นายกฯ เป็นประธานพิธี kick off ใช้งานคอนกรีตหุ้มด้วยแผ่นยาง

จันทบุรี 25 ส.ค.-นายกฯ เป็นประธานพิธี kick off เริ่มใช้งานคอนกรีตหุ้มด้วยแผ่นยางธรรมชาติ ส่งเสริมการใช้ยางพาราในประเทศ ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยบนท้องถนน พร้อมขอให้ทุกคนรักประเทศไทยที่บรรพบุรุษเสียเลือดเนื้อรักษาไว้ ย้ำรักษาสิ่งที่ดีของไทย ติงคนที่คิดทำลาย ไม่รู้จิตใจทำด้วยอะไร


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อย่างเป็นทางการนอกสถานที่ที่โรงแรมสตาร์ คอนเวนชั่น จังหวัดระยอง เสร็จสิ้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางไปยังจุดจอดเฮลิคอปเตอร์ สนามกีฬากลางจังหวัดระยอง ตำบลเนินพระ อำเภอเมือง เพื่อไปยังจุดจอดเฮลิคอปเตอร์ ค่ายตากสิน ตำบลวัดใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี และเดินทางต่อโดยรถยนต์ไปที่ตำบลแสลง อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี เพื่อตรวจเยี่ยมโครงการนำร่องการนำยางพารามาใช้เพื่อปรับปรุงเพื่อความปลอดภัยทางถนน

จากนั้น นายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธี kick off เริ่มการใช้งานคอนกรีตหุ้มด้วยแผ่นยางธรรมชาติ หรือ รับเบอร์ เฟนเดอร์ แบริเออร์ และหลักนำทางยางธรรมชาติ เป็นครั้งแรกในประเทศไทย ณ ถนนหลวงสาย 3249 ตอนเขาไร่ยา-แพร่งขาหยั่ง กิโลเมตรที่ 3+164 อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี


โดยนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวเปิดงานว่า ดีใจที่เข้ามาเห็นทุกคนใส่หน้ากากอนามัย ถือว่าประสบความสำเร็จในการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่เราไม่อยากให้กลับมาแพร่ระบาดอีก ถ้าสถานการณ์กลับมา เราก็พร้อมรับสถานการณ์ เพราะเรามีขีดความสามารถสูงในระดับหนึ่ง

“ขอให้ทุกคนภูมิใจ นี่คือสิ่งที่ทุกคนร่วมมือกับรัฐบาลแล้วสำเร็จ อะไรที่ทำแล้วเกิดประโยชน์ส่วนรวม ผมคิดว่าน่าจะเป็นความภูมิใจของทุกคน และกำลังใจของผม คือ การได้รับความร่วมมือจากทุกคน ถือเป็นกำลังใจให้มีแรงศรัทธาในการทำงาน วันนี้เรากำลังเดินหน้าประเทศ แก้สถานการณ์เศรษฐกิจตกต่ำ ไม่มีอะไรได้มาในเวลาอันรวดเร็ว หรือปีเดียว เหมือนกับการมีลูกต้องใช้เวลานานกว่าจะเรียนจบ จะเติบโตและพ้นจากอกแม่ไป แต่เมื่อลำบากก็ต้องกลับมาหาพ่อแม่ สังคมนี้ประกอบไปด้วยการเรียนรู้ การศึกษาจากครูบาอาจารย์ที่จะต้องคำนึง นี่คือสังคมไทย สัญลักษณ์แห่งการพูดคุยกัน ขอฝากทุกคนว่าวันนี้สถานการณ์โควิดโลกมีผู้เสียชีวิตหลายล้านคน แต่ประเทศไทยดีอยู่แล้ว ขอให้รักษาให้ดีต่อไป ทุกคนต้องมีภูมิต้านทาน ขอให้รักษาสิ่งดี ๆ ของสังคมไทย วันนี้เราต้องมีภูมิต้านทาน นี่คือสิ่งที่พระองค์ได้พระราชทานให้เราแล้ว เพราะนี่คือแผ่นดินไทย ไม่ว่าจะเชื้อชาติใด ศาสนาใด มาจากที่ไหนก็ตาม เราต้องรักแผ่นดินผืนนี้ ต้องรักประเทศไทย เราต้องสืบสาน รักษาต่อยอด สิ่งที่ดีอยู่แล้วให้ดีต่อไป ไม่ว่าจะเป็นปัญหาอะไรจะแก้ได้หมด ค่อยเจรจาหารือกัน” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า วันนี้ดีใจได้มาร่วมเปิดโครงการยางพาราไทยเพิ่มความปลอดภัยทุกเส้นทาง ที่เป็นการกระตุ้นการผลิตยางในประเทศ และต้องหาวิธีทำให้ราคายางในประเทศสูงขึ้น หลัก ๆ คือการใช้ภายในประเทศเพื่อเพิ่มมูลค่า เพิ่มการศึกษาวิจัยต่าง ๆ เพื่อทำให้เกิดมูลค่าและนำไปสู่รายได้ของชาวยางพารา ราคาพืชผลในประเทศหลายชนิดมีราคาตกต่ำ เพราะหลายประเทศเลือกผลิตใช้เองมากขึ้นแล้ว เนื่องจากสถานการณ์โลก เราจึงต้องให้ความสำคัญสูงสุดในการดำเนินการใช้ผลิตภัณฑ์ในประเทศที่มีการพัฒนาวิจัยและมาสู่การปฏิบัติที่ใช้ประโยชน์ได้จริง รัฐบาลได้เร่งดำเนินการเรื่องดังกล่าวอย่างเร็วที่สุด เพื่อให้เกิดความมั่นคง เพราะเป็นรายได้ของเกษตรกรชาวสวนยาง


นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า ประเทศที่ตนเคยไปในหลายประเทศ ประเทศไทยถือว่าถนนดีที่สุด คนไทยต้องรู้ว่าเราได้อะไร มีอะไรไปแล้วบ้าง ส่วนเรื่องอีอีซีจะต้องทำงานแบบบูรณาการ ทุกคนถือว่ามีส่วนร่วมในการค้ากับประเทศเพื่อนบ้านด้านต่าง ๆ ทั้งนี้หากใครจะลงทุนอะไรก็ตาม ก็ต้องคำนึงถึงประเทศไทยเป็นหลัก รัฐบาลมีหน้าที่ในการอำนวยความสะดวก สร้างโครงสร้างพื้นฐาน และวันนี้มีผลการวิจัยเพื่อพัฒนานวัตรกรรมยางพารา เพิ่มความปลอดภัย ให้ผู้ขับรถ ถือเป็นเรื่องที่รัฐบาลให้ความสำคัญ เพื่อลดการสูญเสียของประชาชน

“ขอบคุณทุกฝ่ายที่ร่วมกันวิจัยพัฒนาสิ่งที่สร้างประโยชน์ต่อประเทศ นี่คือแนวทางไทยสร้างชาติ ที่ไม่สร้างความขัดแย้ง ผมพร้อมให้อภัยทุกคน และทุกคนก็ต้องพร้อมอภัยให้ผม นี่คือสังคมไทยที่ต้องพูดคุยทำความเข้าใจและให้อภัยกัน และขอให้ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนให้คำนึงถึงความปลอดภัย ระมัดระวังตนเองไม่ประมาท” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า บ้านเมืองเรามี 3 อย่าง รอยยิ้มที่สดใสเป็นมิตรไมตรี อาหารการกินอร่อย และธรรมชาติสวยงาม 3 อย่างนี้ คือ เอกลักษณ์ของความเป็นไทย มีสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เป็นแกนหลักประเทศ นี่คือสิ่งที่เป็นมายาวนาน

“บรรพบุรุษเราเสียสละเลือดเนื้อมาตั้งเท่าไหร่ และประเทศเรามีประวัติศาสตร์ ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ได้ เราจะเปลี่ยนแปลงเหมือนต่างประเทศ ด้วยฝ่ามือเป็นหลังมือไม่ได้ ผมเชื่อว่าคนไทยทั้งประเทศ ก็คงไม่ยอม ขอเตือนผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์ในสื่อในโซเชียลให้ระมัดระวังด้วย มีคนพยายามทำให้เราไม่มีความสุขหรือไม่ วันนี้ผมพยายามใช้มาตรการทางกฎหมายที่ระมัดระวังมากที่สุด ไม่ให้บิดเบือน คนไทยทั้งประเทศต้องรักษาประเทศไทยเอาไว้ให้ได้ เพราะแผ่นดินนี้มีความศักดิ์สิทธิ์ ขอให้จำคำพูดผมไว้ ใครที่ไม่อยู่ในประเทศนี้แล้วคิดทำลายประเทศ ไม่มีวันอยู่เย็นเป็นสุข ผมไม่ได้ไปสร้างความเกลียดชังกับใคร แต่หลายคนชอบสร้างความเกลียดชัง ทั้งที่เกิดแผ่นดินนี้ พ่อแม่ก็เกิดที่นี่ ผมไม่เข้าใจว่าจิตใจทำด้วยอะไร ในเวลานี้ที่เศรษฐกิจแย่ แล้วยังมาทำร้ายประเทศ ทั้งที่พรรคฝ่ายค้านขณะนี้ก็ให้ความร่วมมือรัฐบาลที่จะหาทางเดินหน้าประเทศ” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า บางคนพูดแต่ปัจจุบัน ไม่นึกถึงอดีตที่ผ่านมาว่าเมื่อกว่า 10 ปีที่ผ่านมา เกิดอะไรขึ้น ตนพร้อมให้อภัยทุกคน แต่กฎหมายไม่ให้ บางอย่างรัฐบาลอาจจะแก้ไขช้า แต่ยืนยันว่าดำเนินการอยู่ ขอบคุณทุกคน และอวยพรให้โครงการสำเร็จทุกประการและเกิดความต่อเนื่อง สำคัญคือเศรษฐกิจต้องเดินหน้าไปให้ได้ ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ทุกฝ่ายต้องช่วยกัน

“วันนี้ขอแค่ความเข้าใจ มันยากไปหรือไม่ วันนี้ผมเป็นตัวแทน ครม.มาพูดให้ประชาชนเข้าใจว่ารัฐบาลกำลังเร่งเดินหน้าประเทศในหลาย ๆ ด้าน เพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน 67 ล้านหัวใจ นี่คือประเทศไทยของเรา” นายกรัฐมนตรี กล่าว

จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้ดูการสาธิตการผลิตแผ่นยางธรรมชาติครอบกำแพงคอนกรีต สำหรับการใช้กำแพงคอนกรีตหุ้มด้วยแผ่นยางธรรมชาติ และหลักนำทางยางธรรมชาติ ถือเป็นการปักหมุดโครงการนี้ ในประเทศไทย โดยในวันนี้จะมีนิทรรศการเสมือนจริงในการสาธิตขั้นตอนต่าง ๆ อย่างละเอียด ตั้งแต่การผสมยาง การขึ้นแบบ การอบ จนถึงการทาสีอุปกรณ์ทั้ง 2 ชนิด พร้อมรับชมการติดตั้งใช้งาน บนถนนจริง ด้วยเวลาอันรวดเร็ว โดย 3 ปีแรกของโครงการฯ จะมีการใช้ยางพาราจำนวนไม่น้อยกว่า 1 ล้านตัน เกษตรกรชาวสวนยางพาราจะมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 3 หมื่นล้านบาท และในช่วงปีที่ 3 วัสดุยางพาราจะเสื่อมสภาพ หมดอายุการใช้งาน ในปีต่อไปต้องใช้ยางพารามาผลิตวัสดุยางพาราใหม่ หมุนเวียนไปทุก ๆ ปี ทำให้เกิดเสถียรภาพการใช้ยางพาราอย่างยั่งยืน

จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้ทักทายประชาชนที่มาร่วมงานอย่างเป็นกันเอง ก่อนที่
จะเดินทางกลับด้วยเฮลิคอปเตอร์ที่ค่ายตากสินไปยังสถานีการบิน กองการบินทหารเรือ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สาวซิ่งรถหรูชนท้าย จยย. ทำแม่ลูกดับ 3 ศพ

แม่ขี่ จยย.ไปรับลูก 2 คน กลับจากเรียนพิเศษ ถูกสาวขับรถหรูซิ่งชนท้าย ร่างกระเด็นตกสะพานข้ามรางรถไฟ เสียชีวิตทั้ง 3 คน ส่วนผู้ก่อเหตุอุ้มแมว ทิ้งรถ หลบหนีไป

ปิดล้อมล่ามือปืนคลั่งสังหาร 3 ศพ

ตำรวจเร่งไล่ล่ามือปืนคลั่งก่อเหตุยิง 3 ศพ ในพื้นที่ จ.หนองบัวลำภู ล่าสุดปิดล้อมพื้นที่กว่า 1,000 ไร่ รอยต่อ จ.เลย หลังพบเบาะแสคนร้ายหนีไปซ่อนตัว ขณะที่ชนวนสังหารยังไม่แน่ชัด

ลูกชายมือปืนคลั่งยิง 3 ศพ พาครอบครัวหนีตาย พ่อโพสต์ขู่ฆ่าล้างครัว

ลูกชายมือปืนคลั่งยิงดับ 3 ศพ ต้องพาภรรยาและลูก รวมถึงพ่อตา-แม่ยาย หนีไปอยู่ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง หลังพ่อโพสต์ข้อความขู่จะฆ่าล้างครัว เหตุจากปัญหาในครอบครัว

ชายคลั่งยิง3ศพ

ชายคลั่งยิงดับ 3 ศพ โผล่วัดที่ จ.เลย ขอข้าวกิน ก่อนหนีเข้าป่า

แม่ครัววัดภูคำเป้ ต.ผาสามยอด อ.เอราวัณ จ.เลย เผยพบชายคลั่งยิงดับ 3 ศพ เดินเข้ามาในวัดด้วยสภาพอิดโรย ขอข้าวกิน ลักษณะรีบกินเหมือนวิตกกังวล หลังกินเสร็จรีบเดินเข้าป่าหายไป ก่อนมาทราบภายหลังว่าเป็นผู้ก่อเหตุยิงคนเสียชีวิต

ข่าวแนะนำ

สงขลาประกาศเขตภัยพิบัติแล้วทุกอำเภอ เร่งช่วยน้ำท่วมวิกฤติ

ผู้ว่าฯ สงขลา ลงนามประกาศให้ทั้ง 16 อำเภอ เป็นเขตพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินอุทกภัยและวาตภัย เพื่อเร่งรัดให้ความช่วยเหลือประชาชน บรรเทาความเดือดร้อน โดย อ.จะนะ เทพา นาทวี และสะบ้าย้อย ยังมีระดับน้ำท่วมเพิ่มสูงขึ้น

จ.ยะลา น้ำท่วมสูงสุดเป็นประวัติการณ์รอบหลายสิบปี

จ.ยะลา โดยเฉพาะ อ.เมือง ปีนี้น้ำท่วมสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบหลายสิบปี และวันนี้ (28 พ.ย.) น้ำยังขยายวงกว้างอีกหลายจุด ประชาชนได้รับความเดือดร้อนมากกว่า 120,000 คน ถนนถูกน้ำท่วมแล้ว 158 สาย ใน 8 อำเภอ 58 ตำบล

ศาลไม่ให้ประกันเมีย-ลูก “หมอบุญ” ชี้ความเสียหายสูง หวั่นหลบหนี

ศาลอาญาไม่ให้ประกันภรรยา-ลูก “หมอบุญ” ชี้การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ความเสียหายสูง เกรงหลบหนี ยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน ส่วนปมปลอมลายมือชื่ออยู่ระหว่างตรวจพิสูจน์

มือยิง 3 ศพ ขอโทษ-สำนึกผิด อ้างบันดาลโทสะ

ตำรวจแถลงข่าวจับกุม “สามารถ” ผู้ต้องหายิง 3 ศพ ในพื้นที่ อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู หลังจากติดต่อมอบตัว พร้อมยอมรับผิด ขอโทษญาติผู้เสียชีวิต อ้างบันดาลโทสะจึงก่อเหตุ และไม่มีอาการคลั่งตามที่เป็นข่าว