ระยอง 11 ก.ค.-สัมมนา ปชป. ตึงเครียดตั้งแต่เริ่ม ส.ส.-รัฐมนตรี ปิดห้องลับเคลียร์ส่วนตัว ด้าน “จุรินทร์” หวังหลังแลกเปลี่ยนจะได้กลับไปนั่งในใจประชาชนอีกครั้ง ลั่นปรับ ครม. หากมีสลับเก้าอี้ ปชป.ต้องกลับไปดูเงื่อนไขตอนร่วมรัฐบาล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนการสัมมนา ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ที่โรงแรมหาดทรายแก้ว บีช เกาะเสม็ด จ.ระยอง ได้มีการปิดห้องคุยระหว่าง ส.ส.และรัฐมนตรีของพรรคเท่านั้น โดยไม่อนุญาตให้บุคคลภายนอกเข้าร่วม รวมถึงกรรมการบริหารพรรคด้วย เพื่อเปิดโอกาสให้ ส.ส.พูดคุยปัญหาการทำงานของรัฐมนตรีและกรรมการบริหารพรรคในช่วงที่ผ่านมาอย่างเต็มที่
นอกจากนี้ ก่อนการสัมมนา ได้มีการถ่ายภาพร่วมกัน และ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ให้ทุกคน “ชูนิ้วโป้งและนิ้วชี้” พร้อมกัน เมื่อถามถึงความหมาย นายจุรินทร์ กลับไม่เฉลย ผู้สื่อข่าวจึงสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นสัญลักษณ์ตัว J ที่เป็นตัวอักษรตัวแรกของชื่อนายจุรินทร์
ทั้งนี้เป็นที่สังเกตว่า บรรยากาศตึงเครียดตั้งแต่ก่อนเริ่มสัมมนา โดยนายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ ส.ส.ตาก พูดกลางห้องประชุม ว่า มารอประชุมตั้งแต่ 09.00 น. แต่กว่าจะเปิดประชุมได้ ก็ล่วงเลยมา 50 นาที และเมื่อถึงช่วงที่นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ประธาน ส.ส.พรรคได้เชิญถ่ายรูปหมู่ นายชัยวุฒิและนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง ก็แสดงอาการไม่อยากไปร่วมถ่ายรูป แต่สุดท้ายเมื่อเห็นสื่อมวลชนอยู่เป็นจำนวนมาก ก็พูดชวนกันไปร่วมถ่ายภาพหมู่
ก่อนการสัมมนา นายจุรินทร์ ให้สัมภาษณ์ว่า งานในวันนี้ ได้เตรียมการมานานแล้ว แต่เนื่องจากติดสถานการณ์โควิด-19 ส.ส.ต้องทำงานหนักและต้องลงพื้นที่ จึงไม่มีโอกาสได้พบกับอย่างพร้อมหน้า จึงถือโอกาสนี้เป็นการพูดคุยกันแบบสบาย ๆ และถือมาชาร์จแบตร่วมกันด้วย โดยในวันนี้จะมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นของสมาชิกในเรื่องทิศทางการนำพาพรรคไปข้างหน้า และจะทำอย่างไรให้พรรคประชาธิปัตย์เข้าไปนั่งในหัวใจของประชาชนได้อีกครั้งหนึ่ง
ส่วนกระแสความขัดแย้งภายในพรรค นายจุรินทร์ กล่าวว่า เป็นเพียงกระแสข่าว แต่ข้อเท็จจริงไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทุกอย่างยังทำงานร่วมกันได้
เมื่อถามถึงการประชุมใหญ่ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 19 กรกฎาคมนี้ พรรคจะมีการประเมินผลงานรัฐมนตรีของพรรคหรือไม่ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การประชุมใหญ่จะเป็นไปตามระเบียบวาระการประชุมที่กำหนดไว้ แต่ส่วนการปฏิบัติหน้าที่ของรัฐมนตรีพรรค เราได้มีการติดตาม รวมทั้ง ส.ส.และสมาชิกด้วย แม้แต่รัฐมนตรีเองก็ต้องประเมินผลงานตัวเองเหมือนกันว่าที่ผ่านมาสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้สำเร็จลุล่วงอย่างไร เพราะต้องยอมรับว่าการทำหน้าที่ของรัฐมนตรี มีผลต่อภาพรวมของพรรค หากรัฐมนตรีทำงานดี มีผลงาน ก็ส่งผลถึงพรรคเป็นที่ยอมรับของประชาชน
นายจุรินทร์ ยังปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นว่าหากมีการปรับคณะรัฐมนตรี จะมีการเปลี่ยนตัวบุคคลที่เป็นรัฐมนตรีของพรรคหรือไม่ แต่ยืนยันว่าเรื่องนี้จะต้องเป็นความเห็นของ ส.ส.และกรรมการบริหารพรรคร่วมกัน เพราะเป็นกฎเกณฑ์ของพรรคประชาธิปัตย์
“ไม่ขอตอบว่าเก้าอี้รัฐมนตรีของพรรคประชาธิปัตย์ จะยังมีจำนวนเท่าเดิมหรือไม่ เพราะเรื่องนี้ขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรี แต่หากมีการเปลี่ยนแปลงจากที่เคยคุยกันไว้ตอนร่วมรัฐบาล ก็คงต้องแจ้งให้ทราบ และในพรรคก็ต้องมีการคุยกัน ก่อนที่จะมีความเห็นกลับไป เนื่องจากตอนเจราจาเงื่อนไขร่วมรัฐบาล มีข้อตกลงชัดเจนแล้ว ซึ่งเป็นที่ยอมรับและแถลงนโยบายต่อรัฐสภาผูกพันกับคนทั้งประเทศแล้ว” นายจุรินทร์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย