กรุงเทพฯ 13 ส.ค. – ผู้บริหารระบบขนส่งตบเท้ายินดี ศบค.ผ่อนคลายมาตรการเพิ่มความจุระบบขนส่งเต็มความจุมาตรฐาน บขส.ลุยเพิ่มความถี่-เปิดเส้นทางที่เคยหยุด ขณะที่รถไฟฯ เตรียมขยับขายตั๋วยืนรถไฟชานเมืองทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค.อนุญาตให้ผ่อนคลายระบบขนส่งสาธารณะทั้งทางบกและทางน้ำสามารถมีจำนวนผู้โดยสารได้เต็มตามความจุมาตรฐานของพาหนะ เริ่มตั้งแต่วันนี้ (13 ส.ค. )
นายมาโนช สายชูโต รักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด หรือ บขส. เปิดเผยว่า ภายหลัง ศบค.ผ่อนคลายมาตรการเรื่องความจุบนรถโดยสารให้สามารถรับผู้โดยสารได้ตามจำนวนที่นั่งที่มี อย่างไรก็ตาม บขส.ยังคงความเข้มข้นในเรื่องของมาตรการตรวจวัดอุณหภูมิผู้โดยสารที่เข้าพื้นที่ สถานีบนตัวรถ และจุดพักรถต่าง ๆ มาตรการที่ให้ผู้โดยสารทุกคนยังต้องสวมหน้ากากอนามัย รวมถึงจุดตั้งเจลอนามัยต่าง ๆ ภายในพื้นที่สถานี
ทั้งนี้ ยอมรับว่ามาตรการผ่อนคลายดังกล่าวจะช่วยให้ บขส.ประกอบการเดินรถได้คุ้มทุนมากขึ้น เนื่องจากปกติการเดินรถแต่ละเที่ยวจะต้องมีอัตราบรรทุกผู้โดยสารมากกว่า 70 % ขึ้นไป ที่ผ่านมามีอัตราบรรทุก 67-68 % เท่านั้น ขณะที่ปัจจุบันผู้โดยสารยังใช้บริการน้อยมาก โดยในส่วนของ บขส.ก่อนโควิด-19 เคยมีผู้โดยสารเฉลี่ยวันละ 80,000 คน ปัจจุบันเหลือเพียง 40,000-50,000 คนเท่านั้น โดยส่วนหนึ่งมาจากการที่ผู้โดยสารเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ส่วนบุคคลเพิ่มขึ้น รวมถึงปัจจัยเรื่องภาวะเศรษฐกิจทำให้ประชาชนเดินทางน้อยลง
นอกจากนี้ เห็นว่ามาตรการผ่อนคลายความจุบนรถโดยสารจะมีส่วนช่วยให้ บขส.และผู้ประกอบการรถร่วมบริการสามารถเพิ่มความถี่ของเที่ยวรถในเส้นทางที่มีความต้องการของผู้โดยสาร เช่น เส้นทางกรุงเทพฯ-แม่สอด จาก 8 เที่ยวก็จะสามารถเพิ่มเป็น 16 เที่ยวต่อวัน รวมถึงการกลับมาเปิดเส้นทางเดินรถที่เคยหยุดไป เช่น เส้นทางกรุงเทพฯ-ลี้ และกรุงเทพ-จอมทอง ได้ด้วย
นายวิทยา ยาม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า กล่าวว่า กรมฯ อยู่ระหว่างการรอคำสั่งอย่างเป็นทางการจาก ศบค. แจ้งมายังกระทรวงคมนาคมและกระทรวงคมนาคมมีคำสั่งมายังหน่วยงานในสังกัดที่กำกับดูแลระบบขนส่งต่าง ๆ แล้ว จะมีการแจ้งข้อมูลถึงผู้ประกอบการ ทั้งเรือด่วนเจ้าพระยาและเดินเรือคลองแสนแสบ และแม้ว่าหลังจากนี้มาตรการการเว้นระยะห่างบนเรือจะมีการผ่อนปรนแล้ว แต่ยืนยันว่ามาตรการอื่น ๆ เช่นการตรวจวัดอุณหภูมิก่อนขึ้นเรือโดยสาร ผู้โดยสารต้องใส่หน้ากากอนามัย รวมถึงการตั้งจุดบริการเจลอนามัย จะยังต้องดำเนินการอย่างเข้มข้น
อย่างไรก็ตาม อธิบดีกรมเจ้าท่ายืนยันว่ามาตรการผ่อนคลายให้ระบบขนส่งบรรทุกผู้โดยสารได้เต็มความจุนั้น จะส่งผลดีทั้งในแง่ของผู้โดยสารไม่ต้องรอเรือนาน และผู้ประกอบการก็สามารถกลับมาทำรายได้ตามปกติ โดยระหว่างช่วงสถานการณ์โควิค-19 ที่ผ่านมา และระบบขนส่งมีการใช้มาตรการเว้นระยะห่างหรือ social distancing ทำให้ผู้โดยสารแต่ละลำจุผู้โดยสารได้เพียง 20% ของความจุปกติเท่านั้น
ด้านนายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ รฟท. ระบุว่ามาตรการผ่อนคลายความจุของระบบขนส่ง ของ ศบค.จะส่งผลดีต่อการให้บริการผู้โดยสาร โดยเฉพาะขบวนรถไฟชานเมืองที่ผู้โดยสารมีความต้องการเดินทางจำนวนมากในช่วงเช้าและเย็น หลังจากนี้ รฟท.จะขยับจำหน่ายตั๋วยืนให้แก่ผู้โดยสารกลุ่มนี้ เพื่อให้ผู้ใช้บริการมีรถใช้บริการอย่างเพียงพอ
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของมาตรการอื่นในการคัดกรองอุณหภูมิผู้โดยสารเข้าสถานี การใส่หน้ากากอนามัย จุดบริการเจลล้างมือ ทางรถไฟฯ จะยังดำเนินมาตรการเหล่านี้อย่างเข้มข้น
ขณะที่นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ของบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) บริษัทผู้ให้บริการรถไฟฟ้า BTS ระบุว่า BTS จะมีการหารือร่วมกับกรมการขนส่งทางราง เพื่อกำหนดการผ่อนคลายมาตรการต่อไป
นายสุระชัย เอี่ยมวชิรสกุล ผู้อำนวยการ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) กล่าวยอมรับว่าการขยับผ่อนคลายของ ศบค.ให้รถโดยสารสามารถบรรทุกผู้โดยสารได้ตามความจุมาตรฐานนี้จะช่วยทำให้การเดินรถของ ขสมก.ในเรื่องของความถี่จำนวนเที่ยวไม่ตึงตัวมากนัก จากเดิมจะต้องหมุนเวียนรถเกือบ 3,000 คัน ด้วยความถี่สูง เนื่องจากในช่วงสถานการณ์โควิด-19 รถแต่ละคันต้องเว้นระยะห่าง ทำให้ต้องเพิ่มความถี่เพื่อให้มีรถหมุนเวียนรองรับความต้องการใช้บริการของประชาชนอย่างเพียงพอ ซึ่งการผ่อนคลายของ ศบค.ครั้งนี้จะช่วยลดความถี่ของเที่ยวรถลงได้ประมาณ 5 %
ทั้งนี้ ปัจจุบัน ขสมก.มีผู้ใช้บริการต่อวันในช่วงวันธรรมดา 850,000 คน จากเดิมก่อนโควิดจะมีผู้โดยสารต่อวัน 1 ล้านคน ขณะที่ช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ จากเดิมมีผู้โดยสารเฉลี่ยวันละ 800,000คน แต่ปัจจุบันเหลือเพียงวันละ 400,000 คนเท่านั้น ซึ่งส่วนนี้น่าจะมาหลายปัจจัย รวมถึงภาวะเศรษฐกิจ ทำให้คนเดินทางในช่วงวันหยุดลดลง
อย่างไรก็ตาม แม้ปัจจุบัน ศบค.จะผ่อนคลายมาตรการความจุของผู้โดยสาร แต่ ขสมก.ยังคงปฏิบัติมาตรการอื่น ๆ เช่น การตรวจวัดอุณหภูมิที่ท่ารถ ,การให้ผู้โดยสารทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัย อย่างเข้มงวด.-สำนักข่าวไทย