กทม.9 ก.ย.- แนวร่วมธรรมศาสตร์ฯ เดินหน้าชุมนุมใหญ่“19 กันยา ทวงอำนาจคืนราษฎร”แบบปักหลักค้างคืน รุ่งขึ้นไปทำเนียบฯ
ตัวแทนแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม นำโดย นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ นางสาวปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล นายภาณุพงศ์ จาดนอก ฯลฯ แถลงข่าว ชี้แจงรายละเอียด การจัดชุมนุมใหญ่ ใน วันที่ 19 กันยายน นี้ ว่า แนวร่วมจะจัดชุมนุมใหญ่โดยใช้ชื่อว่า “19 กันยา ทวงอำนาจคืนราษฎร” ตั้งแต่เวลา 14.00 น. เป็นต้นไป ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ โดยแนวร่วมเลือกใช้พื้นที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เพราะถือเป็นสถานที่สัญลักษณ์ของกระบวนการประชาธิปไตยมาอย่างยาวนาน จนถือว่าเป็นป้อมปราการของประชาธิปไตย หากมีผู้เข้าร่วมชุมนุมเป็นจำนวนมากจนทำให้พื้นที่ในมหาวิทยาลัยแออัด จะมีการเคลื่อนขบวนไปใช้พื้นที่ท้องสนามหลวงแทน แต่หากพื้นที่มหาวิทยาลัยรองรับได้ จะจัด กิจกรรมในมหาวิทยาลัยเท่านั้น ยืนยัน การชุมนุมดังกล่าวจะปักหลักค้างคืนไปจนถึงเช้า จากนั้นจะเดินขบวนใหญ่ ไปยื่นข้อเรียกร้องที่ทำเนียบรัฐบาลในวันที่ 20 กันยายน ตั้งแต่ เวลา 08.00 น. เป็นต้นไป และขอให้พี่น้องประชาชนที่จะเข้าร่วมการชุมนุม จัดเตรียมสิ่งของเครื่องใช้สำหรับการค้างแรมมาด้วย
ด้านนางสาวปนัสยา กล่าวว่า ขณะนี้ทางแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม อยู่ระหว่างขั้นตอน การพิจารณาของมหาวิทยาลัย ซึ่งได้ยื่นหนังสือขออนุญาตใช้พื้นที่ในการชุมนุม และจัดกิจกรรม ต่อผู้บริหารมหาวิทยาลัยแล้ว คาดว่าภายในสัปดาห์นี้ จะมีความชัดเจน
ด้าน นายพริษฐ์ กล่าวว่า ทางมหาวิทยาลัยจะอนุมัติหรือไม่ ก็ยืนยันจะจัดชุมนุมภายในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เนื่องจากมหาวิทยาลัยแห่งนี้ มีเสรีภาพอยู่ทุกตารางนิ้ว ตามคำพูดของอาจารย์สัญญา ธรรมศักดิ์ ซึ่งนักศึกษา ยึดมั่นในคำพูดดังกล่าวเสมอมา ส่วนการใช้พื้นที่ท้องสนามหลวงมองว่าไม่จำเป็นต้องขออนุญาตหน่วยงานใด เนื่องจากเป็นการใช้เสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ และพื้นที่สนามหลวงในอดีตถือเป็นพื้นที่สาธารณะ ที่ประชาชนสามารถใช้ในการจัดชุมนุม หรือทำกิจกรรมต่างๆได้โดยตลอด ยืนยันการชุมนุมต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ครั้งสำคัญ จะชุมนุมโดยสงบปราศจากอาวุธ และทางแนวร่วมฯลฯ มีแผนในการดูแลผู้ชุมนุม ในเบื้องต้น แต่หากมีความรุนแรงเกิดขึ้นมองว่า เป็นเรื่องของฝ่ายตรงข้ามหรือเจ้าหน้าที่ ไม่ใช่เกิดจากผู้ชุมนุมอย่างแน่นอน และขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เคารพการในสิทธิและเสรีภาพของประชาชนทุกคน ซึ่งหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ คือดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยให้เกิดขึ้น.-สำนักข่าวไทย