กรุงเทพฯ 16 ก.ย.-” คำนูณ” ย้ำร่างพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติที่เสนอโดยสตช.ส่อไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญ จี้ครม.ทบทวนหลักเกณฑ์แต่งตั้งโยกย้าย ไม่เช่นนั้นสุดท้ายไม่สามารถแก้ไขปัญหาซื้อขายตำแหน่งได้
ที่อาคารสุขประพฤติ นายคำนูณ สิทธิสมาน สมาชิกวุฒิสภา กล่าวว่า ร่างพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ ฉบับใหม่ ที่เสนอ ครม.มีแนวโน้มที่จะไม่ตรงตามเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะ มาตรา 258 (4) ที่ระบุว่า “ในการพิจารณาแต่งตั้งและโยกย้ายต้องคำนึงถึงอาวุโสและความรู้ความสามารถประกอบกัน” ซึ่งตามร่างเดิมที่คณะกรรมการปฏิรูปตำรวจ ชุดที่มีนายมีชัย ฤชุพันธุ์ เป็นประธานได้ออกแบบ ระบบคะแนนประจำตัว 3 ส่วน คืออาวุโส 50 % ความรู้ความสามารถ 20 % ความพึงพอใจของประชาชน ที่สำรวจผ่านสำนักงานสถิติแห่งชาติ 30 % และไม่ได้เป็นการตัดอำนาจดุลพินิจของผู้บังคับบัญชาเสียทีเดียว
นายคำนูณ กล่าวว่า เมื่อดูตามร่างที่ผ่านคณะรัฐมนตรี กลับไม่มีส่วนนี้ และเน้นหลักอาวุโสล้วนร้อยละ 50 ส่วนที่เหลือจึงเป็นกองอาวุโสและความรู้ความสามารถ โดยไม่มีหลักเกณฑ์อะไรชัดเจน จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลทบทวน และคงหลักการดังกล่าวเอาไว้ เพราะแม้จะสามารถแปรญัตติในชั้นกรรมาธิการฯ ในสภาได้ ก็เชื่อว่าสุดท้ายไม่สามารถเปลี่ยนแปลงหลักการที่เสนอมาได้ จึงอยากให้คงไว้ตั้งแต่ต้น เพราะข้อเสนอดังกล่าวเป็นข้อเสนอ ที่เกิดขึ้นจากคณะกรรมการอย่างน้อย 2-3 ชุดในการพิจารณา แต่สุดท้ายกลับใช้ร่างที่เสนอโดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเชื่อว่าไม่สามารถแก้ครหาที่ว่า มีการซื้อขายตำแหน่งได้ อยากตั้งข้อสังเกตว่าร่างกฎหมายปฏิรูปตำรวจ เสนอโดยตำรวจแล้วจะ ปฏิรูปตำรวจได้อย่างไร ดังนั้น เป็นเรื่องที่คณะรัฐมนตรีจะต้องตัดสินใจ
” พอระบบนี้มันหายไป ก็มีการตั้งคำถามว่า ข่าวที่เกิดขึ้นทุกการแต่งตั้งโยกย้ายจะมีว่า มีการวิ่งเต้น มีอามิสสินจ้างเข้ามาไม่ว่าจะจริงหรือไม่จริงก็ตาม ไม่สามารถหมดไปได้ แต่ระบบคะแนนประจำตัว ผมว่าช่วยได้เยอะ ถ้าตรงนี้หายไปก็น่าเสียดาย” นายคำนูณ กล่าว
เมื่อถามว่าในอนาคตหาก รัฐบาลยืนยัน กฎหมายตามร่าง ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะถูกร้องว่าขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ นายคำนูณ กล่าวว่า ตนไม่กล้าคิด ไปถึงจุดนั้นเพราะคนที่จะชี้ได้จริงคือศาลรัฐธรรมนูญ แต่อย่างน้อยก็เห็นว่าไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ ดังนั้นเรื่องนี้จะเดินไปอย่างไรคงต้องรอดูสถานการณ์ข้างหน้า แต่สุดท้าย คงลงมติ เห็นชอบร่างพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ เพราะมีส่วนดีที่เป็นประโยชน์ และอยากให้เกิดการปฏิรูปตำรวจ แต่ก็จะอภิปรายแสดงความเห็น เพื่อให้ รัฐบาล และ ส.ว.เห็นความสำคัญในเรื่องหลักเกณฑ์การแต่งตั้ง โยกย้ายข้าราชการตำรวจ ที่ ไม่ใช่คำนึงเพียงหลักอาวุโสเท่านั้น.-สำนักข่าวไทย