“น้ำอุ่น” รอดนอนคุก คดี “ลันลาเบล” ศาลให้ประกันตัว

กทม.14 ต.ค.- ศาลชั้นต้นสั่งจำคุก “น้ำอุ่น” กับพวกอีก 5 พร้อมให้ชดใช้กว่า 7 แสน คดีการตาย “พริตตี้ลัลลาเบล” ล่าสุดศาลอาญาธนบุรีอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว วงเงินประกัน 350,000 บาท ส่วนจำเลยที่ 2-6 สมาชิกแก๊งบ้านปาร์ตี้บางบัวทอง ให้ประกันตัววงเงินประกัน 150,000 บาท


ศาลอาญาธนบุรี อ่านคำพิพากษาศาลชั้นต้น คดีการเสียชีวิตของ”พริตตี้ลัลลาเบล” มีนายรัชเดชหรือน้ำอุ่น วงศ์ทะบุตร จำเลยที่ 1, นายชัยพล หรือคิว พรรณนา จำเลยที่ 2 , นายนที หรือตี๋ สถิตพงษ์สถาพร จำเลยที่3, น.ส.พิกุลทอง หรือเฟิร์ส บุญภา จำเลยที่ 4 , นายกฤษฎาหรือโนบิ โลหิตดี จำเลยที่ 5, นายโกเศศ หรือปิงปอง ฤทธิ์นิธิฤกษ์ จำเลยที่ 6

 สืบเนื่องจากวันที่ 16 กันยายน 2562 เวลากลางวัน จำเลยทั้งหกได้สมคบกันกระทำความผิดฐานซ่องโจร จำเลยที่ 1 กระทำความผิดฐานกระทำอนาจาร พาผู้อื่นไปเพื่อการอนาจาร หน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นเป็นเหตุให้ผู้ถูกหน่วงเหนี่ยวกักขังถึงแก่ความตาย และจำเลยที่ 2 ถึง จำเลยที่ 6 เป็นผู้สนับสนุนจำเลยที่ 1 กระทำความผิด ซึ่งจำเลยทั้งหกให้การปฏิเสธ


ทั้งนี้มารดาผู้ตายได้ยื่นคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ร่วม และยื่นคำร้องขอให้จำเลยทั้งหกชดใช้ค่าสินไหมทดแทน

ศาลสืบพยานโจทก์และโจทก์ร่วม 30 ปาก สืบพยานจำเลย  6 ปาก แล้ววินิจฉัยข้อเท็จจริงสรุปความเกี่ยวกับการกระทำความผิดของจำเลยทั้งหก ซึ่งมีพยานโจทก์เบิกความยืนยันในชั้นศาลสอดคล้องกับคำให้การชั้นสอบสวน โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิด คลิปวิดีโอจากโทรศัพท์เคลื่อนที่ของจำเลยทั้งหก บันทึกการสนทนาในแอปพลิเคชันไลก์ รายงานผลการสืบสวนพฤติกรรมของบุคคล บันทึกการชี้ตัวของพยานซึ่งได้กระทำทันทีหลังเกิดเหตุ ผลการชันสูตรพลิกศพ และผลตรวจทางห้องปฏิบัติการ

เมื่อศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า การกระทำของจำเลยที่ 1 ป็นการหน่วงเหนี่ยวกักขังเป็นเหตุให้ผู้ตายถึงแก่ความตาย ชี้ว่าจำเลยที่ 1 จบการศึกษาถึงระดับปริญญาตรี แต่ขณะที่ผู้ตายอยู่ในสภาพหมดสติมีอาการโคม่า กลับพาไปยังห้องพักในคอนโดมิเนียมของจำเลยที่ 1 จำเลยย่อมเล็งเห็นได้ว่าผู้ตายอาจได้รับอันตรายถึงชีวิตหากไม่ได้รับการรักษาทันท่วงที  


ส่วนจำเลยที่ 2-6 เคยเข้าร่วมงานเลี้ยงในลักษณะนี้มาก่อน รู้ว่าจำเลยที่ 1 มีเจตนามอมเหล้าผู้ตาย แต่ไม่ขัดขวางห้ามปราม กลับชักชวนให้ผู้ตายดื่มสุรา และยอมให้จำเลยที่ 1 พาผู้ตายซึ่งหมดสติออกไปจากงานเลี้ยง การกระทำของจำเลยที่ 2 -6 ดังกล่าวถือเป็นการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกแก่จำเลยที่ 1 ในการพาผู้ตายไปเพื่อการอนาจาร ส่วนความผิดฐานซ่องโจร โจทก์ไม่มีพยานมาสืบให้เห็นว่า จำเลยทั้งหกสมคบหรือตกลงจะกระทำความผิดแต่อย่างใด จึงฟังได้ว่าจำเลยที่ 2-6 เป็นเพียงผู้สนับสนุนการกระทำความผิดของจำเลยที่ 1 เท่านั้น ให้ยกฟ้องในความผิดฐานซ่องโจร

ศาลพิพากษาลงโทษ นายน้ำอุ่น จำเลยที่ 1 ฐานหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นเป็นเหตุให้ผู้ถูกหน่วงเหนี่ยวกักขังถึงแก่ความตาย ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุด ให้จำคุก 8 ปี, ลงโทษจำเลยที่ 2 -6 ฐานเป็นผู้สนับสนุนจำเลยที่ 1 กระทำความผิดฐานดังกล่าวให้จำคุกคนละ 5 ปี 4  เดือน และให้จำเลยทั้งหกร่วมกันชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์ร่วมจำนวน 748,660 บาทข้อหาอื่นนอกจากนี้ให้ยก

หลังคำพิพากษา นายชวลิต และนางศุภามาศ นรพันธ์พิพัฒน์ บิดา มารดา”ลันลาเบล” เปิดใจทั้งน้ำตาว่า พอใจกับคำพิพากษา ตลอด 1 ปี ที่ผ่านมา กว่าจะผ่านไปแต่ละวันยากลำบาก วันนี้(14 ต.ค.)เหมือนคืนความยุติธรรมให้กับลูกสาว และจะเลี้ยงน้องแบมแบม หลานสาวให้ดีที่สุด ทุกวันนี้หลานสาวยังถามหา”แม่อยู่บนสวรรค์ มีเครื่องบินแล้วเมื่อไหร่จะกลับมา” มองว่าอาชีพพริตตี้ทุกคนสามารถทำได้ และทุกอาชีพก็มีความเสี่ยงเช่นเดียวกัน จึงอยากให้ทุกคนโดยเฉพาะผู้หญิงระมัดระวังตัวและว่าตอนนี้ขาดรายได้จึงหันมาทำขนมขาย สามารถอุดหนุนได้ที่เพจ fb แบมแบมคาราเมล คอร์นเฟลค

ด้านนายชวลิต บิดา กล่าวว่า แม้จำเลยจะติดคุก สุดท้ายก็ออกมาได้อยู่ดี แต่ลูกสาวตนไม่สามารถฟื้นขึ้นมาได้ ทุกวันนี้ทำงานหนักเหมือนต้องนับหนึ่งใหม่ หลังเกิดเรื่อง อีกฝ่าย ก็ไม่เคยแม้แต่จะติดต่ออะไรมา

ขณะที่ทนายความระบุว่า อัตราโทษที่ได้รับก็สมควรแก่เหตุแล้ว ส่วนจำเลยทั้ง 6 คน จะขอยื่นอุทธรณ์หรือไม่ เป็นสิทธิ์ที่สามารถทำได้ หลังจากนี้ สิ่งสำคัญคือ อยากให้ทุกคนช่วยสนับสนุนพ่อแม่ของ”ลัลลาเบล”เพราะต้องทำงานหาเงินมาเลี้ยงดูหลานสาว ซึ่งมีความลำบากมาก ในคำพิเคราะห์ของศาลมีการระบุถึง จำเลยที่ 1 ได้กระทำอนาจารผู้ตาย โดยใช้กลอุบายหลอกล่อให้ผู้ตายดื่มสุราในปริมาณมากและอย่างรวดเร็ว เพื่อให้ผู้ตายหมดสติอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืน และได้พาผู้ตายซึ่งหมดสติขึ้นรถยนต์ไปที่คอนโดฯของจำเลยที่ 1 โดยมีเจตนาที่จะล่วงละเมิดทางเพศผู้ตาย ประกอบกับมีพยานโจทก์นายแพทย์ผู้ชันสูตรพลิกศพให้ความเห็นว่า ผู้ตายเสียชีวิตในช่วงเวลา 15.00-19.00 น. สาเหตุการตายเกิดจากภาวะการหายใจล้มเหลวอันเนื่องจากพิษของเอทิลแอลกอฮอล์ (เอทานอล) อย่างฉับพลัน ผู้ตายมีปริมาณเอทานอลในเลือดสูงถึง431.76   มิลลิกรัมเปอร์เซ็น ซึ่งเป็นปริมาณที่มากกว่าการดื่มสุราตามปกติ ซึ่งทำให้เสียชีวิตได้ แต่หากมีการนำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อทำการรักษาก็สามารถจะช่วยชีวิตได้ ประกอบกับผู้ตายสวมใส่นาฬิกาสมาร์ทวอทช์ ซึ่งจับการทำงานของหัวใจได้ว่ามีเลือดไหลเวียนครั้งสุดท้ายในเวลา 17.10 น. จึงเชื่อว่าผู้ตายถึงแก่ความตายระหว่าง เวลา 17.10 -19.00 น.

ล่าสุดศาลอาญาธนบุรีอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราวนายรัชเดช หรือน้ำอุ่น จำเลยที่ 1 โดยตีวงเงินประกัน 350,000 บาท ส่วนจำเลยที่ 2-6 สมาชิกแก๊งบ้านปาร์ตี้บางบัวทอง ศาลอนุญาตให้ประกันตัวโดยตีวงเงินประกัน 150,000 บาท โดยไม่ได้กำหนดเงื่อนไข ทั้งนี้ นายเกิดผล ทนายความระบุว่า หลังจากนี้จะคัดคำพิพากษาของศาลเพื่อเตรียมยื่นอุทธรณ์ต่อไป .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง