ครม.เปิดโครงการฝึกอบรมเพื่อชะลอการว่างงาน

ทำเนียบฯ 12 ต.ค.-ครม. เปิดโครงการฝึกอบรมเพื่อชะลอการว่างงานภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ ปรับ โครงการกำลังใจและโครงการเราเที่ยวด้วยกันถึง 31 มกราคม 2564 พร้อมให้ใช้สิทธิในภูมิลำเนาได้


นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุม ครม.เห็นชอบหลักการโครงการฝึกอบรมเพื่อชะลอการว่างงานในภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ ของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก และการปรับปรุงœโครงการกำลังใจ และโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมภาคการท่องเที่ยว

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า โครงการฝึกอบรมเพื่อชะลอการว่างงานในภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ ของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาบุคลากรในอุตสาหกรรมผู้ผลิตชิ้นส่วนและยานยนต์และอุตสาหกรรมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ให้มีความรู้และทักษะสำหรับการทำงานร่วมกับกระบวนการผลิตบนแพลตฟอร์มอุตสาหกรรม 4.0 กลุ่มเป้าหมายคือผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ที่เข้าร่วมโครงการ 34 ราย


นายอนุชา กล่าวว่า กลุ่มเป้าหมาย คือ บุคลากรจำนวน 9,500 คน จากภาคอุตสาหกรรมเข้าร่วมการอบรมหลักสูตรระยะสั้น ร่วมงานผู้ผลิตรถยนต์ และผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์แบ่งเป็น 3 กลุ่ม ประกอบด้วย การจัดอบรมหลักสูตร technology management for technical supervisors ให้กับ supervisors และพนักงานในระดับผู้จัดการของผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์จำนวน 2,300 คน การจัดอบรมหลักสูตรอุตสาหกรรม 4.0 สำหรับพนักงานระดับปฏิบัติการให้กับพนักงานระดับปฏิบัติการของผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ จำนวน 3,600 คน และการจัดอบรมหลักสูตรอุตสาหกรรม 4.0 สำหรับพนักงานระดับแรงงานให้กับพนักงานระดับแรงงานของผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์จำนวน 3,600 คน โดยมีกรอบวงเงินโครงการฯ 186.2845 ล้านบาท

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สำหรับโครงการ ฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมภาคการท่องเที่ยว ปรับปรุงรายละเอียดของโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมภาคการท่องเที่ยว ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ทั้งนี้ เพื่อให้ โครงการกำลังใจ และ โครงการเราเที่ยวด้วยกัน สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจและฟื้นฟูผู้ประกอบธุรกิจในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยได้อย่างทั่วถึง บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยการอนุมัติให้เจ้าหน้าที่ศูนย์บริการสาธารณสุข สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร จำนวน 570 คน และเจ้าหน้าที่หัวหน้างานสาธารณสุขมูลฐานและงานสุขภาพภาคประชาชนระดับจังหวัดและระดับอำเภอ กระทรวงสาธารณสุข จำนวน 2,615 คน ให้สามารถเข้าร่วมโครงการกำลังใจได้ การอนุมัติให้ผู้ที่เข้าร่วมโครงการเราเที่ยวด้วยกันสามารถใช้บริการโรงแรมที่พักและใช้ E-Voucher สำหรับค่าสนับสนุนอาหาร ค่าเข้าชมแหล่งท่องเที่ยว ค่าสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) ในจังหวัดภูมิลำเนาตามทะเบียนบ้านได้ และอนุมัติขยายระยะเวลาดำเนินโครงการกำลังใจและเราเที่ยวด้วยกัน ไปถึงวันที่ 31 มกราคม 2564.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง