ภูเก็ต 28 พ.ย.- ศรชล.เขต 3 บูรณาการเข้มมาตรการ IUU ยึดเรือประมงจอดเทียบท่าเรือในภูเก็ต 7 ลำ อ้างสัญชาติโบลิเวีย พร้อมแจ้งความดำเนินคดีแล้วฐานใช้เอกสารเท็จจดแจ้งการรายงานเข้า-ออก
พลเรือโท สุรพล คุปตะพันธ์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล เขต 3 (ผอ.ศรชล.เขต 3) แถลงถึงมาตรการตรวจเข้มน่านน้ำร่วมกับสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาภูเก็ต สำนักงานแรงงานจังหวัด ประมงจังหวัด ตำรวจน้ำ และอีกหลายฝ่าย สามารถควบคุมเรือประมงสัญชาติโบลีเวียได้ 7 ลำ เป็นเรือประมงเบ็ดทูน่าจอดท่าเทียบเรือในพื้นที่ ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต อ้างว่ามาจอดรอซ่อม ส่วนกัปตันเรือลูกเรือต่างชาตินั้นมีเอกสารประจำตัวอย่างถูกต้อง ยกเว้นเรือพบผิดสังเกตเกี่ยวกับทะเบียนเรือ เนื่องจากเรือแต่ละลำมีเอกสารไม่เหมือนกัน ดังนั้น จึงสั่งการให้เจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต ตรวจสอบกับทางการของประเทศโบลิเวีย ต่อมาวันที่ 22 พ.ย.59 ทางโบลิเวียได้แจ้งให้ทราบว่า เรือประมงดังกล่าวไม่ได้จดทะเบียนสัญชาติโบลิเวีย และไม่มีใบอนุญาตทำการประมงของโบลิเวีย ดังนั้น สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาภูเก็ต จึงรวบรวมหลักฐานและแจ้งความที่ สภ.วิชิต ดำเนินคดีกับตัวแทนเจ้าของเรือ จำนวน 3 ราย ในข้อหานำเอกสารปลอมมาจดแจ้งการรายงานเข้า-ออก เป็นความผิดฐานปลอมและเอกสารปลอม โดยแจ้งความอันเป็นเท็จ สำหรับเรือทั้ง 7 ลำ จะดำเนินการออกจากท่าได้ เมื่อเจ้าของเรือมีการนำเอกสารระบุสัญชาติและประเทศที่จดทะเบียน มายืนยัน ปัจจุบันเรือดังกล่าวเปรียบเสมือนเรือไร้สัญชาติ
พลเรือโทสุรพล กล่าวว่า การดำเนินการในครั้งนี้เป็นไปตามแนวทางการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย IUU ตามมาตรการ ณ ท่าเทียบเรือที่จะต้องมีการตรวจสอบเรือประมงต่างชาติที่ขอเข้าเทียบท่าเทียบเรือของไทยเพื่อให้ง่ายต่อการควบคุม โดยเรือต่างชาติต้องขออนุญาตรัฐเจ้าของท่าก่อนที่จะนำเรือเข้าเทียบท่าและต้องแจ้งข้อมูลต่างๆ รวมถึงข้อมูลทะเบียนเรือ อุปกรณ์จับสัตว์น้ำ และตู้สินค้าแก่เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง.-สำนักข่าวไทย