กรุงเทพฯ 31 ม.ค. – รมว.เกษตรฯ ขอเอกชนเพิ่มราคารับซื้อผลผลิตที่ไม่ใช้การเผา ย้ำ ไม่อยากให้มองว่าเกษตรกรคือคนผิดเรื่องฝุ่น PM 2.5 แต่ทุกฝ่ายต้องร่วมกันแก้ พร้อมหนุนการผลิตสินค้าเกษตรมูลค่าสูง ดัน “วานิลลา-ผำ” สู่ธุรกิจพืชเทรนด์ใหม่
ศ.ดร. นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กล่าวว่า ได้หารือกับภาคเอกชนรายใหย๋เพื่อขอความร่วมมือให้รับซื้อข้าวโพดที่จะนำไปเป็นวัตถุดิบอาหารสัตว์จากเกษตรกรที่ปลูกแบบไม่เผาในราคาที่สูงขึ้น กระทรวงเกษตรฯ ไม่ต้องการใช้เฉพาะมาตรการบังคับและไม่อยากลงโทษเกษตรกร แต่เห็นว่า ต้องสร้างมาตรการจูงใจ
นอกจากนี้ไม่ต้องการให้เกิดความเข้าใจผิดๆ ในวงกว้างว่า ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ที่เป็นอยู่ มาจากภาคการเกษตร เพราะจริงๆ แล้วปัจจัยของภาคการเกษตรมีส่วนไม่มาก โดยในพื้นที่กทม. และเมืองใหญ่มีสาเหตุหลัก จากควันรถ
ทั้งนี้กระทรวงเกษตรฯ เร่งส่งเสริมให้เกษตรกรหันมาทำการเพาะปลูกแบบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยการลดการเผา แต่ต้องดึงเอกชนมาให้ความร่วมมือด้วยการรับซื้อผลผลิตทางการเกษตรจากแปลงไม่เผาในราคาที่สูงขึ้นด้วย
ปัจจุบันกระทรวงเกษตรฯ ทำงานประสานกับองค์กรต่างประเทศอยู่หลายองค์กร โดยได้แจ้งต่อนานาประเทศว่า ไทยส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกข้าวคาร์บอนต่ำ ด้วยวิธีการทำนาแบบเปียกสลับแห้งซึ่งสามารถลดการใช้น้ำในการเพาะปลูกได้กว่า 50% และสามารถช่วยลดการปล่อยก๊าซที่จะไปสร้างภาวะเรือนกระจกได้พอสมควร อีกทั้งผลผลิตต่อไร่ก็เพิ่มขึ้น ควบคู่ไปกับช่วยให้สิ่งแวดล้อมดีขึ้น ล่าสุดได้ประสานกับภาคเอกชนที่จะรับซื้อข้าวจากชาวนา โดยได้ขอให้เพิ่มราคารับซื้อข้าวสูงขึ้นประมาณ 5% จากราคาปัจจุบันซึ่งจะเป็นแรงจูงใจให้เกษตรกรเข้ามาร่วมการทำนาแบบเปียกสลับแห้งมากขึ้น โดยปีนี้เรามีเป้าหมายอยู่ที่ 10 ล้านไร่ ที่จะทำให้สามารถบรรลุเป้าหมายตามนโยบาย green economy และตอบสนองตลาดสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมซึ่งเป็นเป้าหมายใหม่ของโลก
ศ.ดร. นฤมลยังกล่าวในโอกาสเป็นประธานเปิดการสัมมนา ไข่ผำ – วานิลลา : เจาะลึกโอกาสธุรกิจพืชเทรนด์ใหม่ พร้อมร่วมปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “ทิศทางพืชมูลค่าสูง และโอกาสของเกษตรไทย” โดยระบุว่า กระทรวงเกษตรฯได้ให้งบในการศึกวิจัยไข่ผำ หรือผำ หรือไข่น้ำซึ่งพบว่า เป็นพืชที่มีโปรตีนที่ดีสูง สอดคล้องกับกระแสที่ชาวโลกกำลังให้ความสำคัญถึงความมั่นคงทางอาหาร รวมถึงวานิลลาซึ่งผลผลิตทางการเกษตรที่สามารถแปรรูปเพื่อต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ในหลากหลายรูปแบบ สอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ต้องการให้รายได้ของเกษตรกรเพิ่มขึ้น ทำให้คุณภาพชีวิตของดีขึ้น ต่างชาติเห็นประเทศไทยเป็นประเทศที่มีบทบาทนำในเรื่องของภาคการเกษตร อย่างเช่น ยางพาราไทยก็ส่งออกเป็นอันดับหนึ่งของโลก นอกจากนี้ยังมีทุเรียน ข้าว ลำไย และพืชอื่นๆ ที่ไทยส่งออกเป็นอันดับ 2 ของโลก ซึ่งถือเป็นความภาคภูมิใจของเกษตรกรไทย แม้ไทยจะเป็นประเทศเล็กๆ แต่เราเป็นประเทศที่มีความมั่นคงทางด้านอาหารสำหรับประชากรในประเทศและยังสามารถส่งออกไปยังชาวโลกได้ด้วย. -512 -สำนักข่าวไทย