บช.ก. 22 มี.ค. – “ทนายอั๋น บุรีรัมย์” แจ้ง ม.157 กกต. ในการยื่นเรื่องยุบพรรคก้าวไกล ในการหาเสียงนโยบาย แก้ไขกฎหมายมาตรา 112
นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือ ทนายอั๋น บุรีรัมย์ พร้อมด้วยกองเชียร์พรรคก้าวไกล ได้มาแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษเอาผิดกับ กกต. ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.157 กรณีไม่ดูแลควบคุม และ/หรือ ติดตามนโยบายของพรรคก้าวไกล จนนำสู่การมีวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับกฎหมายประมวลอาญา มาตรา 112
ทนายอั้น กล่าวว่า ตนและมวลชนมารวมตัวกันวันนี้เพื่อที่จะประกาศให้เห็นว่า เจ้าหน้าที่ของรัฐดำเนินการภายใต้องค์กรของตัวเองทำอะไรตามใจตัวเอง ไม่เห็นหัวของประชาชน ตนจะสู้ภายใต้กฎหมายรัฐนูญที่ถึงแม้จะเสียเปรียบแต่ก็จะสู้ให้ถึงที่สุด จึงได้มาแจ้งความเอาผิดกับ กกต. นำโดยนายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จากกรณีการยื่นเรื่องยุบพรรคก้าวไกล ประเด็นการหาเสียง มาตรา 112 ในการเลือกตั้ง 14 พฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา ตนเห็นว่า กกต.มีหน้าที่ในการดูแลควบคุม นโยบายและกิจการของนักการเมืองให้อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ และกฎหมายอื่นๆ มีบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญมาตรา 224 (5) (6) และ กกต.มีหน้าที่ในการตรวจสอบและติดตาม ข้อบังคับของพรรคการเมืองและนโยบาย ก่อนการหาเสียงว่าพรรคการเมืองใดมีนโยบายที่ละเมิด หรือผิดต่อกฎหมาย และรัฐธรรมนูญหรือไม่
ซึ่งทางพรรคก้าวไกลส่งนโยบายก่อนการหาเสียงให้ทาง กกต. ได้ตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว แต่ทาง กกต.กับเพิกเฉยและละเลยในการปฎิบัติ ดูแลควบคุม นโยบายของพรรคการเมือง ซึ่งถ้าในการหาเสียงของพรรคก้าวไกลในนโยบายมาตรา 112 ผิดกฎหมาย กกต.ก็ควรตรวจสอบตั้งแต่แรก และชี้แจงไปทางพรรคว่านโยบายมาตรา 112 ผิดต่อการหาเสียง แต่พอหลังเลือกตั้งเสร็จเรียบร้อยกลับค่อยมาบอกว่านโยบายมาตรา 112 ผิด ซึ่งก็ทำให้เห็นว่าทาง กกต. ปล่อยปละละเลยต่อหน้าที่ในการตรวจสอบนโยบายของพรรคการเมือง จึงทำให้ตนได้มาแจ้งความเอาผิดกับ กกต.ว่าผิดกฎหมายมาตรา 157 หรือไม่
ส่วนประเด็นในเรื่องของการที่ตนได้ไปร้องยื่นยุบพรรคภูมิใจไทย เมื่อวันที่ 15 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยทาง กกต. เผยว่าการยุบพรรคภูมิใจไทยอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาและอยู่ในขั้นตอนการสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน ยังไม่มีการวินิจฉัยว่าจะยุบพรรคภูมิใจไทย แต่ตัดมาที่พรรคก้าวไกล กลับอยู่ในขั้นตอนขั้นที่ 7 ไปถึงศาลรัฐธรรมนูญเรียบร้อย ซึ่งตนได้มายื่นเรื่องยุบพรรคภูมิใจไทยก่อนที่นายเรืองไกร จะมายื่นเรื่องยุบพรรคก้าวไกล ห่างกันประมาณครึ่งเดือน จึงทำให้เห็นพฤติการณ์ของ กกต.ว่าไม่มีความเป็นธรรม และเลือกปฏิบัติ จึงทำให้ตนต้องมาแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษกับ กกต. ในวันนี้ตามมาตรา 157
เบื้องต้นนายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือ ทนายอั๋น บุรีรัมย์ ได้เข้าไปพบพนักงานสอบสวนเพื่อที่จะยื่นเรื่อง แจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษกับ กกต.ต่อไป. -414-สำนักข่าวไทย