ชวนร่วมเดิน -วิ่งการกุศล สมทบ“ทุนการศึกษาสมเด็จย่า 90”


 กรุงเทพฯ 19 ก.ย.-มูลนิธิกองทุนการกุศลสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ในพระราชูปถัมภ์   จัดกิจกรรม Run for Nurses 2020  Virtual Run “วิ่งจากใจเพื่อทุนการศึกษา สมเด็จย่า 90”   เพื่อนำรายได้สมทบทุนการศึกษาของนักศึกษาวิทยาลัยพยาบาล กว่า 30 แห่ง ทั่วประเทศไทย


นายฮาราลด์ ลิงค์ ประธาน บี.กริม และ ประธานมูลนิธิสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีฯ กล่าวว่า การแพร่ระบาดของโรคโควิค- 19    ส่งผลกระทบต่อชีวิตคนหลากหลายแง่มุม แม้ว่าสถานการณ์จะเริ่มมีการผ่อนคลายบ้างแล้ว แต่ทางมูลนิธิฯ ยังคงต้องคำนึงถึงมาตรการการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) และคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ร่วมงาน ปีนี้จึงได้มีการปรับเปลี่ยนการจัดกิจกรรมวิ่งการกุศล เป็นแบบ Virtual Run หรือ วิ่งสะสมระยะ เริ่มเก็บระยะระหว่างวันที่ 21-31 ตุลาคม เพื่อให้นักวิ่งและผู้สนใจได้ร่วมกันสมทบทุนและช่วยเหลือการศึกษาให้กับนักศึกษาวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สังกัดสถาบันพระบรมราชชนก จำนวน 30 แห่ง ทั่วประเทศไทย  และวิทยาลัยพยาบาล 3 เหล่าทัพ  โดยครั้งนี้ทางมูลนิธิฯ ได้รับความร่วมมือจากผู้สนับสนุนหลัก อาทิ บมจ.บี.กริม เพาเวอร์  ,บริษัท เมอร์ค (ประเทศไทย) จำกัด ,โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์, บมจ.วิริยะประกันภัย, บริษัทกุดั่น แอนด์ พาร์ทเนอร์ (ประเทศไทย) จำกัด , มูลนิธิป่อเต็กตึ้ง, บริษัท พราวด์  ฮอสพิทอลิตี้  จำกัด และ บริษัท เบเคอร์ แอนด์ แม็ค เค็นซี่ จำกัด และบริษัทร่วมธุรกิจการค้าอื่นๆ อีกมากมาย

ผู้เข้าร่วมกิจกรรม Run for Nurses 2020  Virtual Run สามารถรับประสบการณ์เสมือนจริงสุดล้ำผ่านทางเว็บไซต์ลงทะเบียน berving.com ซึ่งผู้สมัครวิ่งสามารถกำหนดเป้าหมาย สถานที่ และเวลาวิ่งได้เองตามความต้องการและความสะดวก เมื่อวิ่งครบระยะทางที่ได้สมัครไว้จะได้รับเกียรติบัตรจากทางมูลนิธิฯ ผ่านทางอีเมล ภายในเดือน พ.ย. 63  โดยการวิ่งเก็บระยะสะสมออกเป็น 3 ระยะ คือ Charity Run เดิน-วิ่งได้ทุกระยะ , วิ่งจากใจ Mini Marathon  ระยะทาง 10 กิโลเมตร  วิ่งจากใจ Half Marathon  ระยะทาง 21 กิโลเมตร และร่วมชมพิธีเปิดได้ในวันที่ 21 ตุลาคม2563 ทาง Facebook กองทุนการกุศลสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนี youtube และ website tpmcf.org

ทั้งนี้ ผู้สนใจสมัครได้ตั้งแต่วันนี้ – 30 กันยายน 2563 โดยมีค่าใช้จ่ายท่านละ 500 บาท (ไม่รวมค่าส่งเสื้อและเหรียญ 70 บาท) เมื่อสมัครและชำระเงินเรียบร้อยแล้ว ผู้สมัครจะได้รับเสื้อและเหรียญที่ระลึกพร้อมด้วย QR CODE หรือ Link ในการบันทึกระยะวิ่ง สามารถสมัครออนไลน์ได้ที่ www.berving.com หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Line ID:@berving และ Facebook:facebook.com/pg/tpmcf.org/events/


 สำหรับผู้ที่ประสงค์จะร่วมบริจาคสามารถร่วมบริจาคได้ที่ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขาทองหล่อ ชื่อบัญชี มูลนิธิกองทุนการกุศลสมเด็จพระศรีนครินทราทราบรมราชชนนี เลขที่บัญชี 042-2-40717-1  หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คุณวนโศภิน เกษมศรี ณ อยุธยา 081 855 0871, คุณอนัญญา อธิคมชาคร 084 454 5563  Email:info@tpmcf.org       -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง