ก.คลัง 15 ก.ย. – บสย.ลงนาม 18 ธนาคาร ค้ำประกันสินเชื่อซอฟท์โลนพลัส วงเงินค้ำประกัน 57,000 ล้านบาท หวังสร้างบรรยากาศปล่อยสินเชื่อให้คึกคัก ด้านรัฐมนตรีช่วยคลังเร่งหารือ สศค.ดึงงบฟื้นฟู 6 หมื่นล้าน ให้ บสย.ค้ำประกันช่วยเอสเอ็มอีเพิ่ม
บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) และ 18 ธนาคารพันธมิตร ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการค้ำประกันสินเชื่อซอฟท์โลนพลัส วงเงินค้ำประกัน 57,000 ล้านบาท นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ระบุว่า อยู่ระหว่างหารือสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เพื่อขอนำเงินจาก พ.ร.ก.กู้เงินในส่วนของงบฟื้นฟูเศรษฐกิจ มาช่วยเหลือเอสเอ็มอีวงเงิน 60,000 ล้านบาท เพื่อให้ บสย.นำมาใช้เป็นวงเงินค้ำประกันเข้าไปช่วยเอสเอ็มอี ธุรกิจรายย่อย ประชาชน วิสาหกิจชุมชนให้เข้าถึงสินเชื่อเพิ่มขึ้น เนื่องจากขณะนี้ธนาคารพาณิชย์ยังคงเข้มงวดไม่ปล่อยกู้ รวมถึงซอฟท์โลนของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ก็ยังปล่อยไม่หมดเหลืออีกกว่า 400,000 ล้านบาท หากได้เงินก้อนนี้มาจะช่วยให้ธุรกิจรายย่อยเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ถึง 360,000 ล้านบาท โดยจะเร่งผลักดันเรื่องนี้ให้ได้ข้อสรุปเร็วที่สุด
ทั้งนี้ โครงการค้ำประกันสินเชื่อซอฟท์โลนพลัส วงเงิน 57,000 ล้านบาท ได้รับอนุมัติตามมติคณะรัฐมนตรี วันที่ 18 สิงหาคม 2563 เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีตามพระราชกำหนดการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบการวิสาหกิจ ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ.2563 โดยธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่ง บสย.จะรับคำขอค้ำประกันสินเชื่อจากสถาบันการเงินได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป คาดว่าจะช่วยผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ต้องการเสริมสภาพคล่องทางธุรกิจให้เข้าถึงสินเชื่อ 34,000 ราย ก่อให้เกิดสินเชื่อในระบบเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 57,000 ล้านบาท รักษาการจ้างงานได้กว่า 360,000 ตำแหน่ง โดย บสย.จะค้ำประกันสินเชื่อต่อเนื่องจากโครงการซอฟท์โลนของ ธปท.อีกเป็นระยะเวลา 8 ปี เริ่มค้ำประกันตั้งแต่ปีที่ 3 จนถึงปีที่ 10
นอกจากนี้ บสย.ยังเตรียมลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมมือกับสถาบันการเงินในโครงการค้ำประกันสินเชื่อ “บสย. SMEs ไทยชนะ” เพื่อช่วยผู้ประกอบการเอสเอ็มอี วงเงิน 20,000 ล้านบาท เป็นวงเงินค้ำประกันสินเชื่อเพื่อธุรกิจทุกประเภท ค้ำประกันสูงสุด 100 ล้านบาทต่อราย ระยะเวลาค้ำประกันสูงสุด 10 ปี โดยคาดว่าจะก่อให้เกิดสินเชื่อในระบบ 45,000 ล้านบาท ช่วยผู้ประกอบการเอสเอ็มอีกว่า 12,000 ราย และอุ้มการจ้างงานเพิ่มอีก 420,000 ตำแหน่ง .-สำนักข่าวไทย