นครราชสีมา 10 ก.ค. – เครือญาติย่าโม ย่าบุญเหลือ แสดงท่าทีผ่านสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา ว่าไม่ติดใจเอาความรายการช่องส่องผี ที่พูดดูหมิ่นบิดเบือนประวัติศาสตร์ เพราะอยากให้สามัคคีกัน ขณะที่นักวิชาการมั่นใจว่าเป็นเรื่องเท็จ หากเป็นจริงจะต้องมีการบันทึกไว้ในพงศาวดาร
วัดศาลาลอยในตัวเมืองนครราชสีมา เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ศูนย์รวมใจชาวบ้านมากว่า 200 ปี สร้างขึ้นตามการเสี่ยงทายของท้าวสุรนารี หรือย่าโม ระหว่างยกทัพกลับจากทุ่งสัมฤทธิ์ หลังเสร็จศึกสงครามกับกองทัพเจ้าอนุวงศ์ การที่รายการช่องส่องผี ใช้เป็นสถานที่พูดดูหมิ่นบรรพบุรุษบิดเบือนประวัติศาสตร์ หลายคนจึงรับไม่ได้ ล่าสุดทีมงานช่องส่องผีติดต่อมาทางวัด พร้อมขอขมาแล้ว แต่ยังไม่กำหนดวัน
ส่วนด้านหลังของบ้านหลังนี้เคยเป็นบ้านตึกดินของย่าโม ตั้งอยู่ใกล้ศาลหลักเมืองนครราชสีมา ถูกทุบไปตั้งแต่มีอหิวาตกโรคระบาดในอดีต ซึ่งย่าโมทำเป็นตัวอย่าง บริเวณรายรอบเคยเต็มไปด้วยช้างและม้าไว้ใช้งาน เป็นข้อมูลจากปากญาติสายตรงที่ล่วงลับไปแล้ว 8 ปีก่อน เคยเล่าให้เพื่อนบ้านฟัง ปัจจุบันมีทายาทถึงรุ่นที่ 7 แล้ว เจ้าของบ้านหลังนี้อยู่ในรุ่นที่ 6 เป็นนายทหารชั้นผู้ใหญ่ในกรุงเทพฯ ทีมข่าวพยายามติดต่อภรรยาที่อยู่เฝ้าบ้าน แต่ไม่สะดวกให้ความเห็น
ทั้งญาติย่าโม และย่าบุญเหลือ แสดงท่าทีผ่านวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา ว่าไม่ติดใจเอาความ ไม่อยากขยายความขัดแย้ง อยากให้สามัคคีกัน เหมือนที่ย่าทั้งสองเคยรวมใจชาวบ้านกอบกู้บ้านเมืองจากทหารลาว ขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมามองว่าไม่เหลือบ่ากว่าแรงที่ทางทีมงานช่องส่องผีจะมาขอขมาในพื้นที่ เพื่อไม่ให้มีอะไรค้างคาใจ
ขณะที่นักวิชาการมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ที่ศึกษาประวัติศาสตร์ท้องถิ่นมา 10 ปี พบว่าไม่เคยปรากฏเรื่องเล่าถึงความสัมพันธ์ว่า ย่าบุญเหลือ เป็นภรรยาอีกคนของพระยาปลัดทองคำ สวามีคุณหญิงโม อย่างที่ช่องส่องผีนำเสนอ จึงเป็นการให้ร้ายดูหมิ่นบรรพบุรุษทั้งสาม โดยสมัยก่อน การมีอนุภรรยาเป็นที่เปิดเผย ยอมรับกันได้ หากจริงต้องมีการระบุไว้ในพงศาวดาร
อย่างไรก็ตาม ทางจังหวัดนครราชสีมาเตรียมพลิกวิกฤติเป็นโอกาสในการชำระประวัติศาสตร์ โดยประสานญาติย่าโม ย่าบุญเหลือ สร้างบทเรียนเพิ่มเติมให้สังคม พร้อมนำเครื่องพระราชทาน และอุปกรณ์สู้รบในอดีตที่ยังหลงเหลือในบ้าน ออกมาสู่สายตาสาธารณชน.-สำนักข่าวไทย