ระยอง 10 มี.ค.-“ถาวร เสนเนียม” ชี้ ปรับ ครม. เป็นอำนาจนายกรัฐมนตรี แต่คงให้แต่ละพรรคพิจารณากันเอง ปชป.มีกก.บห.เป็นผู้ตัดสินใจ ย้ำ สัมมนาต้องให้ส.ส.ได้เปิดใจ
นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวถึงกระแสการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า อำนาจในการปรับคณะรัฐมนตรีเป็นของนายกรัฐมนตรี แต่รัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลผสมจากหลายพรรค นายกรัฐมนตรีคงจะให้แต่ละพรรคพิจารณากันเอง ซึ่งในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ยังไม่มีสัญญาณใด ๆ อย่างไรก็ตามพรรคประชาธิปัตย์บริหารโดยคณะกรรมการบริหารพรรคและรับฟังเสียงจากทุกฝ่ายอย่างกว้างขวาง จึงเป็นไปตามกฎเกณฑ์กติกาที่ข้อบังคับพรรคกำหนดไว้คือต้องฟังเสียงจากทุกคนที่เป็นองค์ประกอบของการประชุมพรรค
สำหรับการประเมินผลงานของรัฐมนตรีนั้น นายถาวร กล่าวว่า สามารถประเมินได้จากหลายทาง ทั้งประเมินจากองค์กรภายนอก เช่น ซุปเปอร์โพล นิด้าโพล หรือโพลต่าง ๆ ส่วนโพลจากภายในขณะนี้ยังไม่ทราบว่าทำงานได้พึงพอใจ มีประสิทธิภาพ หรือเป็นไปตามอุดมการณ์พรรคหรือไม่ เพราะไม่แน่ใจว่าภายในพรรคมีการประเมินการทำงานของรัฐมนตรีของพรรคหรือไม่ ซึ่งคงต้องถามคณะกรรมการบริหารพรรค
ส่วนที่มีความเคลื่อนไหวกันภายในพรรค และถูกมองว่าหวังตำแหน่งในคณะรัฐมนตรีนั้น นายถาวร กล่าวว่า คงเป็นเพียงความหวังดีต่อการทำงานของพรรคและความพึงพอใจของประชาชน จึงทำให้คนภายในมีสิทธิ์ที่จะสอบถาม มีสิทธิ์แสดงความคิดเห็น มีสิทธิ์เสนอแนะ ซึ่งเป็นเรื่องปกติของพรรคประชาธิปัตย์ ถือว่าเป็นวัฒนธรรมประชาธิปไตย ในพรรคประชาธิปัตย์ และในการสัมมนาพรรคที่จังหวัดระยอง ต้องเปิดกว้างรับฟังความเห็น และเสียงสะท้อนจากส.ส. และคนทำงานในพรรค ที่ต้องได้เปิดใจ ได้พูด ได้ฟัง ซึ่งเป็นเสน่ห์ของพรรคประชาธิปัตย์ ทุกคนต้องมีสิทธิ์พูด ทุกคนต้องมีสิทธิ์เสนอแนะ ถ้าเห็นว่าการทำงานส่วนไหนบกพร่องหรือยังต้องเสริม ซึ่งกรรมการบริหารและคนที่เป็นรัฐมนตรีต้องรับฟัง
เมื่อถามว่าการสัมมนาครั้งนี้จะนำไปสู่การปรับคณะรัฐมนตรีหรือไม่ นายถาวร กล่าวว่า ไม่สามารถบอกได้ เพราะว่ารัฐมนตรีของพรรคทำงานภายใต้การพิจารณาของคณะกรรมการบริหารพรรคที่มอบหมายให้รัฐมนตรีทั้ง 7 คน นำนโยบายของพรรคไปสู่การปฏิบัติ ซึ่งยังต้องฟังคณะกรรมการบริหารพรรคอีกครั้งหนึ่งตามขั้นตอนที่มีในข้อบังคับพรรค
นายถาวร กล่าวว่า เบื้องต้นไม่ขอประเมินตัวเอง แต่มองว่ารัฐมนตรีคนอื่นๆ ของพรรคทำหน้าที่ที่แถลงไว้ในวันหาเสียง เมื่อเจรจาร่วมรัฐบาลกับพรรคการเมืองหลัก ก็นำเสนอนโยบายต่าง ๆ เช่นการประกันราคาพืชผล การแก้ไขรัฐธรรมนูญ และเรื่องอื่น ๆ ซึ่งทั้งหลายทั้งปวงเหล่านี้ ดูแล้วรัฐมนตรีที่รับผิดชอบได้นำนโยบายไปใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ตลอดมาเป็นระยะเวลา 1 ปี.-สำนักข่าวไทย