“บิ๊กโจ๊ก” สั่งสอบปากคำ-เอาผิด “แม่สื่อจีน”

กรุงเทพฯ 25 ธ.ค. – “บิ๊กโจ๊ก” สั่งสอบปากคำและเอาผิด “แม่สื่อจีน” หลัง “พริตตี้สาวสวย” ร้องเอาผิดอดีตสามีชาวจีน-แม่สื่อ หลอกให้ท้อง พอไม่ได้ลูกชายแล้วทอดทิ้ง


จากกรณีเมื่อวันที่ 21 ธ.ค. น.ส.เนย อายุ 42 ปี พริตตี้สาว มีผู้ติดตามกว่า 1 ล้านคน เดินทางเข้าร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือกับนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด และในฐานะที่ปรึกษา รมว.มหาดไทย เพื่อขอความช่วยเหลือหลังถูกแก๊งคนจีนวางแผนจัดหาหนุ่มชาวจีนมาคบหาจนเตรียมงานแต่งงานและตั้งครรภ์ จากนั้นไปพบแพทย์อัลตราซาวด์พบว่าได้บุตรสาว จึงแจ้งข่าวดีกับฝ่ายชาย แต่พอฝ่ายชายรู้ว่าตั้งครรภ์ได้ลูกสาว จึงได้บินกลับไปที่ประเทศจีน อ้างว่ากลับไปทำงาน จากนั้นขาดการติดต่อ จึงเชื่อว่าเป็นการวางแผนหลอกลวงโดยทำเป็นขบวนการนั้น

นายเอกภพ ได้พา น.ส.เนย พริตตี้สาวผู้เสียหาย เข้าพบ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. และในฐานะ ผอ.ศูนย์พิทักษ์เด็กและสตรีสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ช่วยดำเนินคดีอดีตสามีชาวจีน เนื่องจากล่าสุดยังพบผู้เสียหายเป็นหญิงไทยถูกล่าลูกชายลักษณะนี้จำนวนมาก จึงขอให้ รอง ผบ.ตร. ช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริงและดำเนินการเอาผิดกับผู้ร่วมขบวนการทั้งหมด เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้หญิงไทยตกเป็นผู้เสียหายในอนาคต


นายเอกภพ กล่าวว่า จากพฤติกรรมที่เกิดขึ้น ตนและหลายฝ่ายมองว่าเป็นขบวนการล่าลูกชายของชาวจีน เพราะก่อนหน้านี้ตนได้พูดคุยกับทนายไพศาล เรืองฤทธิ์ โดยทนายมีเพื่อนที่ทำบริษัททัวร์เกี่ยวกับคนจีน และเพื่อนคนที่ทำทัวร์ก็ยืนยันว่าปัจจุบันนี้มีคนจีนบางกลุ่มมีแนวคิดล่าลูกชาย เนื่องจากผู้หญิงจีนเริ่มแต่งงานยากขึ้น จึงมองหาผู้หญิงในแถบทวีปเอเชีย เช่น หญิงชาวไทย หญิงชาว สปป.ลาว เป็นต้น โดยเมื่อคนกลุ่มนี้มาถึงประเทศไทยก็จะหาหญิงชาวจีน ที่พักอาศัยอยู่ในประเทศไทยนานเพื่อมารับหน้าที่เป็นแม่สื่อให้ และติดต่อผู้หญิงไทยโดยอ้างว่ามีญาติหรือนักธุรกิจชาวจีนที่รู้จัก อยากมีครอบครัวกับหญิงไทย อยากแต่งงานกับหญิงไทย จึงเริ่มมีการประสานพูดคุยกัน กระทั่งเคสของคุณเนย มีการพูดคุยกับชายจีนรายนี้ได้ 2 เดือน ทางแอปพลิเคชันวีแชต (We Chat) มีการวิดีโอคอลพูดคุยกันมาต่อเนื่อง จนนัดพบและเที่ยวกันในประเทศไทยช่วงเดือน มิ.ย. ซึ่งคุณเนยก็ได้พาครอบครัวของตัวเองไปพบกับฝ่ายชาย ขณะที่ฝ่ายชายพาแม่สื่อจีนมาพบพูดคุยกันเรื่องการแต่งงาน และตกลงกันว่าจะมีการแต่งงานกันในช่วงเดือน ก.ย. ต่อมาชายชาวจีนก็เดินทางกลับประเทศจีน และช่วงปลายเดือน มิ.ย. คุณเนยก็ตั้งครรภ์และได้บอกกล่าวแม่สื่อและฝ่ายชาย โดยแม่สื่อชาวจีนก็ได้โน้มน้าวให้คุณเนยไปพบแพทย์เพื่อตรวจและอัลตราซาวด์ อีกทั้งยิ่งเข้าใกล้วันแต่งงานเท่าไร ทางแม่สื่อจีนและฝ่ายชายก็รบเร้าอยากให้คุณเนยทราบเพศลูกไวๆ แต่ทางแพทย์ก็บอกว่าจะรู้เพศลูกก็ตอนปลายเดือน ก.ย. ทำให้ฝ่ายชายขอเลื่อนงานแต่งออกไปเป็นเดือน ต.ค.แทน เพื่อขอรู้เพศลูกก่อน โดยอ้างว่าติดธุระ ซึ่งคุณเนยก็ไม่คิดอะไร ยอมเลื่อนงานแต่ง ต่อมาสิ้นเดือน ก.ย. จึงได้อัลตราซาวด์ทราบเพศลูกสาว ได้บอกแก่แม่สื่อชาวจีนและสามี แต่กลับไม่ได้ดีใจ เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ จากที่เคยพูดคุยกันทุกวัน เริ่มห่างเหินและค่อยๆ หายไป จนคุณเนยไปสอบถามกับแม่สื่อชาวจีน แม่สื่อกลับตอบว่า มันอยู่ที่คุณเนยเองที่ได้ลูกสาว ทำไมจึงไม่ได้ลูกชาย จึงถูกบอกปัดทั้งหมด อีกทั้งแม่สื่อยังบอกคุณเนยว่าที่ผ่านมาหญิงไทยที่เคยติดต่อให้ชาวจีนก็ได้ลูกชายหมดเลย ทำให้ผู้เสียหายมองว่านี่อาจเป็นขบวนการล่าลูกชาย ทั้งนี้ ภายหลังจากที่คุณเนยใช้ความกล้าหาญออกมาเปิดเผยพฤติกรรมของชาวจีน ตนคาดว่าจะยังมีหญิงไทยอีกจำนวนมากที่อาจได้รับการกระทำลักษณะดังกล่าวแต่ไม่มีความกล้าที่จะดำเนินคดีเอาผิด จึงขอให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ช่วยดำเนินการตรวจสอบ

นายเอกภพ กล่าวอีกว่า จากเรื่องดังกล่าวตนไม่อยากให้ตำหนิเหยื่อ เพราะอาจมีหญิงไทยที่ถูกหลอกในลักษณะนี้อีกมาก และตนยังได้ข้อมูลจากกลุ่มคนไทยที่ทำทัวร์กับนักท่องเที่ยวจีน พบว่าคนจีนมักจะหาหญิงไทย หน้าตาดี ครอบครัวดี หรือเรียกว่าเป็นแม่พันธุ์ดีมาทำในลักษณะนี้ อีกทั้งล่าสุดเพจสายไหมต้องรอดของเรายังได้รับการขอความช่วยเหลือจากหญิงไทยรายหนึ่ง ซึ่งได้พาลูกชายไปพบกับครอบครัวของสามีชาวจีนที่ประเทศจีน แต่กลับถูกยึดพาสปอร์ต และไล่ให้หญิงไทยกลับ แต่จะเอาลูกชายไว้ที่ประเทศจีน ทำให้หญิงไทยกังวลความไม่ปลอดภัย จึงพาลูกชายหลบหนีไปซ่อนตัวในโรงแรมแห่งหนึ่ง ซึ่งตนจะประสานเรื่องความช่วยเหลือต่อไป ตนมองว่าขบวนการนี้ไม่ธรรมดา และจะมีอัตราสร้างความเสียหายต่อประเทศไทยและหญิงไทยอย่างแน่นอน

ด้าน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ขอฝากประชาสัมพันธ์ แม้ชาวจีนจะเป็นนักท่องเที่ยวอันดับ 1 ของไทย แต่ก็มีคนจีนที่เข้ามาประกอบอาชีพผิดกฎหมายในไทยเยอะมาก ซึ่งตนก็ได้กำชับตำรวจ ตม. ให้ตรวจสอบการเดินทางเข้า-ออกของชาวจีนในราชอาณาจักรไทย รวมถึงพฤติกรรมของจีนเทาและจีนดำ เพราะถึงแม้การปราบปรามอาชญากรรมเรื่องการอุ้มบุญจะเริ่มคลี่คลายลงจากการบังคับใช้กฎหมายอุ้มบุญ แต่ขบวนการนี้ก็มีแผนประทุษกรรมใหม่ ๆ คอยเปลี่ยนแปลงให้หลบเลี่ยงการถูกดำเนินคดีเสมอ อย่างไรก็ตาม ในเคสนี้ ตนได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนทำการตรวจสอบรายละเอียดทั้งหมด และจะรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลออกหมายเรียกแม่สื่อชาวจีนรายนี้ เพื่อสอบถามข้อมูลทั้งหมด ทั้งการเข้ามาพำนักในประเทศไทย ตั้งแต่ช่วงเวลาใด ใช้วีซ่าประเภทใด ครอบครองอสังหาริมทรัพย์ใดบ้าง ประกอบอาชีพอะไร รวมถึงมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับอดีตสามีของผู้เสียหายได้อย่างไร ซึ่งถ้าพบความผิดเข้าองค์ประกอบกฎหมายมาตราใด จะดำเนินการพิจารณาเอาผิดทั้งหมด คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 5 วัน เพื่อไล่เรียงพฤติการณ์ รวมถึงจะเรียกสอบปากคำพยานที่พักอาศัยในคอนโดดังกล่าวและเคยถูกแม่สื่อจีนรายนี้ชักชวนด้วย


ขณะที่ น.ส.เนย กล่าวว่า แม่และน้องสาวตนพักอาศัยอยู่ที่คอนโดเดียวกันกับแม่สื่อรายดังกล่าว และพยายามตีสนิทนาน 2-3 ปี ก่อนแนะนำ นายจาง ให้รู้จักครอบครัวตน เพื่อให้ได้พูดคุยสานสัมพันธ์กัน ปัจจุบันตั้งครรภ์ลูกสาวได้ 6 เดือนแล้ว และยังติดต่อสามีไม่ได้ ส่วนแม่สื่อชาวจีนทราบว่าย้ายที่อยู่ไปแล้ว สำหรับพฤติการณ์ของแม่สื่อจีนที่ผ่านมา เขาพยายามนำเสนอชายชาวจีนให้ตนหลายคน และอยากให้ตนลองพูดคุยกันกับคนที่เขาแนะนำ เพราะจะได้มีครอบครัวได้แต่งงาน อีกทั้งตนยังได้รับข้อมูลมาว่ามีหญิงไทยประมาณ 2 ราย ในคอนโดดังกล่าวเคยถูกแม่สื่อจีนรายนี้มีพฤติกรรมลักษณะนี้มาก่อน ตนจึงคิดว่าไม่ได้มีเพียงตนคนเดียว จึงขอให้ รอง ผบ.ตร. ช่วยทำความจริงให้คลี่คลายและเอาผิดกับขบวนการนี้. -415-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พระขโมยรถยนต์โยมวันเข้าพรรษา

กาฬสินธุ์ 12 ก.ค.-วงการผ้าเหลืองไม่แผ่ว พระหนุ่มขโมยรถยนต์ญาติโยมที่มาทำบุญวันเข้าพรรษา ถูกตำรวจสกัดจับได้ทันควัน ตำรวจ สภ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ สกัดจับรถเก๋งสีดำคันบริเวณสี่แยกไฟแดง อ.สมเด็จ หลังรับแจ้งว่าพระสงฆ์หนุ่มแอบขโมยรถจากญาติโยมที่มาทำบุญในวันเข้าพรรษา แล้วขับหนีมาทาง อำเภอสมเด็จ ตำรวจจึงออกสกัดจับจนเจอ ส่วนพระสงฆ์ที่ก่อเหตุมีอาการพูดจาวกไปวนมา ตำรวจจึงนำตัวมาสงบสติอารมณ์ที่โรงพัก และแจ้งให้เจ้าของรถมารับรถคืน เตรียมดำเนินคดีกับพระรูปนี้ต่อไป หลังสึกจากการเป็นพระ.-สำนักข่าวไทย

น้ำป่าทะลักท่วมแพร่ บ้านเรือนเสียหายหนัก

แพร่ 12 ก.ค.-ฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่ จ.แพร่ น้ำป่าทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรช่วงกลางดึก เสียหาย 2 อำเภอ เกิดเหตุน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมพื้นที่ชุมชนในตำบลแดนชุมพล จังหวัดแพร่ และอำเภอร้องกวางบางส่วน เนื่องจากมีฝนตกลงมาอย่างหนักในช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา ส่งผลให้บ้านเรือนของประชาชนได้รับความเสียหายในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ลุ่มและแนวทางน้ำธรรมชาติที่รับน้ำจากภูเขาและป่าใกล้เคียง ปริมาณน้ำที่หลากเข้ามาเกิดจากฝนตกหนักต่อเนื่องตลอดช่วงคืนที่ผ่านมา ทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ชาวบ้านไม่ทันตั้งตัว ทรัพย์สินของประชาชนบางส่วนได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะบ้านโทกค่า อำเภอสอง จังหวัดแพร่ หลายหลังคาเรือนได้รับผลกระทบเนื่องจาก ไม่เคยเกิดเหตุแบบนี้มาก่อน ปีนี้น้ำมากกว่าทุกปี ทำให้เก็บข้าวของไม่ทัน ได้รับความเสียหาย ครั้งสุดท้ายที่เคยท่วม ตั้งแต่ปี 2538 .-สำนักข่าวไทย

สองสาวใหญ่ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกมือถือ

กทม. 12 ก.ค. – สองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกโทรศัพท์มือถือลอยนวล พบเคยเข้ามาขอเงินหลวงตาแล้วครั้งหนึ่ง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพขณะ ผู้หญิง 2 คนเข้าไปในกุฏิที่พระสงฆ์นอนอาพาธอยู่ คนหนึ่งนั่งพื้นส่วนอีกคนยืนอยู่แล้วเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือบนเตียงนอนไป เหตุการณ์นี้ นายมนูญ อายุ 29 ปี หลานชายของพระลูกวัดแห่งหนึ่ง ในซอยประชาอุทิศ 27 ถนนประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว ให้ช่วยตามหาสองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิ “หลวงตาสุข” อายุ 80 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคประจำตัว ประกอบกับอายุมากเดินได้ไม่ปกติ โดยหลวงตาสุข เป็นพระลูกวัด พักอยู่กุฏิด้านหลังโบสถ์ เมื่อวานนี้ (11 ก.ค.) ประมาณ 13.45 น. ขณะกำลังนอนพักผ่อนอยู่ มีหญิงร่างท้วม 2 คนเข้าไปในกุฏิ จากนั้นคนใส่เอี๊ยมสีเขียวผมสั้นลงมือค้นหาสิ่งของบนหัวเตียง ส่วนอีกคนที่มาด้วย คอยดูต้นทาง จนกระทั่งหญิงคนที่รื้อหาสิ่งของมองเห็นโทรศัพท์มือถือ ราคาประมาณ 4,000 บาท ของพระที่วางไว้หัวเตียง […]

มองเป็นการกระทำส่วนบุคคล ปมมีชื่อพระโผล่คลิปสีกา ก.

กรุงเทพฯ 11 ก.ค. – เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ เผยกรณีปรากฏชื่อ “พระปริยัติธาดา” ในคลิปพัวพันสีกา ก. มองเป็นการกระทำส่วนบุคคล ส่วนตัวอยากเห็นคลิปเพื่อยืนยันว่าท่านเกี่ยวข้องอย่างไร จากกรณีปรากฏรายชื่อพระในคลิปมีความสัมพันธ์กับ “สีกา ก.” จนถึงขั้นปาราชิก หนึ่งในนั้นคือ พระปริยัติธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร และมีรายงานข่าวว่าท่านหายตัวจากวัดหลังจากตกเป็นข่าว ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังวัดกัลยาณมิตรฯ พบว่าพระของวัดทุกรูปลงโบสถ์เพื่อประกอบศาสนกิจเนื่องในวันเข้าพรรษา ภายในพระอุโบสถ ภายหลังประกอบศาสนกิจลงโบสถ์ของพระวัดกัลยาณมิตรฯ เสร็จสิ้น พระพรหมกวี เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ ได้ถ่ายรูปกับพระใหม่และพระสงฆ์ในวัด และให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปถ่ายภาพ พร้อมกับพูดคุยเบื้องต้น กรณีปรากฏชื่อของพระปริยัติธาดา เป็นหนึ่งในบุคคลในคลิปที่เกี่ยวข้องกับสีกา ก. ว่าส่วนตัวไม่ทราบ คนเราไม่ได้รู้เรื่องส่วนตัวของคนอื่น มองเป็นเรื่องธรรมชาติในสังคมที่มีทั้งคนดีและไม่ดี เรื่องนี้เป็นการกระทำส่วนบุคคล ส่วนตัวอยากเห็นคลิปเพื่อยืนยันว่าท่านเกี่ยวข้องอย่างไร และอยากถาม พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว เพื่อขอดูคลิปที่กล่าวอ้าง ถ้าภาพมันชัดเจนก็ต้องออกตามกฎ ซึ่งใครทำอะไรก็ได้อย่างนั้น เมื่อถามว่า พระปริยัติธาดา ออกไปจากวัดตั้งแต่เมื่อไร พระพรหมกวี บอกว่า ท่านออกไปจากวัด 6-7 วันแล้ว ก็ออกไปเฉยๆ ไม่ได้สึกออกไป และไม่รู้ว่าตอนนี้สึกหรือยัง แต่หากจะสึกต้องแจ้งมาที่วัด […]

ข่าวแนะนำ

พระปรางค์วัดอรุณ

ข่าวดี “พระปรางค์วัดอรุณฯ” ได้รับบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลก

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.- “แพทองธาร” เผยข่าวดี “พระปรางค์วัดอรุณฯ” ได้รับบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลกของยูเนสโกแล้ว นับเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยที่ได้ร่วมเป็นเจ้าของมรดกทางวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า “ข่าวดีของคนไทย “พระปรางค์วัดอรุณ ราชวรารามราชวรมหาวิหาร” ได้รับการบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลก (Tentative List) ของยูเนสโกแล้วค่ะ ดิฉันได้รับรายงานจากคณะผู้แทนไทยในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก ณ กรุงปารีส แจ้งว่า ที่ประชุมได้รับทราบว่าพระปรางค์วัดอรุณฯ เป็นหนึ่งในรายชื่อบัญชีรายชื่อเบื้องต้น (Tentative List) นับเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการยกระดับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกอย่างสมบูรณ์ในอนาคต กระทรวงวัฒนธรรมมอบหมายให้กรมศิลปากรดำเนินการจัดทำเอกสารเสนอชื่อ (Nomination Dossier) ควบคู่กับการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และจัดการพื้นที่ตามหลักสากล เพื่อเตรียมความพร้อมสู่ขั้นตอนต่อไป ความคืบหน้านี้เป็นมากกว่าการอนุรักษ์สถานที่ แต่คือการยืนยันอัตลักษณ์ไทยที่งดงามและทรงคุณค่าในสายตาชาวโลก นับเป็นความภาคภูมิใจของคนไทย ที่ได้ร่วมเป็นเจ้าของมรดกทางวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่นี้” .-316 สำนักข่าวไทย

ตรวจสอบรายรับรายจ่ายวัดใหญ่จอมปราสาท

สมุทรสาคร 13 ก.ค. – เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบรายรับรายจ่ายของวัดใหญ่จอมปราสาท นำมาเทียบกับเส้นเงินของของเจ้าอาวาสที่หนีไป หลังตรวจพบโอนเงินให้สีกา ก. กว่า 1 ล้านบาท ที่วัดใหญ่จอมปราสาท ต.ท่าจีน อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. พร้อมด้วย พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. นำคณะเข้าพบ พระครูสาครสุตกิจ เจ้าคณะตำบลท่าฉลอม เจ้าอาวาสวัดน้อยนางหงษ์ คณะพระสงฆ์ (พระลูกวัด) วัดใหญ่จอมปราสาท ผู้นำชุมชน และคณะกรรมการวัด เพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ระบบการเงินในวัดใหญ่จอมปราสาท เพื่อนำไปเป็นข้อมูลเกี่ยวกับการตรวจสอบเส้นทางการเงินของพระมหาทิวากร เจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท ที่ตรวจพบว่าได้โอนเงินกว่า 1 ล้านบาทไปให้สีกา ก. แต่ยังไม่มีเรื่องชู้สาวเข้ามาเกี่ยวข้อง ประเด็นที่ต้องการทราบเพิ่มเติมคือ เงินที่โอนให้สีกาเป็นเงินส่วนไหน แล้วเงินวัดมีรายรับจากที่ใดบ้าง มีรายจ่ายอย่างไร รวมถึง เงินวัดนั้นเข้าบัญชีใคร มีไวยาวัจกรณ์เบิกจ่ายหรือไม่ หรือใครเป็นผู้ทำหน้าที่รับและเบิกจ่ายเงินทั้งหมด ผู้ใหญ่บ้านชี้แจงว่า ทางวัดยังไม่มีไวยาวัจกรวัดคนใหม่ หลังจากคนเก่าลาออกไปเล่นการเมืองท้องถิ่น ส่วนเงินวัดนั้นเจ้าอาวาสเป็นผู้บริหารแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งเงินวัดก็จะมีรายรับมาจากให้ที่จอดเรือบริเวณหน้าวัด ประมาณเดือนละ […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]