ปตท.สผ.มั่นใจจะได้แหล่งเพิ่มอีกในปีนี้

กรุงเทพฯ 20 ก.ค. – ปตท.สผ.เผยโครงการโมซัมบิกก้าวหน้า 20% และลงนามสัญญาเงินกู้โครงการโมซัมบิก แอเรีย 1 ตามสัดส่วน 8.5% วงเงิน 14,900 ล้านเหรียญสหรัฐ เดินหน้าผลิต LNG 13.1 ล้านตันต่อปี มั่นใจจะได้แหล่งเพิ่มในปีนี้ พร้อมรอรัฐประกาศประมูลชิงปิโตรเลียมรอบ 23 ในปีนี้ 


นายพงศธร ทวีสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP เปิดเผยว่า แม้ผลกระทบของโควิด-19 จะทำให้หลายโครงการที่บริษัทเตรียมซื้อกิจการและลงทุนใหม่มีความล่าช้า แต่บริษัทก็มั่นใจจะมีโครงการใหม่เข้ามาในพอร์ตลงทุนเพิ่มเติมในปีนี้  โดยเฉพาะโครงการที่ยื่นประมูลแปลงสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) เมื่อปลายปี 2562   ซึ่ง ปตท.สผ.ได้ร่วมกับบริษัท ENI และพันธมิตรต่างชาติอีกรายยื่นประมูลขอสิทธิ์ในการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมรอบใหม่จำนวน 2 แปลง  โดยยูเออีได้เปิดประมูลเพื่อมุ่งหวังที่จะเพิ่มปริมาณการผลิตปิโตรเลียมจากปัจจุบัน 3.8 ล้านบาร์เรล เป็น 5 ล้านบาร์เรลต่อวันภายในปี 2573

นอกจากนี้ บริษัทได้เตรียมพร้อมประมูลแหล่งปิโตรเลียมรอบใหม่รอบที่ 23 ของประเทศไทย หลังจากกระทรวงพลังงานเลื่อนแผนการประกาศให้แข่งขัน จากเดิมจะประกาศเดือนเมษายน 2563 เนื่องจากการล็อกดาวน์ของการระบาดโรคโควิด-19 ซึ่งคาดว่ากระทรวงฯ จะประกาศภายในปีนี้ตามแผนงานที่เปิดแข่งขัน 3 แปลงในอ่าวไทย โดยคาดว่าจากเทคโนโลยีที่ทันสมัย แม้ยังมีการระบาดของโควิด-19 ในต่างประเทศ ก็เชื่อว่ากระทรวงฯ จะมีการดำเนินการให้เปิดประมูลได้


นายพงศธร ระบุด้วยว่า บริษัท พีทีทีอีพี โมซัมบิก แอเรีย 1 จํากัด บริษัทย่อยของ ปตท.สผ.และมีสัดส่วนการลงทุน  8.5 % ในโครงการโมซัมบิก แอเรีย 1 ร่วมกับกลุ่มผู้ร่วมทุน ได้ลงนามสัญญาเงินกู้ในรูปแบบ Project Finance วงเงิน 14,900  ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อรองรับค่าใช้จ่ายในการพัฒนาโครงการฯ สําหรับการผลิตก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) 2 สายการผลิตแรก หลังจากที่ได้มีการประกาศการตัดสินใจลงทุนขั้นสุดท้ายไปเมื่อเดือนมิถุนายน 2562 โดยโครงการนี้นับเป็นโรงงานผลิตก๊าซแอลเอ็นจีบนบกแห่งแรกของโมซัมบิก มีกําลังการผลิตจาก 2 สายการผลิตแรก รวม 13.1 ล้านตันต่อปี ผลิตจากแหล่งก๊าซธรรมชาติ Golfinho-Atum นอกชายฝั่ง Area 1 สาธารณรัฐโมซัมบิก ซึ่งปัจจุบันโครงการฯ มีสัญญาซื้อขายแอลเอ็นจี ระยะยาวรองรับประมาณ 11.1 ล้านตันต่อปี คิดเป็นมากกว่า  80% ของกําลังการผลิตทั้งหมด โดยมีผู้ซื้อหลักจากทั้งทวีปเอเชียและยุโรป และรายจ่ายลงทุนซึ่งรวมทั้งส่วนบนบกและนอกชายฝั่งจํานวนประมาณ 20,000 ล้านเหรียญ โดยมีแหล่งเงินทุนหลักจากเงินทุนของผู้ร่วมทุน และเงินกู้ Project Finance ดังกล่าวข้างต้น 

ทั้งนี้ การลงนามสัญญาเงินกู้ในรูปแบบ Project Finance ของโครงการโมซัมบิก แอเรีย 1 ครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของโครงการฯ ที่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินกู้ในตลาดโลก โดยได้รับการสนับสนุนจากองค์การเครดิตการส่งออก (Export Credit Agency) หลายประเทศ สถาบันการเงินระหว่างประเทศ (Multilateral Development Institution) รวมถึงธนาคารพาณิชย์ชั้นนํา

อย่างไรก็ตาม โครงการโมซัมบิก แอเรีย 1 ประกอบด้วยแหล่งพรอสเพอริดาเด (Prosperidade), แหล่งโกลฟินโญ-อาตุม (Golfinho-Atum), แหล่งออร์กา (Orca), แหล่งทูบาเรา (Tubarao) และแหล่งทูบาเรา-ทีเกร (Tubarao-Tigre) โดยได้มีการค้นพบปริมาณทรัพยากรก๊าซธรรมชาติที่คาดว่าจะผลิตได้ ประมาณ 75 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต และมีศักยภาพที่จะเป็นแหล่งผลิตก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก


สำหรับผู้ดำเนินการโครงการโมซัมบิก แอเรีย 1 โดยปัจจุบันเป็นบริษัท Total E&P Mozambique Area 1 Limitada โดยโครงการโมซัมบิก แอเรีย 1 มีสัดส่วนผู้ลงทุนดังนี้ PTTEP Mozambique Area 1 Limited  ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ ปตท.สผ. ถือสัดส่วนร้อยละ 8.5, Total E&P Mozambique Area 1 Limitada (บริษัทย่อยของ Total SA) เป็นผู้ดำเนินการโครงการ ถือสัดส่วนร้อยละ 26.5, ENH Rovuma Area Um. S. A. ถือสัดส่วนร้อยละ 15, บริษัท Mitsui E&P Mozambique Area 1 Ltd. ถือสัดส่วนร้อยละ 20, บริษัท ONGC Videsh Ltd. ถือสัดส่วนร้อยละ 10, Beas Rovuma Energy Mozambique Limited ถือสัดส่วนร้อย 10 และ BPRL Ventures Mozambique B.V. ถือสัดส่วนร้อยละ 10 

นายมนตรี ลาวัลย์ชัยกุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานโครงการผลิต ปตท.สผ. กล่าวว่า โครงการดังกล่าวมีความคืบหน้าการก่อสร้าง 20% และคาดว่าจะผลิตและขายก๊าซฯ ได้ตามแผนปี 2567 โดย ปตท.สผ.มีความต้องการจะถือหุ้นเพิ่ม หากผู้ถือหุ้นมีการจำหน่ายออกมา.- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง