กทม. 5 ต.ค. – วันนี้พาไปดูเครื่องมือที่จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตของเด็กๆ หากเกิดกรณีติดอยู่ภายในรถตู้โรงเรียน โดยภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ทดลองผลิตอุปกรณ์ขึ้นมา หวังให้สังคมตระหนัก เพื่อสร้างมาตรฐานความปลอดภัยร่วมกัน
กลายเป็นความสูญเสียครั้งแล้วครั้งเล่ากับเหตุการณ์เด็กเล็กชั้นอนุบาลติดอยู่ในรถตู้รับ-ส่งนักเรียน แม้โรงเรียนและผู้ปกครองจะพยายามระมัดระวัง แต่เหตุการณ์ไม่คาดคิดก็อาจเกิดขึ้นได้อีก
อาจารย์ประจำสาขาวิชาวิศวกรรมไฟฟ้า คณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เล็งเห็นว่าระบบที่เป็นมาตรฐานของความปลอดภัยในรถตู้น่าจะเป็นเครื่องมือที่เข้ามาช่วยลดความสูญเสียกับกรณีนี้ได้ จึงคิดค้นทำอุปกรณ์ช่วยลดความเสี่ยงการเสียชีวิตของเด็กในรถตู้ขึ้นมา เป็นเซ็นเซอร์จับสัญญาณว่ามีเด็กติดอยู่ในรถหรือไม่
โดยการติดตั้งจะมีกล่องควบคุมอุปกรณ์ที่ส่งเสียงเตือน มีสวิตช์เปิด-ปิด มีเซ็นเซอร์ที่ติดอยู่ในรถ และชุดสายไฟเชื่อมต่ออุปกรณ์ หลักการทำงานจะเริ่มขึ้นเมื่อดับเครื่องยนต์และดึงกุญแจออกจากรถ จากนั้นเมื่อมีเด็กเคลื่อนไหว เซ็นเซอร์จะจับสัญญาณ ซึ่งเซ็นเซอร์ที่ติดจะสามารถตรวจสอบความเคลื่อนไหว และตรวจสอบการสะท้อนกลับ มีรัศมี 1เมตรครึ่ง ตามขนาดรถตู้
ทีมข่าวได้ขอจำลองการติดตั้งอุปกรณ์กับรถ เพื่อทดสอบสัญญาณ จะเห็นว่าตัวเซ็นเซอร์จะแสดงไฟสีเขียวเมื่อภายในรถนิ่ง ไม่มีคนเคลื่อนไหว แต่ถ้าเด็กที่ติดอยู่ในรถตื่น ลุกขึ้นเดิน ขยับตัว หรือโบกมือ เซ็นเซอร์จะจับสัญญาณ ไฟจะเปลี่ยนเป็นสีแดง กระจกจะลดเพื่อให้อากาศถ่ายเท จากนั้นไม่เกิน 2 วินาที สัญญาณจะดัง โดยจะเชื่อมกับสัญญาณกันขโมย ส่วนการติดจะอยู่บริเวณหลังคาด้านในรถ เบาะแถวหน้าหลังคนขับ และใกล้ไฟระหว่างเบาะกลางกับเบาะแถวสุดท้าย ซึ่งการตรวจเช็กต้องทำปีละครั้ง สิ่งสำคัญเมื่อติดตั้งอุปกรณ์แล้ว ควรซักซ้อมจำลองเหตุการณ์ เพื่อให้เด็กได้รับรู้และเข้าใจ
อุปกรณ์ช่วยลดความเสี่ยงการเสียชีวิตของเด็กในรถตู้ชิ้นนี้ มีต้นทุนไม่เกิน 15,000 บาท ซึ่งสาขาวิชาวิศวกรรมไฟฟ้า สถาบันพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง มีแนวคิดโครงการนำร่องติดตั้งฟรี และพร้อมให้ความร่วมมือกับค่ายรถยนต์ พร้อมหวังให้หน่วยงานที่รับผิดชอบออกระเบียบสร้างมาตรฐานความปลอดภัยรถตู้รับ-ส่งนักเรียน .-สำนักข่าวไทย