รังสิมา จี้จัดการส.ส.ตบทรัพย์

รัฐสภา 16 ก.ย.- “สุทิน” จี้ตัดงบส่วนเกิน ไปใช้โครงการที่จำเป็น และมีความพร้อม ด้าน “รังสิมา” จี้ จัดการตัวเขมือบเปิดห้องเชือดตบทรัพย์ แนะโล๊ะอนุกมธ. เสียเวลา เสียงบฯ


นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย และประธานคณะกรรมการประสายงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) อภิปรายร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 วาระ2 และ 3 ในมาตรา 4 งบประมาณรายจ่ายวงเงิน 3.3 ล้านล้านบาท ว่า ยังไม่เห็นว่ามีการปรับลดที่สอดคล้องต่อความจำเป็น เชื่อว่าหากยังเป็นเช่นนี้ในอนาคตรัฐบาลก็จะมาขอให้สภาฯแก้กฏหมาย ขยายเพดานเงินกู้อีกแน่นอน จึงอยากให้ตัดงบบางส่วนที่เป็นไขมันไปใช้ในส่วนที่จำเป็น เช่น โครงการเพิ่มประสิทธิภาพถนน 4 โครงการในจังหวัดมหาสารคาม วงเงิน 190 ล้านบาท ซึ่งยังไม่พร้อม แต่ก็ไม่มีความชัดเจนว่าจะอนุมัติงบประมาณให้หรือไม่ ทำให้เห็นว่าโครงการต่าง ๆ ที่พร้อมและประชาชนแบมือขอไม่อนุมัติงบให้ แต่กลับไปให้ในสิ่งที่ยังไม่พร้อม

นายสุทิน กล่าวว่า งบประมาณที่โดนตัดในชั้นกรรมาธิการวิสามัญฯ ทำไมถึงโยนกลับคลัง ความจริงเมื่อตัดงบแล้วก็ต้องนำไปใช้กับส่วนอื่น ๆ ให้เกิดประโยชน์ อย่างเช่น โครงการบัตร 30 บาทรักษาทุกโรคให้ครอบคลุมถึงโรคไต หรือจะเพิ่มเงินให้กับกลุ่มบำเหน็จบำนาญข้าราชการ และกลุ่มบำเหน็จบำนาญผู้สูงอายุ ซึ่งที่ผ่านมาตนโดนบิดเบือนว่าจะตัดเงินของคนกลุ่มนี้จนถูกทัวร์ลง แต่ความจริงตนไม่เคยคิดจะไปตัดเงิน มีแต่จะเพิ่มให้


น.ส.รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายว่า ขอตัดงบในมาตรา 4 จำนวน 10 เปอร์เซนต์ เพราะมองว่าการจัดสรรงบฯ ไม่ตอบสนองความต้อการของประชาชนอย่างแท้จริง แต่จัดตามความต้องการของข้าราชการ และในกรรมาธิการงบประมาณ แต่ละปี จะมีอยู่ 2 ประเภท คือ นักการเมืองอาชีพ กับอาชีพนักการเมือง ซึ่งตนเห็นด้วยที่นักการเมืองอาชีพ จะเข้าไปเป็นกรรมาธิการงบฯ ที่ผ่านมาจะมีอาชีพนักการเมืองเข้าไปเป็นกรรมาธิการ เข้าไปแล้วมีปัญหาอย่างที่ตนเคยอภิปรายว่า ให้ระวังให้ดีมีตัวเขมือบ เข้าไปเขมือบงบต่าง ๆ ไปตบทรัพย์ ไปมีห้องเชือด ไปเชือดคนที่จะเข้าไปพิจารณางบก่อน ทำให้สภาฯเสื่อมเสีย

“ที่ผ่านมามีปัญหาเป็นคดีกันเเล้ว ดิฉันจึงอยากฝากว่าต้องเอาจริงเอาจัง ฝากประธานสภาฯ ว่าจะต้องเชือดไก่ให้ลิงดู คนที่มีอาชีพนักการเมือง ถ้ามีการตบทรัพย์อย่างนี้ดิฉันไม่เห็นด้วย ดิฉันพูดทุกปี และเน้นว่าต่อไปคนที่เป็นอาชีพนักการเมืองเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์ มาตบทรัพย์ตามห้องกรรมาธิการฯ ต่าง ๆ เช่นห้องอนุกรรมาธิการฯ ดิฉันไม่เห็นด้วย ตอนนี้ก็มีข้าราชการที่กล้าสู้กับนักการเมืองที่ไม่โปร่งใส ก็ขอชื่นชม และอยากให้ข้าราชการไม่ต้องกลัว และไม่อยากให้ข้าราชการตั้งงบประมาณสูงเกินความจำเป็น และปีต่อ ๆไป ไม่ต้องตั้งอนุแล้ว เลิกไปเลย ประธานสภาฯ ควรให้เลิกตั้งอนุ ตั้งมาทำไมตั้ง 8 คณะ เสียงบประมาณ เสียเวลา พออนุ ฯ ตัดงบไปแล้ว 3-4 หมื่นล้านบาท แต่พอไปกรรมาธิการห้องใหญ่ขอคืนหมดเลย ทำไปทำไมให้เสียเวลา เเล้วมานั่งให้เขาตบทรัพย์อีกต่างหาก” น.ส.รังสิมา กล่าว

น.ส.รังสิมา กล่าวว่า อยากฝากว่า ปีต่อ ๆ ไปคณะกรรมาธิการงบประมาณชุดใหญ่ ควรพิจารณาตัดงบจุดไหนก็ตัดไปเลย ไม่ต้องมาเรียกคืนทีหลัง แล้วให้พวกหากิน มาหากินแต่ละห้องกรรมาธิการ ตนไม่เห็นด้วย และจะต่อสู้ตลอดไป หากมีเหตุการณ์แบบนี้อีก และอยากให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เอาจริงเอาจังกับคนที่เข้ามามีผลประโยชน์กับกรรมาธิการงบประมาณทุก ๆ ปีด้วย.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ป.ป.ส. รวบ 3 นักค้ายาเสพติดต่างชาติ ที่สนามบินสุวรรณภูมิ

ป.ป.ส. รวบนักค้ายาเสพติดต่างชาติ 3 ราย ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ส่งออกไปอิตาลี-อังกฤษ เลขาฯ ป.ป.ส. เผยความสำเร็จครั้งนี้เป็นผลจากการประสานงานใกล้ชิดระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ตรวจสอบตลาดปาล์มน้ำมัน หลังราคาพุ่ง

ช่วงนี้น้ำมันปาล์มตามท้องตลาดปรับราคาแพงขึ้น จากเดิมขวดละราว 10 บาท ทำให้ผู้บริโภคถึงกับโอดครวญ ขณะที่เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน ระบุแม้ช่วงนี้ราคาปาล์มน้ำมันขายได้ราคาดีที่สุดในรอบหลายปี แต่เกษตรกรกลับไม่มีปาล์มขาย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยอีสาน อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย-ใต้ตอนบน ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ เผยภาคใต้ตอนบน มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ส่วนประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อยในภาคอีสาน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งในภาคตะวันออก และภาคกลางตอนล่าง

เดินหน้าเสนอ ครม. ตั้งคณะกรรมการร่วมไทย-กัมพูชา เจรจาพื้นที่ทับซ้อน

กระทรวงการต่างประเทศ เดินหน้าเสนอ ครม. ตั้งคณะกรรมการร่วมด้านเทคนิค JTC ไทย-กัมพูชา เจรจาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลระหว่างไทยกับกัมพูชา ตามแนว MOU 2544 ยืนยันไม่ทำให้เสียเกาะกูด

เข้าสู่ฤดูหนาว

อุตุฯ ประกาศไทยเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว

กรมอุตุฯ ประกาศการเข้าสู่ฤดูหนาวของประเทศไทย ปี 2567 ตั้งแต่วันที่ 3 พ.ย. โดยเป็นการเข้าสู่ฤดูหนาวช้ากว่าปกติประมาณ 2 สัปดาห์ เนื่องจากมีพายุก่อตัวในมหาสมุทรแปซิฟิกและเคลื่อนเข้าสู่ทะเลจีนใต้ และยังมีฝนบางพื้นที่ ปีนี้จะหนาวกว่าปีที่แล้ว