กางข้อกฎหมายหาช่องเอาผิดแก๊งซิ่งมอเตอร์เวย์

กรุงเทพฯ 29 ส.ค.- คดีแก๊งซิ่งรวมตัวกันบนถนนมอเตอร์เวย์ เมื่อคืนนี้ ตำรวจยึดได้ทั้งรถยนต์และมอเตอร์ไซค์แต่งซิ่ง พร้อมคุมตัวแก๊งนี้ได้ 5 คน แต่การเอาผิดยังต้องดูข้อกฎหมาย เพราะส่วนใหญ่ยืนยันว่าไม่ได้มาแข่งรถ แค่มารวมตัว ทำให้จนถึงขณะนี้ตำรวจยังไม่ได้แจ้งข้อหากับใคร และต้องตรวจสอบพยานแวดล้อมอย่างละเอียด


ภาพรถยนต์และรถจักรยานยนต์นับร้อยคันที่จอดรวมกลุ่มอยู่ริมถนนมอเตอร์เวย์ สาย 7 ฝั่งขาออก มุ่งหน้า จ.ชลบุรี ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 7 เขตลาดกระบัง กทม. ที่ปรากฏขึ้นในกล้องวงจรปิด ตั้งแต่ช่วงเวลาประมาณตี 1 และมีทีท่าว่ากลุ่มรถซิ่งเหล่านี้กำลังจะเปลี่ยนเส้นทางที่ประชาชนใช้สัญจร ให้กลายเป็นสนามประลองความเร็วในอีกไม่กี่นาที

นั่นทำให้ตำรวจทางหลวง 1 กองกำกับการ 8 ที่รับผิดชอบดูแลเส้นทางนี้ ประสานไปยังกู้ภัยทางหลวงหมายเลข 7 นำกำลังเข้าจับกุม แต่เมื่อกลุ่มรถซิ่งเห็นรถของตำรวจก็แตกฮือ ขับรถหลบหนีไปยังถนนร่มเกล้า บางส่วนยกรถจักรยานยนต์ข้ามฝั่งเพื่อหลบหนี ที่สุดสามารถควบคุมตัวกลุ่มวัยรุ่นได้ 5 คน ยึดรถยนต์ได้ 4 คัน รถจักรยานยนต์อีก 3 คัน ทั้งหมดถูกเคลื่อนย้ายมาตรวจสอบที่ สน.ตำรวจทางหลวง 1 และสอบปากคำผู้ที่ถูกควบคุมตลอดคืนต่อเนื่องจนถึงวันนี้


กลุ่มชายที่ควบคุมตัวมาได้ทั้ง 5 คน เป็นเจ้าของรถจักรยานยนต์ 1 คน และเจ้าของรถยนต์ 4 คน ไม่มีเยาวชน เจ้าของรถจักรยานยนต์แต่งซิ่งสีดำคันนี้ให้การกับตำรวจว่า เตรียมตัวที่จะมาแข่ง แต่ยังไม่ทันได้เริ่มแข่งก็ถูกจับกุมเสียก่อน ปกติเป็นนักแข่งในสนาม แต่ช่วงโควิดสนามแข่งปิดหมด จึงพยายามหาช่องทางที่จะสามารถแข่งรถได้ บางทีนัดกันผ่านโซเชียลบ้าง

ส่วนเจ้าของรถตู้คันนี้ปฎิเสธว่าไม่ได้มาแข่งแค่มาดู แต่เมื่อ เปิดท้ายรถตู้พบว่าถูกดัดแปลงถอดเบาะออก และบรรทุกมอเตอร์ไซค์แต่งซิ่งไว้บนรถ ขณะที่กลุ่มคนที่เหลือก็ปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้องกับการแข่ง

ผู้กำกับการ 8 กองบังคับการตำรวจทางหลวง ให้ข้อมูลว่า การจับกุมแต่ละครั้งจะให้รถตำรวจปิดหัวปิดท้ายเส้นทางเพื่อปิดพื้นที่กลุ่มรถซิ่งในการเข้าจับกุม และป้องกันอันตรายแก่ผู้ใช้เส้นทาง ซึ่งหากสอบปากคำและตรวจสอบพยานแวดล้อมแล้วว่าไม่เกี่ยวข้อง ก็ต้องให้ความเป็นธรรม


