กรมอนามัย 21 ก.ค.-กรมอนามัย เผยผลสำรวจการเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ใน 3 กิจการ พบภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดี ย้ำ ผับ บาร์ คาราโอเกะ ลานเบียร์ โรงเบียร์ โรงเหล้า ลดความแออัด และเว้นระยะห่าง อาบอบนวดเน้นการเว้นระยะห่าง ส่วนร้านเกม อินเทอร์เน็ต ควรเข้มการทำความสะอาดพื้นผิวสัมผัสร่วม เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อโรค
นพ.บัญชา ค้าของ รองอธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า จากการประเมินเพื่อการเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 สำหรับกิจกรรม/กิจการที่ได้รับการผ่อนคลาย ระยะที่ 5 สำรวจระหว่างวันที่ 13-16 กรกฎาคม 2563 ใน 3 กิจการ โดยสำรวจการปฏิบัติตามมาตรการหลักของศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ใน 5 ด้าน คือ การทำความสะอาดจุดสัมผัสบ่อย การสวมหน้ากาก มีจุดบริการล้างมือ/เจลแอลกอฮอล์ การเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล และการลดความแออัด พบว่าภาพรวมได้รับความร่วมมือและมีการปฏิบัติตามมาตรการหลักในระดับดี โดยสถานบริการประเภทผับ บาร์ คาราโอเกะ ลานเบียร์ โรงเบียร์ โรงเหล้า
จากการสำรวจ 93 แห่งทั่วประเทศ พบว่าสถานบริการทุกแห่ง มีจุดบริการล้างมือ แต่กำหนดจำนวนผู้เข้าใช้บริการเพื่อลดความแออัดได้เพียง ร้อยละ 80 และเว้นระยะห่างระหว่างบุคคลได้ร้อยละ 83 ส่วนการสวมหน้ากากและการทำความสะอาดอยู่ที่ร้อยละ 92 และ 96 ตามลำดับ
อย่างไรก็ตามต้องกำชับให้ผู้ให้บริการควบคุมจุดบริเวณทางเข้าและจำนวนลูกค้าไม่ให้แออัดและเว้นระยะห่างระหว่างโต๊ะอย่างน้อย 2 เมตร รวมทั้งผู้ให้บริการและลูกค้าต้องสวมหน้ากากผ้า/หน้ากากอนามัยตลอดเวลาทำความสะอาดบริเวณที่ให้บริการอย่างสม่ำเสมอและเน้นย้ำให้ผู้ใช้บริการลงทะเบียนเข้า-ออกผ่านแพลตฟอร์ม “ไทยชนะ” ส่วนอาบอบนวด 14 แห่ง พบว่าสามารถปฏิบัติตามมาตรการหลักของ ศบค. ได้ทุกข้อ ยกเว้นการเว้นระยะห่าง ทำได้ร้อยละ 86 จึงควรเน้นย้ำให้กำหนดจุด มีการเว้นระยะห่างในการนั่ง ยืน อย่างน้อย 1 เมตร สำหรับร้านเกม ร้านอินเทอร์เน็ต 69 แห่ง พบว่า มีการทำความสะอาดพื้นผิวที่สัมผัสร่วมเพียงร้อยละ 86 ลดความแออัด ร้อยละ 91 การสวมหน้ากากทุกคน ร้อยละ 93 จึงต้องเน้นย้ำการทำความสะอาดพื้นผิวที่สัมผัสบ่อย รวมถึงกำชับให้พนักงานและลูกค้าทุกคนสวมหน้ากากตลอดเวลาและควบคุมจำนวนลูกค้าไม่ให้แออัด
“การผ่อนปรนกิจการในระยะที่ 5 ซึ่งเป็นกิจการที่มีความเสี่ยงสูง จึงขอความร่วมมือผู้ประกอบการและผู้ใช้บริการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างจริงจังและต่อเนื่องเพื่อประโยชน์ทั้งต่อผู้ประกอบการและผู้ใช้ บริการ อีกทั้งยังเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่สถานบริการด้วย”รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าว .-สำนักข่าวไทย