กลาโหม 31 ส.ค.-นายกรัฐมนตรีเชื่อเอาอยู่กลุ่มประชาชนปลดเเอกชุมนุมใหญ่ 19 ก.ย.นี้ ย้ำทุกอย่างมีกฎหมายดูแล วอนฟังความ 2 ฝ่าย ขออย่าทำประเทศเสียหาย เชื่อหลายคนไม่อยากให้เกิดความรุนแรง
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มประชาชนปลดแอกที่ประกาศจะยกระดับและมีการชุมนุมใหญ่ในวันที่ 19 กันยายนนี้ ว่า ตนยังไม่เห็นว่าจะมีความรุนแรงอย่างไร ทุกอย่างมีกฎหมายดูแลอยู่แล้ว และเชื่อว่าหลายคนไม่อยากให้เกิดความรุนแรง ดังนั้นจะทำอย่างไรให้ทุกอย่างสงบเรียบร้อยอยู่ในกรอบ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายใดก็แล้ว
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ไม่ได้มีการเตรียมทางออกอะไรไว้ ต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ส่วนกรณีที่กลุ่มผู้ชุมนุมตั้งเป้าว่าจะมีการยกระดับการชุมนุมนั้น ต้องดูตามความเหมาะสมว่าควรหรือไม่
“คนไทยมี 67 ล้านคน และคนเหล่านี้เป็นใครบ้าง แม้หลายคนออกมาปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้อง แต่ทุกอย่างต้องว่าไปตามหลักฐานที่ปรากฏ ซึ่งหลังจากนี้จะต้องมีการตรวจสอบต่อ ที่พูดไม่ได้ต้องการข่มขู่ใคร และยืนยันว่ารัฐบาลยินดีรับฟังความคิดเห็นทุกฝ่าย เพราะที่ผ่านมาได้รับฟังความคิดเห็นจากนักศึกษาทั่วประเทศ เพื่อต้องการเดินหน้า แต่ในเมื่ออีกฝ่ายต้องการให้ประเทศหยุดอยู่กับที่แล้วจะเดินหน้าต่อไปได้อย่างไร” นายกรัฐมนตรี กล่าว
ส่วนการชุมนุมที่ผ่านมาถือว่ายังอยู่ในกรอบที่รัฐบาลควบคุมได้หรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ผ่านมาก็ดำเนินการแบบนั้น ตนไม่จำเป็นต้องสั่งใคร เพราะทุกเรื่องมีหน่วยงานดูแลอยู่แล้ว
เมื่อถามว่า มองอย่างไรกับภาพที่ผู้ชุมนุมมีการกระทบกระทั่งกับเจ้าหน้าตำรวจที่ สน.สำราญราษฎร์ นายกรัฐมนตรี ถามกลับผู้สื่อข่าวว่า สมควรหรือไม่
“ในวันที่ 19 กันยายนนี้ที่หลายฝ่ายกังวลว่าจะเกิดความรุนแรงขึ้น ต้องทำให้ยุติให้ได้ และดูว่าจะทำอย่างไรไม่ให้เกิดเหตุรุนแรง เพราะผมพูดมาตลอดว่าอย่าทำให้บ้านเมืองเสียหาย ซึ่งต้องฟังความคิดเห็นคนอื่นด้วย เพราะหากฟังความคิดเห็นด้านเดียว ก็จะกดดันรัฐบาลอยู่แบบนี้ ดังนั้นขอว่าควรรับฟังทั้งสองฝ่ายเพื่อหาความสมดุล และประเทศชาติก็จะปลอดภัย” นายกรัฐมนตรี กล่าว.-สำนักข่าวไทย