางดังกล่าวเป็นทางข้ามชั่วคราวที่ผู้รับเหมาต้องรับผิดชอบ เพราะมีการย้ายทางข้ามจากจุดเดิมมาเป็นจุดใหม่ โดยไม่ติดตั้งสัญญาณไฟ และกำหนดทางวิ่งให้ปลอดภัย.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง