วอชิงตัน 7 ต.ค.- สำนักงานอาหารและยาสหรัฐหรือเอฟดีเอ (FDA) แจ้งผู้พัฒนาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ว่าต้องการข้อมูลความปลอดภัยอย่างน้อย 2 เดือนก่อนจะอนุมัติให้ใช้ฉุกเฉิน ซึ่งจะทำให้สหรัฐไม่น่ามีวัคซีนใช้ก่อนวันเลือกตั้ง 3 พฤศจิกายนตามเวลาสหรัฐ
เจ้าหน้าที่รัฐบาลยืนยันว่า ทำเนียบขาวอนุมัติแนวทางของเอฟดีเอที่มีความเข้มงวดมากขึ้นแล้ว หลังจากหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์รายงานเมื่อวันจันทร์ว่า ทำเนียบขาวไม่อนุมัติ นพ.ปีเตอร์ มาร์กส์ ผู้อำนวยการแผนกอนุมัติวัคซีนของเอฟดีเอแถลงว่า แนวทางของเอฟดีเอมีความชัดเจนและเปิดกว้างเพื่อให้เงื่อนไขในการอนุมัติให้ใช้วัคซีนโรคโควิด-19 เป็นการฉุกเฉินมีความเหมาะสมและจำเป็นต่อการสร้างความเชื่อมั่นให้สาธารณะและรับประกันการใช้งานทันทีที่ใช้ได้ ด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ทวีตแสดงความไม่พอใจว่า ระเบียบใหม่ของเอฟดีเอทำให้ผู้พัฒนาวัคซีนมีปัญหาในการเร่งพัฒนาเพื่อให้ได้รับการอนุมัติก่อนวันเลือกตั้ง เป็นการทำลายชื่อเสียงทางการเมืองอีกครั้งหนึ่ง
ทั้งนี้หากเอฟดีเอยึดตามแนวทางที่แถลง ก็ไม่น่าจะอนุมัติให้ใช้วัคซีนโรคโควิด-19 เป็นการฉุกเฉินได้ก่อนปลายเดือนพฤศจิกายน เพราะต้องการข้อมูล 2 เดือนของอาสาสมัครครึ่งหนึ่งที่เข้าร่วมการทดลอง ขณะที่ทำเนียบขาวสามารถอนุมัติให้ใช้โดยไม่ต้องรอข้อมูลความปลอดภัยเพิ่มเติม แต่จะขัดแย้งกับเอฟดีเอและแวดวงนักวิทยาศาสตร์ และเพิ่มความรู้สึกว่าการผลักดันวัคซีนเป็นเรื่องทางการเมือง
บริษัทแรกที่คาดว่าจะแจ้งผลการทดลองระยะสุดท้ายในสหรัฐคือ ไฟเซอร์ของสหรัฐที่พัฒนาวัคซีนร่วมกับไบโอเอ็นเทคของเยอรมนี อาสาสมัครครึ่งหนึ่งจากทั้งหมด 44,000 คนได้รับวัคซีนโดสสองจากทั้งหมดสองโดสเมื่อปลายเดือนกันยายน ส่วนบริษัทที่สองน่าจะเป็นโมเดอร์นา ขณะที่ Operation Warp Speed โครงการพัฒนาวัคซีนของรัฐบาลสหรัฐแถลงว่า จะมีข้อมูลประสิทธิภาพวัคซีนหนึ่งหรือสองขนานภายในหนึ่งถึงสองเดือน และควรจะผลิตได้มากพอจะให้แก่ประชาชน 30 ล้านคนระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนธันวาคม.- สำนักข่าวไทย