ทำเนียบ ตั้งแบริเออร์ปูนลวดหนามและตรึงกำลัง 2กองร้อย

ทำเนียบ 20ก.ย.-ทำเนียบ ตรึงกำลังเจ้าหน้าที่กองบังคับการตำรวจนครบาล8 รักษาความปลอดภัย 2กองร้อย พร้อมตั้งแบริเออร์ปูนและลวดหนามกั้น ปิดทางเข้าออกแน่น ห้ามรถทุกชนิดเข้าทำเนียบ


ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่ทำเนียบรัฐบาล ฝั่งประตูอรทัย ข้างถนนลูกหลวง ว่าเจ้าหน้าที่ได้นำแท่งปูนแบริเออร์และลวดหนามเหล็กมาตรึงกำลังปิดพื้นที่ไว้ที่หน้าทางเข้า ตั้งแต่เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา หลังผู้ชุมนุมประกาศจะเดินทางมาบุกทำเนียบรัฐบาล โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบังคับการตำรวจนครบาล8 มารักษาความปลอดภัย จำนวน 2 กองร้อย ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้เว้นทางเข้าออกเท่าตัวคนให้ประชาชนและเจ้าหน้าที่ที่อยู่ในทำเนียบได้สัญจรไปมา แต่ไม่อนุญาตให้รถทุกชนิดเข้าออกทำเนียบรัฐบาล รวมถึงสื่อมวลชน นอกจากนี้มีการนำรถกู้ภัย 6 คัน มาจอดบริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์

ส่วนบริเวณโดยรอบทำเนียบรัฐบาล ได้มีการนำรั้วลวดหนาม แท่งแบริเออร์ขนาดใหญ่ ปิดทางเข้าออกทุกประตู ที่เป็นจุดยุทธศสาตร์ในระยะ 150 เมตร และสะพานข้ามได้ติดลวดหนามและกั้นแนวแบริเออร์ปูนไว้ และมีการวางกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจตรึงกำลังประจำจุดอย่างแน่นหนาโดยรอบและที่ถนนนครสวรรค์ติดกับคลองเปรมประชากรบริเวณมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร เพื่อสกัดกลุ่มผู้ชุนนุมข้ามมายังทำเนียบรัฐบาลได้ 


นอกจากนี้ยังมีการตั้งแบริเออร์บริเวณแยกผ่านฟ้า จปร. สะพานมัฆวานรังสรรค์ไปจนถึงถึงลานพระบรมรูปทรงม้าบริเวณโดยรอบและบริเวณโดยรอบนอก เช่น บริเวณถนนประชาเกษมมุ่งหน้าไปถนนนครสวรรค์ ซึ่งบริเวณดังกล่าวเป็นบริเวณใกล้เขตพระราชฐานรอบนอกและมีการตรึงกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 30 ราย ในบริเวณดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังแกนนำกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์​และการชุมนุม ประกาศยุติการชุมนุม​และให้ผู้ชุมนุมเดินทางกลับบ้านไม่มีการเดินเท้าเคลื่อนขบวนมายังทำเนียบรัฐบาลตามที่ประกาศเจตนา​รมณ์ไว้เมื่อวานนี้(19ก.ย.) ทำให้หน่วยกู้ภัยจากมูลนิธิ​ร่วมกตัญญู​ที่จอดแสตนบาย เกือบ10คัน ได้นำรถออกจากพื้นที่แล้วแต่เจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบังคับ​การตำรวจนครบาล 8 จำนวน 2 กองร้อย ยังคงตรึงกำลังทั้งภายในทำเนียบรัฐบาลและ​พื้นที่โดยรอบ รวมถึงยังไม่ได้รื้อถอนแท่งแบร์ริเออร์​ปูนและรั้วลวดหนามที่ใช้ปิดเส้นทางเข้า-ออก ทำเนียบรัฐบาล อย่างไรก็ตามยังไม่อนุญาตให้รถยนต์เข้าออก​ทำเนียบรัฐบาล รวมถึงสื่อมวลชนเข้าไปยังทำเนียบรัฐบาล ส่วนการจราจร​บริเวณโดยรอบทำเนียบรัฐบาลยังสัญจรได้ตามปกติ.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง