นายกฯ มั่นใจเงินหมื่นสร้างพายุหมุนทางเศรษฐกิจลูกใหญ่

ทำเนียบ 25 ก.ย.- นายกฯ Kick Off โอนเงินหมื่นกระตุ้นเศรษฐกิจ ถึงมือผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ-คนพิการ วันแรก มั่นใจจะสร้างพายุหมุนทางเศรษฐกิจลูกใหญ่ ย้ำมีอีกหลายนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจในอนาคต ขอวางระบบก่อนต่อเฟส 2-3 เชื่อทำเศรษฐกิจดีขึ้น


น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในงานเปิดตัว (Kick Off) การโอนเงินโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ พร้อมกับบรรดารองนายกฯและรัฐมนตรี

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ผ่านมาประเทศไทยประสบกับปัญหาทางเศรษฐกิจมาอย่างเรื้อรังนานหลายปีแล้ว ปัจจัยที่ทำให้เกิดปัญหาเศรษฐกิจเหล่านี้ไม่ได้มาจากแค่ปัจจัยภายในประเทศเท่านั้น ยังมีปัญหาที่เกิดขึ้นทั่วโลก ซึ่งเศรษฐกิจทั่วโลกฟื้นตัวช้าลงกว่าปกติ และมากไปกว่านั้นยังมีในเรื่องของปัญหาความขัดแย้ง เจอปัญหาอุทกภัยในปีนี้ถือเป็นปัญหาที่รุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ก็ว่าได้ หลายปัจจัยที่กล่าวมาข้างต้นเป็นเหตุผลหลักๆที่ทำให้เศรษฐกิจฝืดเคืองและไม่สามารถที่จะเพิ่มการลงทุนได้ เราจะเห็นได้ชัดเงินจากระบบของเราหายไป ตอนนี้เงินหมุนเวียนถือว่าแทบจะเป็นสิ่งที่หายาก เงินไม่หมุนเศรษฐกิจฟืดเคือง ทำให้การลงทุนน้อยลง อุตสาหกรรมใหม่ๆที่จะเกิดขึ้นในประเทศไทย การลงทุนต่างๆก็น้อยลงอย่างมาก แน่นอนปัญหาที่เกิดขึ้นกลุ่มคนที่รับผลกระทบมากที่สุดนั่นคือกลุ่มเปราะบางที่มีรายได้น้อย รวมไปถึงผู้พิการ ซึ่งในอนาคตประเทศไทยจะต้องเปลี่ยนโครงสร้างทางด้านเศรษฐกิจทั้งระบบ ทำให้เศรษฐกิจต้องมีความพร้อมต่อการลงทุนและความพร้อมต่ออุตสาหกรรมใหม่ๆที่จะเกิดขึ้นในประเทศไทย เพื่อให้คนไทยมีความมั่นคงและหารายได้อย่างยั่งยืน


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นโยบายต่างๆที่รัฐบาลเน้นย้ำในการทำงานที่ผ่านมา ตั้งแต่รัฐบาลที่แล้วของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี 1ปีที่ผ่านมาจนถึงวันนี้เราเน้นย้ำในเรื่องของนโยบายด้านเศรษฐกิจ เพราะทราบว่านั่นคือสิ่งที่จำเป็นจะทำให้ประชาชนสามารถมีชีวิตความเป็นอยู่และความสุขมีสิ่งที่ดีขึ้นมา ทำให้ชีวิตพัฒนาไปข้างหน้าได้มากขึ้น แต่นโยบายแต่ละนโยบายอาจต้องใช้เวลาเป็นเดือนหรือบางนโยบายต้องใช้เวลาเป็นปี เพื่อที่จะทำให้นโยบายนั้นต่อเนื่อง และเข้าถึงพี่น้องประชาชนจริงๆ ซึ่งทั้งหมดนี้คือความท้าทายของรัฐบาลและต้องใช้ศักยภาพทางการเมืองด้วย เพื่อให้นโยบายนั้นต่อเนื่องพัฒนาถึงมือประชาชนจริงๆ แน่นอนทั้งหมดนี้คือความท้าทายของรัฐบาลที่ต้องเปลี่ยนทั้งหมดนี้ให้เป็นโอกาสเพื่อพี่น้องประชาชน ที่ผ่านมารัฐบาลให้ความสำคัญเรื่องเศรษฐกิจ และมีหลายนโยบายที่ได้ออกไปแล้ว เช่น นโยบายพักหนี้เกษตรกร ซึ่งในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติออกไป แล้วและทำเป็นปีที่ 2 ไม่ว่าจะเป็นการลดดอกเบี้ย และที่เห็นชัดเจนคือการส่งเสริมด้านการท่องเที่ยวผ่านนโยบายฟรีวีซ่า จะเห็นได้ชัดตัวเลขการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในปีที่ผ่านมา แต่การท่องเที่ยวกระตุ้นเศรษฐกิจไม่มากพอที่จะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งประเทศได้

“วันนี้ที่ประเทศไทยจะถูกกระตุ้นครั้งใหญ่ โดยเงินสดจะถึงมือคนไทย ระบบเศรษฐกิจจะถูกเติมเงินหมุนเวียนกว่า 145,552 ล้านบาท เป็นการสร้างพายุหมุนทางเศรษฐกิจลูกใหญ่ลูกแรก ที่จะทำให้ประชาชนได้รับประโยชน์อย่างแท้จริง และแน่นอนเงินก้อนนี้จะสามารถต่อลมหายใจให้กับพี่น้องประชาชนรายเล็กที่กำลังเดือดร้อนอยู่ในขณะนี้ นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจรอบนี้จะถึงมือพี่น้องประชาชนกลุ่มเปราะบางจำนวน 14.55 ล้านคน โดยแบ่งเป็นผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจำนวน 12.40 ล้านคน และกลุ่มคนพิการจำนวน 2.15 ล้านคน ทุกคนจะได้รับเงินสด 10,000 บาท ผ่านบัญชีพร้อมเพย์ของผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และผ่านช่องทางการรับดอกเบี้ยเดิมของผู้พิการ ไม่ว่าจะเคยผ่านบัญชีธนาคารหรือเงินสดผ่านองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ก็จะได้รับเงินในวิธีการเดิม ที่สำคัญเงินจำนวนนี้ไม่มีเงื่อนไขใดๆ เมื่อถึงเมื่อประชาชนแล้วจะสามารถใช้จ่ายได้ทันที แน่นอนเราจะมีการทยอยโอนเงินเป็นเวลา 4 วันเริ่มตั้งแต่วันนี้ ก็จะครบทั้ง 14.55 ล้านคน” น.ส.แพทองธาร กล่าว

น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า นโยบายนี้จะช่วยกระจายโอกาสเศรษฐกิจให้กับพี่น้องประชาชน ได้เพิ่มโอกาส สร้างความหวัง และนำคุณภาพชีวิตที่ดีมาให้พี่น้องประชาชน ทำให้พี่น้องประชาชนมีกินมีใช้ มีเกียรติมีศักดิ์ศรี อย่างที่เคยได้กล่าวไว้ เงิน 10,000 บาทจำนวนนี้จะสามารถสร้างโอกาสสร้างชีวิตใหม่ให้กับพี่น้องประชาชนได้ และรัฐบาลมีความเชื่อมั่นในศักยภาพพี่น้องประชาชนว่าจะมีการใช้เงินนี้อย่างมีประโยชน์ หรือบางครอบครัวที่ได้มากกว่า 1 คนก็สามารถนำเงินหมื่นมารวมกันได้เพื่อต่อยอดธุรกิจ เพื่อสร้างธุรกิจ สร้างโอกาสใหม่ๆให้กับตัวเองและครอบครัวได้ รัฐบาลมีความเชื่อมั่นว่าพี่น้องประชาชนจะสามารถใช้เงินนี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และขอเน้นย้ำอีกครั้งว่านโยบายนี้เป็นหนึ่งในนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งจะมีนโยบายในการกระตุ้นเศรษฐกิจมาอีกมากมายแน่นอน


น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า สิ่งที่ทุกคนรอคอยและถามถึงรัฐบาลยังคงเดินหน้าเรื่องโครงการดิจิทัลวอลเล็ตต่อ เพื่อจะทำให้การกระตุ้นเศรษฐกิจที่สำคัญเป็นการวางรากฐานเศรษฐกิจดิจิทัลให้กับคนไทยด้วย เพื่อจะได้เป็น Digital ID เป็นตัวเชื่อมระหว่างรัฐบาลและประชาชน จะทำให้ธุรกรรมต่างๆที่ประชาชนทำเกิดความสะดวกรวดเร็วขึ้น เชื่อมกับรัฐได้ง่ายขึ้น โปร่งใสมากขึ้น ตรวจสอบได้ง่ายมากขึ้น อันนี้เป็นการวางรากฐานตั้งแต่วันนี้ ซึ่งเรากำลังพัฒนาระบบนี้อยู่ อีกหน่อยจะใช้เรื่องของการเยียวยาที่รัฐจะสามารถโอนตรงสู่ประชาชนได้ นี่คือสิ่งที่เราจะวางเศรษฐกิจดิจิทัลเอาไว้เพื่อให้ประชาชนมีความสะดวกสบายมากขึ้น และรวดเร็วในการรับค่าเยียวยาต่างๆจากรัฐบาลได้ง่ายขึ้น และประชาชนสามารถติดตามข่าวสารตรวจสอบข้อมูลได้ทุกช่องทางของกระทรวงการคลัง และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ทั้งหมดนี้จะเป็นเป้าหมายสำคัญเพื่อจัดสร้างสภาพแวดล้อมที่ได้เอื้อกับชีวิตพี่น้องให้มีความหวังมากขึ้น มีรอยยิ้มมากขึ้น และเป็นการต่อยอดให้พี่น้องได้มีโอกาสในชีวิตเพิ่มมากขึ้น และแน่นอนสร้างความเท่าเทียมในด้านโอกาสและหวังเป็นอย่างยิ่งว่า นโยบายนี้และอีกหลายๆนโยบายรัฐบาลที่ฟื้นเศรษฐกิจให้กลับมาดีเหมือนเดิม ทำให้พี่น้องประชาชนกลับมามีความสุขอีกครั้ง

จากนั้นได้มีรายงานสดจากประชาชนในพื้นที่ ที่ได้รับการโอนเงินจากโครงการดังกล่าว รายแรกเป็นประชาชนจากจังหวัดเชียงใหม่ นายกฯ ได้สอบถามว่า ได้รับเงินหรือยังและจะนำไปใช้อะไร รัฐบาลดีใจที่ได้มอบเงินให้ ขอให้มีความสุขมากๆ ขณะที่ประชาชนขอบคุณนายกฯ และจะนำเงินมาใช้ในชีวิตประจำวัน

ส่วนอีกรายเป็นชายผู้พิการจากจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งนายกฯสอบถามว่าได้รับเงินตอนกี่โมง ประชาชนตอบว่า เวลา 03.15 น. นายกฯ จึงกล่าวกับรัฐมนตรีที่ร่วมงานว่า “ตีสามสิบห้า เลขเด็ดหรือเปล่า” ก่อนจะถามต่อว่าดีใจไหม รัฐบาลก็ดีใจ แล้วจะเอาเงินไปใช้ทำอะไรบ้าง เล่าให้ฟังนิดนึง ประชาชนตอบกลับว่า จะเอาไปใช้ซื้อของจำเป็นของคนพิการ พวกแพมเพิส ข้าวสารอาหารแห้ง นายกฯ จึงบอกว่าดีนะ 10,000 บาทซื้อได้เยอะเลย ขอให้มีความสุข สุขภาพแข็งแรง จากนั้นชายผู้พิการได้กล่าวขอบคุณรัฐบาลและนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่ได้ช่วยเหลือ

และรายสุดท้ายเป็นประชาชนจังหวัดอุตรดิตถ์ ซึ่งสัญญาณการวิดีโอคอลไม่ค่อยได้ยินเสียง นายกฯ จึงยกนิ้วโป้งขึ้น พร้อมกล่าวว่า ถ้าดีใจให้ยกนิ้วโป้ง ชาวบ้านจึงยกนิ้วโป้งตอบกลับ ก่อนที่นายกฯจะส่งมือสัญลักษณ์ไอเลิฟยู พร้อมกล่าวว่า ขอให้โชคดี

จากนั้นนายกฯ เดินจากตึกสันติไมตรี ออกทางเชื่อม เพื่อขึ้นตึกไทยคู่ฟ้า โดยกล่าวว่า ส่วนเฟส 2 และ 3 ที่จะตามมานั้นขอวางระบบก่อน ทั้งนี้ ดีใจ กับประชาชนด้วย และดีใจกับรัฐบาลที่ทำให้ ทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น .314.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ออกหมายจับ 5 คนแก๊ง “เสือปุ่น” ปล้นเงินสด 3.4 ล้าน

กทม. 1 ก.ค.-ออกหมายจับ 5 คนแก๊ง “เสือปุ่น” ปล้นเงินสด 3.4 ล้านตุ๋นแลกคริปโตฯ ชุดสืบปูพรมล่า จากกรณีกลุ่มคนร้าย 7 คน ก่อเหตุปล้นทรัพย์ เงินสด 3.4 ล้านบาท โดยใช้อาวุธมีดจี้ ข่มขู่ผู้เสียหาย 3 คน ที่มาซื้อเงินคริปโตเคอร์เรนซี่ สกุลเวิน USDT จำนวน 100,000 ดอลล่า ภายในลานจอดรถศูนย์การค้าชื่อดังย่านลาดพร้าว แขวงและเขตจตุจักร กทม. เมื่อช่วงเวลา 19.30 น. ของวานนี้ (30 มิ.ย.) ภายหลัง พล.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. และ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. นำชุดสืบสวนเร่งรัดติดตามตัว จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย คือ นายเฌอพัชญ์ หรือหนาว อายุ 25 ปี […]

“ทักษิณ” พร้อมลูกสาว เดินทางออกจากศาลอาญา หลังสืบพยานนัดแรก

1 ก.ค. – บรรยากาศที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ภายหลังนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าสืบพยานโจทก์นัดแรกในคดีหมายเลขดำ อ.1860/2567 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายทักษิณ เป็นจำเลยในความผิด ฐานดูหมิ่นสถาบันฯ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ เมื่อเวลา 12.10 น. นายทักษิณ พร้อมด้วย น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ หรือเอม ได้เดินทางกลับโดยใช้ประตูด้านข้างของศาลอาญา ก่อนขึ้นรถออกไป โดยเลี้ยวออกไปทางประตูของศาลแพ่ง และเลี้ยวออกถนนพหลโยธินโดยทันที โดยมีกลุ่มมวลชนสวมเสื้อสีแดงยืนคอยให้กำลังใจอยู่บริเวณริมฟุตบาธบริเวณประตูทางออกอยู่จำนวนหนึ่ง ทั้งนี้มีนางเพญ พินิจอักษร ชาวจังหวัดศรีสะเกษ ถือรูปนายทักษิณ โดยมีการเขียนข้อความในภาพว่าขอส่งกำลังใจให้นายกฯในดวงใจ พร้อมถือพวงมาลัยดอกมะลิพวงใหญ่ และมีกลุ่มมวลชนสวมเสื้อสีแดงกลุ่ม 50 เขตแดน กทม. มาให้กำลังใจด้วยเช่นเดียวกัน จากนั้น นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัว นายทักษิณ ได้เดินมาทำความเข้าใจกับสื่อมวลชนหลังจากที่ศาลอาญาได้มีการพักการสืบพยาน ว่า ขอให้สื่อมวลชนใช้วิจารณญาณว่าจะอยู่หรือไม่อยู่ เพราะศาลใช้การพิจารณาลับ ทั้งนี้ไม่สามารถพูดอะไรในกระบวนการได้ จะพูดได้แค่มีพยานกี่ปาก […]

ธปท.เผย “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 มีลูกหนี้เข้าเกณฑ์ 1.8 ล้านราย

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – ธปท.เผย “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 เพิ่ม “จ่าย ตัด ต้น” พร้อมขยายขอบเขต 2 มาตรการเดิม “จ่ายตรง คงทรัพย์” และ “จ่าย ปิด จบ” มีลูกหนี้เข้าเกณฑ์ 1.8 ล้านราย ยอดนี้ประมาณ 3.1 แสนล้านบาท นางสาวสุวรรณี เจษฎาศักดิ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผย ว่า ภายใต้เศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอนสูง ยังมีลูกหนี้กลุ่มเปราะบางจำนวนมากที่มีปัญหาในการชำระหนี้ และพบว่าลูกหนี้ยังให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการอย่างต่อเนื่อง แต่บางส่วนไม่สามารถเข้าร่วมได้เนื่องจากคุณสมบัติไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด กระทรวงการคลัง สศช. ธปท. ธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงินเฉพาะกิจ รวมถึงผู้ประกอบธุรกิจ non-bank ที่เป็นบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคารพาณิชย์ เห็นควรขยายระยะเวลาลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคุณสู้เราช่วยเฟส 1 (เดิมสิ้นสุด 30 มิ.ย.68) และให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติม ภายใต้โครงการ […]

“บิ๊กเต่า” เร่งสอบบัญชีวัดดัง พบเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลายครั้ง

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – “บิ๊กเต่า” เร่งสอบ 5 บัญชี เงินวัดตรีฯ-ทิดอาชว์ พบมีเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลักหมื่นถึงหลักแสนบาทหลายครั้ง ส่วนคลิปลับแชทหลุดเป็นหน้าที่สำนักพุทธฯ ตรวจสอบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เรียกประชุมตำรวจ บก.ปปป. และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เพื่อติดตามความคืบหน้าการตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายของวัดตรีทศเทพวรวิหาร หลังพบพิรุธพระเทพวชิรปาโมกข์ (อาชว์ อาชฺชวปเสฏฺโฐ) หรือ “เจ้าคุณอาชว์” ได้ลาสิกขาหรือสึก ที่ จ.หนองคาย อย่างกะทันหัน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า จากการเข้าตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายที่วัดตรีทศเทพเมื่อวานนี้ ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ ทางวัดให้เอกสารทางบัญชีมาบางส่วน พระหลายรูปกังวลหวาดกลัวจึงไม่ค่อยให้ความร่วมมือเท่าที่ควร แต่ตำรวจได้ประสานรักษาการเจ้าอาวาสวัด เพื่อให้แต่งตั้งไวยาวัจกรใหม่ ซึ่งเชื่อว่าหลังจากนี้จะได้รับความร่วมมือมากขึ้น โดยตำรวจได้ประสานขอรายการเดินบัญชีธนาคารของวัด 5 บัญชี เป็นบัญชีที่เกี่ยวกับเงินกฐิน ค่าเช่าที่จอดรถ ฌาปนกิจศพ ค่าน้ำค่าไฟ และภาพวาดโบราณ และบัญชีที่ต้องสงสัยอีกจำนวนหนึ่ง มาตรวจสอบทั้งหมด รวมถึงบัญชีส่วนตัวของทิดอาชว์ เบื้องต้นตำรวจมีข้อมูลน่าเชื่อได้ว่า ตำแหน่งเจ้าอาวาสไม่ได้มีเงินเยอะ แต่ตำรวจเห็นหลักฐานการโอนเงินบางส่วนไปยังสีกาหญิงหลายรายการ ยอดเงินตั้งแต่หลักหมื่นถึงหลักแสนบาท ซึ่งอาจเป็นเงินของวัด หรืออาจใช้ให้คนอื่นไปโอน […]

ข่าวแนะนำ

“โชต้า” แข้งลิเวอร์พูล ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต

สเปน 3 ก.ค. – “ดิโอโก้ โชต้า” กองหน้าสโมสรลิเวอร์พูล และทีมชาติโปรตุเกส เสียชีวิตแล้ว หลังประสบอุบัติเหตุระหว่างการพักผ่อนที่ประเทศสเปนกับน้องชาย “มาร์ก้า” สื่อชื่อดังของสเปน รายงานข่าวว่า ดิโอโก้ โชต้า กองหน้าสโมสรลิเวอร์พูล วัย 28 ปี เสียชีวิตแล้ว หลังประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ที่จังหวัดซาโมรา ทางตะวันตกของประเทศสเปน ระหว่างการเดินทางไปพักผ่อนกับ อังเดร น้องชาย เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นบริเวณกิโลเมตรที่ 65 ของทางหลวงสาย เอ-52 ใกล้เขตซานาเบรีย โดยโชต้าอยู่ในรถคันดังกล่าวพร้อมกับอังเดร น้องชายวัย 26 ปี ซึ่งเป็นนักฟุตบอลอาชีพเช่นกัน และเล่นให้กับสโมสรเปนาฟีแอล ในลีกโปรตุเกส รถยนต์ที่ทั้งสองโดยสาร ประสบเหตุหลุดออกจากถนนและเกิดเพลิงลุกไหม้อย่างรุนแรง มีพยานในที่เกิดเหตุโทรแจ้งหน่วยฉุกเฉินหมายเลข 112 ระบุว่า รถถูกไฟคลอกทั้งคัน ดิเอโก้ โชต้า ย้ายจากวูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส มาร่วมทัพลิเวอร์พูลในปี 2020 ด้วยค่าตัวราว 44.7 ล้านยูโร ราว 1,700 […]

สั่งปิดประชุมสภาฯ หลัง สส. เสนอนับองค์ประชุม

รัฐสภา 3 ก.ค. – การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันแรก ประเดิมด้วยกระทู้สดเรื่องปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา และขณะนี้ประธานสั่งปิดประชุมแล้ว หลัง สส. เสนอนับองค์ประชุม การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันนี้ประเดิมด้วยการพิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา เรื่องปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ของนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชนชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ถามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยมี พล.อ.ณัฐพล นาคพานิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รักษาการ รมว.กลาโหม เป็นผู้ชี้แจงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังมีกรณีคลิปเสียงของนายกรัฐมนตรีคุยกับสมเด็จฮุนเซน อดีตนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา โดยระบุว่าขณะนี้มีสัญญาณดี กัมพูชายอมคุยด้วยแล้ว ทางฝ่ายระดับสูงของกัมพูชาเริ่มมีการคุยว่า เชิญไปประชุมทวิภาคี จีบีซี หารือ 2 ประเด็น ถอนกำลังพล-ลดเข้มงวดมาตรการชายแดน แต่ด้วยสถานการณ์ทางด้านโซเชียลฯ ทั้งฝ่ายไทยและกัมพูชาทำให้การพูดคุยในเรื่องเงื่อนไขเราก็ยังไม่เป็นที่ตกลงกัน ขอเรียนว่า มีสัญญาณบวกและวัตถุประสงค์ที่รัฐบาลยังคงมาตรการในการควบคุมด่านอยู่ มีไว้เพื่อสร้างแรงกดดันที่ต้องใช้อย่างเหมาะสม ยืนยันกองทัพทำตาม นโยบายของรัฐบาล ทั้งนี้หลังการถามกระทู้ ที่ประชุมเตรียมพิจารณารายงานของกองทุนสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ นายอัคร ทองใจสด สส.เพชรบูรณ์ พรรคพลังประชารัฐ ได้เสนอที่ประชุมให้นับองค์ประชุม เพื่อตรวจสอบจำนวน สส.ภายในห้องประชุม ซึ่งขณะนี้มี […]

ครม. มอบ “ภูมิธรรม” รักษาการนายกฯ เบอร์หนึ่ง

ทำเนียบ 3 ก.ค.-ครม. มอบ “ภูมิธรรม” รักษาการนายกฯ เบอร์หนึ่ง มีอำนาจหน้าที่เช่นเดียวกับนายกฯ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เห็นชอบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ เรื่องการมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในกรณีที่นายกรัฐมนตรีไม่อาจปฏิบัติราชการได้ โดยมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ตามลำดับดังนี้1.นายภูมิธรรม เวชยชัย2.นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ3.นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค4.นายพิชัย ชุณหวชิร5.นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ทั้งนี้ ในการรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ผู้รักษาราชการแทนของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี จะมีอำนาจหน้าที่เช่นเดียวกับนายกรัฐมนตรี และมีอำนาจหน้าที่ในการเป็นประธานกรรมการในคณะกรรมการ หรือองค์กรใด ส่วนในกรณีที่ผู้รักษาราชการแทนตาม 2-5 จะสั่งการใดอันเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลและการอนุมัติเงินงบฯ อันอยู่ในอำนาจของนายกรัฐมนตรี ต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี ทั้งนี้ กองอาลักษณ์ฯ เห็นว่า การเสนอ ครม. พิจารณาการมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีเป็นผู้รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีดังกล่าว เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของกฎหมายและเป็นอำนาจของ ครม. ตามความในมาตรา 41 แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ดังนั้น จึงเห็นควรเสนอ ครม. ต่อไป […]

เจ้าอาวาสวัดม่วง ยันบริสุทธิ์ใจ ยินดีให้ตรวจสอบ

กรุงเทพฯ 3 ก.ค. – เจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ ลงพื้นที่วัดม่วง ตรวจสอบกรณีเงินสด 10 ล้าน และทองคำ 300 บาท หายไป เจ้าอาวาสวัด เผยบริสุทธิ์ใจ ยอมเสียเงินดีกว่าเสียชื่อเสียง ยืนยันแยกบัญชีส่วนตัวกับบัญชีวัด โดยบัญชีวัดจะมีคณะกรรมการและไวยาวัจกรดูแล ส่วนเงินที่หายไป เป็นเงินส่วนตัวที่จะนำไปใช้ทำบุญวันเกิด ช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จากสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ เดินเข้ามาภายในวัดม่วง ซอยเพชรเกษม 63 ถนนเพชรเกษม แขวงหลักสอง เขตบางแค กรุงเทพฯ โดยปฏิเสธให้ข้อมูล เบื้องต้นตอบเพียงว่าเดินทางมาตรวจสอบข้อมูลการเงินของวัด หลังปรากฏข่าวออกไป เจ้าอาวาสวัดม่วง บอกว่าเงินที่หายไปเป็นปัจจัยที่เบิกมา เพื่อเตรียมนำมาทำบุญวันเกิด โดยจะนำเงินส่วนนี้ไปแจกให้กับเด็กนักเรียน และนำไปนิมนต์พระมาทำบุญ รวมถึงจะนำบางส่วนไปใช้ในการก่อสร้างเจดีย์ โดยวันที่ไปเบิกเงินที่ธนาคารไปกับคนสนิท 2 คน และเบิกเงินจำนวน 10 ล้านบาท หลังจากนั้นเดินทางกลับ และนำปัจจัยใส่กระเป๋าวางไว้ใต้โต๊ะในกุฏิ เนื่องจากภายในเซฟมีการเก็บเงินของวัดไว้ จึงไม่ต้องการนำไปรวม ตนเองเองรู้ที่เก็บเงินเพียงคนเดียว ยืนยันมีการแยกบัญชีเงินส่วนตัวและเงินของวัด ในส่วนของวัดจะมีกรรมการและไวยาวัจกรดูแล แต่เงินของตัวเองซึ่งเก็บมากว่า 40 ปี มีอยู่ประมาณ […]