โซล 23 ก.ย.- ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขเตือนว่า โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 และโรคไข้หวัดใหญ่ อาจระบาดซ้อนกันในเกาหลีใต้ ช่วงฤดูหนาวนี้ เนื่องจากการบริหารจัดการวัคซีนไข้หวัดใหญ่อย่างไม่ถูกต้องอาจทำให้สถานการณ์โรคโควิด-19 รุนแรงขึ้น
ผู้เชี่ยวชาญโรคติดเชื้อ โรงพยาบาลแห่งชาติโซล ชี้ว่า ทั้งสองโรคนี้แยกแยะความแตกต่างได้ยาก เพราะมีอาการคล้ายกันมาก เช่น เป็นไข้ เจ็บคอ จึงควรตรวจให้แน่ใจเมื่อมีอาการ ทางการเกาหลีใต้เริ่มโครงการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ฟรีให้แก่กลุ่มเสี่ยง เพื่อลดความเสี่ยงติดโรคโควิด-19 ตั้งเป้าฉีดให้ทั้งหมด 19 ล้านคน ครอบคลุมเด็กอายุ 6 เดือน-18 ปี สตรีมีครรภ์ และผู้มีอายุ 62 ปีขึ้นไป คิดเป็นร้อยละ 37 ของประชากรทั้งประเทศ แต่สำนักงานควบคุมและป้องกันโรคเกาหลี หรือ เคดีซีเอ (KDCA) ประกาศเมื่อวานนี้ว่า จะระงับโครงการชั่วคราวเพราะวัคซีนประมาณ 5 ล้านโดส สัมผัสอุณหภูมินอกที่เก็บ ปกติแล้ววัคซีนที่ยังไม่ใช้งานควรเก็บในตู้เย็น การสัมผัสอุณหภูมิห้องอาจทำให้ประสิทธิภาพลดลง และเสี่ยงติดโรคที่ป้องกันได้ด้วยวัคซีน กระทรวงความปลอดภัยอาหารและยา จะนำวัคซีนเหล่านี้ไปตรวจสอบคุณภาพ คาดว่าต้องใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ หากผ่านการตรวจสอบจึงจะนำมาฉีดให้กลุ่มเด็กอายุ 13-18 ปี หลังจากนั้นจึงจะฉีดให้ผู้สูงอายุต่อไป
เว็บไซต์สำนักข่าวยอนฮับ รายงานว่า ชาวเกาหลีใต้บางคนลังเลที่จะไปรับการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ตามคลินิก เพราะเกรงจะติดโรคโควิด-19 ข่าวการเก็บวัคซีนอย่างไม่ถูกต้องยิ่งทำให้ความลังเลดังกล่าวเพิ่มมากขึ้น เพราะคนเกิดความไม่ไว้ใจ ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุข แนะนำว่า ประชาชนโดยเฉพาะเด็กเล็กควรฉีดแต่เนิ่น ๆ ประสิทธิภาพของวัคซีนจะขึ้นกับปัจจัยหลายอย่าง รวมถึงอายุ อัตราการป้องกันอยู่ที่ร้อยละ 40-60 ส่วนยอดผู้ป่วยโรคโควิด-19 สะสมในเกาหลีใต้ จนถึงวันนี้อยู่ที่ 23,216 คน เพราะพบผู้ป่วยใหม่ 100 คน ในจำนวนนี้ 99 คน เป็นการติดในชุมชน.- สำนักข่าวไทย