กาฬสินธุ์ 13 ต.ค.-พ่อแท้ๆ เด็กชาย 3 ขวบช็อก เพิ่งรู้ลูกชายเสียชีวิต เผยติดใจสาเหตุ เตรียมเข้าแจ้งความ ด้านผู้ว่าฯ กาฬสินธุ์สั่งสอบหาสาเหตุ
ความคืบหน้าเด็กชายวัย 3 ขวบ ชาว อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ เสียชีวิตปริศนาและได้ส่งศพไปให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญผ่าชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียดที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น โดยแพทย์พบบาดแผลขัดแย้งกับการสอบประวัติเด็กชายที่เสียชีวิต โดยเฉพาะหน้าผากมีอาการบวมปูด ขอบตาบวมมีรอยเขียวช้ำ และกระดูกข้อต่อบริเวณศอกแขนข้างซ้ายหลุดออกจากกัน สงสัยว่าเด็กอาจถูกทำร้ายร่างกายหรือไม่
ล่าสุดนายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าฯ กาฬสินธุ์ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุได้รับทราบข้อมูลจากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.กาฬสินธุ์ และบ้านพักเด็กว่ามีกรณีเด็กชายอายุ 3 ขวบเสียชีวิต โดยทางญาติแจ้งว่าเด็กได้รับบาดเจ็บมาก่อนจากการตกเตียงนอนแล้วล้มฟุบในห้องน้ำแล้วเสียชีวิต ซึ่งจากการติดตามตรวจสอบสภาพร่างกายบาดแผลของเด็ก พบว่ามีบาดแผลหลายแห่ง ซึ่งแพทย์มีข้อสงสัยหลายอย่างว่าเป็นอุบัติเหตุตกจากเตียงจริงหรือไม่ ดังนั้นตนเองจึงได้สั่งการไปยังสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.กาฬสินธุ์ ให้ประชุมเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพ มีทั้งเจ้าหน้าที่อัยการ ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เร่งดำเนินการตรวจสอบ โดยเฉพาะครอบครัวเด็กนั้นมีสิทธิประโยชน์อะไรบ้าง และที่สำคัญต้องให้ความเป็นธรรมครอบครัวของเด็กที่เสียชีวิตว่า สาเหตุที่เสียชีวิตนั้นเกิดจากเหตุที่ญาติแจ้งว่าตกเตียง หกล้มหรือไม่อย่างไร
นายทรงพล กล่าวอีกว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ส่งศพไปชันสูตรที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่นแล้ว เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงว่าเกิดจากสาเหตุใดกันแน่ ซึ่งเรื่องดังกล่าวต้องทำให้เกิดความแน่ชัดว่าสาเหตุการเสียชีวิตเกิดจากอะไร หากเกิดจากการตกเตียง หรือหกล้มก็ว่ากันไปถือเป็นอุบัติเหตุ แต่หากเป็นกรณีที่เกิดจากการกระทำของบุคคลที่ทำร้ายเด็กคนทำจะต้องถูกดำเนินการ โดยได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฎหมายอย่างถึงที่สุด แม้ญาติจะไม่ติดใจก็ตาม
อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวได้รับโทรศัพท์การจากนายวัฒน์พงษ์ สาลี อายุ 31 ปี ซึ่งเป็นพ่อแท้ๆ ของเด็กชายวัย 3 ขวบ โดยนายวัฒน์พงษ์ เปิดเผยว่า ตนเองเพิ่งทราบข่าวว่าลูกชายเสียชีวิตเมื่อวันที่ 12 ตุลาคมที่ผ่านมา เนื่องจากพยายามสอบถามเพื่อนๆ ที่อยู่ จ.กาฬสินธุ์ แต่ลูกชายนั้นเสียชีวิตตั้งแต่วันที่ 10 ตุลาคม 2563 แล้ว ทำให้ตกใจและช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างมาก เพราะไม่คิดว่าลูกชายจะเสียชีวิตอย่างกะทันหัน
ทั้งนี้ตนเองและอดีตภรรยานั้นอยู่กินด้วยกันมีลูกชาย 1 คน ก่อนจะแยกทางกัน ซึ่งตนเองกลับมาบ้านที่ จ.กำแพงเพชร และปัจจุบันทำงานเป็นครูที่ จ.เชียงราย ซึ่งทางอดีตภรรยานั้นไม่อยากให้ตนเองติดต่อและมาหาลูกอีก เพราะมีครอบครัวใหม่แล้ว แต่การเสียชีวิตครั้งนี้จะเดินทางไปแจ้งความกับตำรวจ เพราะติดใจในสาเหตุการเสียชีวิตของลูกชาย เนื่องจากเท่าที่ทราบบาดแผลนั้น ไม่เชื่อว่าสาเหตุเกิดจากการตกเตียง หรือหกล้มในห้องน้ำ โดยเฉพาะหน้าผาก และกระดูกแขนหลุด เหมือนตกตึก 2 ชั้น.-สำนักข่าวไทย