สำหรับการแข่งรถในทางสาธารณะ หรือสนับสนุน หรือส่งเสริมให้มีการแข่งรถในทาง ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับตั้งแต่ 2,000-10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ของผู้นั้นมีกำหนดไม่น้อยกว่า 1 เดือน หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่

มีการตั้งข้อสังเกตว่าทั้งที่มีภาพรถมารวมตัวกันนับ 100 คัน แต่ทำไมจึงจับกุมได้น้อย ผู้กำกับการสถานีตำรวจทางหลวง 1 ชี้แจงว่า เนื่องจากพื้นที่เกิดเหตุมีเส้นทางแยกไปได้หลายทาง และไม่ใช่บริเวณใกล้ด่านเก็บค่าผ่านทาง ประกอบกับกำลังพลมีจำกัด นอกจากนี้ยังเป็นคืนวันศุกร์สิ้นเดือน ที่การจราจรหนาแน่นมาก จึงไม่สามารถปิดล้อมพื้นที่ได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว และต้องคำนึงถีงความปลอดภัยของผู้ใช้เส้นทางอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการแจ้งข้อหาใดๆ กับผู้ที่ถูกควบคุมตัว ซึ่งตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน สามารถยึดรถไว้ตรวจสอบได้ 7 วัน ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จะต้องตรวจดูภาพกล้องวงจรปิดในเส้นทางที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม และสอบสวนพยานแวดล้อม ก่อนแจ้งข้อหาดำเนินคดีต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีตครูจำใจสร้างห้องขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา

สลด! อดีตครูวัย 64 ปี จำใจจ้างช่างทำห้องคล้ายกรงขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา-พนันออนไลน์ หลังส่งตัวบำบัดกว่า 10 ครั้ง แต่ออกมาก็เหมือนเดิม

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2 โชคดีบาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่ส่งรักษาตัวที่ รพ.เจ้าพระยา

อาม่าแจ้งความ “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธีสูญ 60 ล้าน

อาม่าวัย 77 ปี โร่แจ้งความเอาผิด “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธี-แนะซื้อวัตถุมงคลแล้วไม่ได้รับของ สูญเงินกว่า 60 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ทนายตั้ม

“ทนายตั้ม” ปรากฏตัวแล้ว บอกไม่สบายใจมี ตร.เฝ้าหน้าบ้าน

ปรากฏตัวแล้ว “ทนายตั้ม” พบตำรวจเหตุมีเจ้าหน้าที่ไปเฝ้าที่บ้าน พร้อมแจงปมเงิน 39 ล้านบาท ค่าศิลปินจีน ที่แท้เป็นมิจฉาชีพหลอก “เจ๊อ้อย” ปฏิเสธพบคู่กรณี บอกยังไม่พร้อมคุย

เกาะกูด

“ภูมิธรรม” ย้ำจะรักษาผลประโยชน์ทางทะเลของไทยไว้เท่าชีวิต

“ภูมิธรรม” มอง MOU44 คือกลไกที่ดีที่สุด ก่อนย้อนกลุ่มการเมือง พปชร.ไปถามหัวหน้าพรรคตัวเอง เพราะเป็นคนนำเจรจาในปี 57 ยันไม่เคยยกเลิกในสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ ย้ำรัฐบาลจะรักษาดินแดน-ผลประโยชน์ทางทะเลของไทยไว้เท่าชีวิต

US election

ทรัมป์-แฮร์ริส หาเสียงวันสุดท้าย ก่อนหย่อนบัตรวันนี้

ขณะนี้เหลือไม่ถึง 24 ชั่วโมงก็จะถึงวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ 5 พฤศจิกายน ผลสำรวจความเห็นประชาชนต่างชี้ว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ และนางคอมมาลา แฮร์ริส