ให้คำมั่นปกป้องสถาบัน ทำกองทัพปึกแผ่น

กองบัญชาการกองทัพบก 29 ก.ย.-“พล.อ.อภิรัชต์” ส่งมอบหน้าที่ผู้บัญชาการทหารบกให้แก่ “พล.อ.ณรงค์พันธุ์ จิตต์แก้วแท้” มั่นใจนำกองทัพบกเป็นปึกแผ่น ขณะที่ว่าที่ผบ.ทบ.ใหม่ให้คำมั่นสานต่องาน ปกครองกำลังพลด้วยความเป็นธรรม พร้อมปกป้องสถาบัน เตรียมเปิดใจ 6 ต.ค.


พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก ทำพิธีรับส่งหน้าที่ต่อให้กับ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบกคนใหม่ โดยกองทัพบกจัดพิธีสวนสนามจากทหารกองเกียรติยศ รวม 561 คน ก่อนทำพิธีสำคัญคือการส่งมอบธงประจำกองทัพบก ซึ่งก่อนหน้านี้มีพิธีสักการะศาลพระชัยมงคลภูมิ เสร็จแล้วจึงวางพานพุ่มถวายสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 5 ณ บริเวณหน้าหอประชุมกิตติขจร และลงนามเอกสารรับ – ส่งหน้าที่ผู้บัญชาการทหารบก

พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า ภาคภูมิใจในการทำหน้าที่ปกป้องค้ำชูสถาบัน สร้างสันติสุข ขณะดำรงตำแหน่ง หวังให้กองทัพดำรงไว้ซึ่งศักดิ์ศรีและสถาบัน และพยายามปฏิรูปให้กองทัพทันสมัยก้าวหน้าทุกมิติ ดูแลคุณภาพชีวิตกำลังพล ให้เป็นที่พึ่งประชาชน และเชื่อมั่นในความรู้ความสามารถของพล.อ.ณรงค์พันธ์ ซึ่งมีประสบการณ์ มีจิตวิญญาณทหาร ที่ยึดมั่นชาติ ศาสนา กษัตริย์ และเป็นผู้บัญชาการกองทัพบกที่จะขับเคลื่อนด้วยความมั่นคงเป็นปึกแผ่นต่อไป


ด้านพล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวรับหน้าที่ว่า จะสานต่อภาระหน้าที่นโยบายและอุดมการณ์ของพล.อ.อภิรัชต์อย่างเต็มความสามารถ และปกครองผู้ใต้บังคับบัญชาด้วยความเป็นธรรม เอาใจใส่ และพร้อมนำกำลังพลในกองทัพปฏิบัติภารกิจบนพื้นฐานความสามัคคี ความร่วมแรงร่วมใจเพื่อพัฒนากองทัพบกให้จริญก้าวหน้า เป็นสถาบันหลักด้านความมั่นคง ค้ำจุนประเทศ ชาติและราชบัลลังก์อย่างยั่งยืนตลอดไป

ทั้งนี้ ภายหลังพิธีกล่าวอำลา พล.อ.อภิรัชต์ได้เดินมาหาน.ส.อนุกูล วงษ์บัวทอง ผู้สื่อข่าวอาวุโสสายทหาร พร้อมอวยพรให้ดูแลสุขภาพให้แข็งแรง อายุยืน โดยน.ส.อนุกูลน้ำตาคลอ และกล่าวอวยพรให้พลงอ.อภิรัชต์โชคดี ก่อนสวมกอดกัน และพล.อ.อภิรัชต์ได้ขอบคุณผู้สื่อข่าวสายทหารก่อนขึ้นรถและเดินทางออกจากกองบัญชาการกองทัพบกทันทีโดยโบกมือลาบนรถให้กับสื่อด้วย

ขณะที่พลเอกณรงค์พันธ์ ผู้บัญชาการทหารบกคนใหม่ ปฏิเสธให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน หลังสื่อพยายามสอบถามเกี่ยวกับความรู้สึกการรับตำแหน่ง โดยกล่าวสั้น ๆ ว่า เตรียมพบกันในวันที่ 6 ตุลาคม2563 ซึ่งเป็นวันเรียกประชุมผู้บังคับบัญชาหน่วยขึ้นตรงกองทัพบกครั้งแรก ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้พล.อ.ณรงค์พันธ์เคยระบุว่าจะไม่ให้สัมภาษณ์เรื่องการเมือง


สำหรับพล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 22 โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รุ่นที่ 33 เคยดำรงตำแหน่งสำคัญของกองทัพบก อาทิ ผู้บัญชาการกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ แม่ทัพภาคที่ 1 และตำแหน่งผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก ก่อนได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯให้ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก คนที่ 42.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง