รัฐสภา 2 ก.ย. – “สิระ” ประกาศลาออกจาก กมธ.ป.ป.ช. ระบุทำงานร่วมกับ “พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์” ไม่ได้ พร้อมเดินหน้าตรวจสอบคลิปนักการเมืองตบทรัพย์ ยืนยันไม่ใช่เรื่องส่วนตัว แต่เป็นเรื่องที่ประชาชนต้องการรู้
นายสิระ เจนจาคะ ประธานกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฏร ยืนยันว่า วันนี้ (2 ก.ย.) จะนำประเด็นคลิปที่มีเนื้อหานักการเมืองเรียกรับผลประโยชน์จากบริษัทเอกชนเข้าหารือต่อกรรมาธิการ โดยจะมีบุคคลภายนอกมายื่นร้องเรียนเรื่องดังกล่าว ส่วนจะมีการเปิดคลิปหรือไม่ ต้องรอดูกรรมาธิการอีกครั้ง
ส่วนที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ประธานกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ออกมาพูดทำนองว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นก่อนที่นักการเมืองคนดังกล่าวจะเข้ามาเป็น ส.ส. นายสิระ กล่าวว่า น่าจะเป็นการเข้าใจผิด เพราะมีคนระบุว่านักการเมืองไปตบทรัพย์ ถือว่าผิดอาญาแผ่นดิน และเมื่อมีการกระทำผิด ก็ถือว่าความผิดสำเร็จแล้ว จะต้องดำเนินคดี ไม่เกี่ยวกับเรื่องการเป็น ส.ส. เพราะการกรรโชกทรัพย์ อายุความปีเกิน 10 ปี จะต้องพิสูจน์กันต่อไป แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่ทราบเวลาที่เกิดเหตุ ว่าเกิดวันใด สถานที่ใด และหากเกิดกับประชาชนคนธรรมดาก็ต้องถูกดำเนินคดี
“เรื่องนี้ขอถามว่า กรรมาธิการ ป.ป.ช. สมควรหรือไม่ที่จะมาตรวจสอบร่วมกันหาคนผิดร่วมกัน หรือออกมาปกป้องคนผิดหรือไม่ ประชาชนและสังคมตัดสินแล้วว่า ประธานกรรมาธิการ ป.ป.ช. สภาฯ มองเรื่องนี้ว่าไม่ต้องตรวจสอบหรือไม่ แล้วประชาชนจะพึ่งหวังกับสภาฯ ได้อย่างไร มีการตบทรัพย์ แต่บอกว่าไม่ต้องตรวจสอบ หากโดนตรวจสอบก็ให้มาร้องกรรมาธิการ ป.ป.ช. ให้เอาคนที่ตรวจสอบมาตรวจสอบอีกที ขอถามประชาชนว่า พึงพอใจกับประธานกรรมาธิการ ป.ป.ช. หรือไม่ หรือพอใจกับคณะกรรมการธิการของผม ให้ตรวจสอบคนผิด แล้วมารับโทษ” นายสิระ กล่าว
นายสิระ ยืนยันว่า การหยิบเรื่องนี้มาพิจารณา ไม่ได้มีประเด็นส่วนตัว เพราะถ้ามีเรื่องส่วนตัว ต้องไปคุยนอกกรรมาธิการ ส่วนที่มีการกล่าวหาว่าใช้กรรมาธิการแก้แค้นนักการเมืองคนดังกล่าวนั้น แล้วแต่คนจะมอง แต่เชื่อว่าประชาชนต้องการรู้ว่าคนในคลิปคือใคร ทำไมยังไม่ได้รับโทษ
เมื่อถามว่า นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ ได้ออกมาขอโทษแล้ว นายสิระ กล่าวว่า เป็นคนละส่วนกัน เรื่องขอโทษเป็นเรื่องส่วนตัว แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนรวม ส่วนจะเชิญนายมงคลกิตติ์มาชี้แจงต่อกรรมาธิการหรือไม่ ต้องรอดูความเห็นจากกรรมาธิการอีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้น นายสิระได้เป็นประธานการประชุมกรรมาธิการการกฎหมายฯ และกล่าวถึงการกระทำของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ต่อเรื่องดังกล่าวว่า ขอฟ้องประชาชนว่ากำลังตรวจสอบคนที่กระทำความผิดหรือไม่ กรรโชกทรัพย์หรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้มีความผิดทางอาญา และไม่ได้รับการลงโทษ ยังไม่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ดังนั้น จึงสงสัยว่าเป็นการปกป้องหรือไม่ มีอคติหรือไม่ “วันนี้ (2 ก.ย.) ผมจะทำหนังสือลาออกจากกรรมาธิการ ป.ป.ช. ซึ่งมี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เป็นประธาน เนื่องจากทำงานร่วมกันต่อไปไม่ได้ ท่านควรจะช่วยผมตรวจสอบหรือไม่ หรือขัดขวางหรือไม่ ให้ท่านกลับไปคิดดู แล้วให้สังคมคิดว่า ท่านควรจะมาช่วยผมตรวจสอบตี๋ใส่แว่น กับห้ามตรวจสอบตี๋ใส่แว่นคนนี้ ให้ท่านพิจารณาใหม่ ว่ามาร่วมมือกับผมดีกว่าไหม เพื่อประชาชน เพื่อสังคม และเพื่อประโยชน์ประเทศชาติ และขอฝากถึงประธาน กมธ.ป.ป.ช.ว่า อย่างนี้ผมตรวจสอบใครไม่ได้ใช่ไหม ประเทศไทยอยู่อย่างไร จะมีกรรมาธิการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบได้อย่างไร ผมเสียใจวันนี้ แต่ไม่ได้เสียใจที่จะมาตรวจสอบผม แต่เสียใจกลไกของรัฐ กลไกของกรรมาธิการ” นายสิระ กล่าว.- สำนักข่าวไทย