กทม.3 ก.ค.- รองโฆษก ตร.แจงกรณีล็อกล้อรถยนต์ “ลีน่า จัง” ทำถูกต้องไม่เลือกปฏิบัติ ด้านตำรวจที่ล็อกล้อ ซึ่งอดกลั้นต่อการต่อว่าและวีนใส่ ได้ลงบันทึกประจำวันไว้เรียบร้อย
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ เปิดเผยกรณีสื่อและผู้ใช้เฟซบุ๊คให้ความสนใจการเผยแพร่คลิปวิดีโอในโลกโซลเชียลประเด็น “ลีน่าจัง” เดือดด่าแรง ตำรวจหนุ่มล็อกล้อรถฉุนโดนคันเดียว ว่าได้รับรายงานจาก สน.ปทุมวัน ว่า เมื่อ 2 ก.ค. 2563 เวลาประมาณ 20.30 น. ตำรวจจราจร สน.ปทุมวัน ได้ออกตรวจพื้นที่ บริเวณซอยจุฬาลงกรณ์ 5 แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน เพื่อกวดขันวินัยจราจร ไม่ให้มีการจอดรถในเขตห้าม เนื่องจากบริเวณดังกล่าวน้ี มักได้รับการแจ้งเหตุ การฝ่าฝืนกฎหมายโดยการจอดรถยนต์ในเขตห้ามและกีดขวางการจราจรจากประชาชนทั่วไป อันเป็นเหตุให้ ผู้ขับขี่ยานพาหนะรายอื่นไม่สามารถสัญจรได้โดยสะดวก
เมื่อตำรวจที่ปรากฏในคลิปวิดีโอ ไปถึงที่เกิดเหตุ พบรถยนต์ โตโยต้า สีขาว ทะเบียน 6กร-5911 กทม. จอดอยู่เพียง 1 คัน บริเวณที่มีสัญลักษณ์บนขอบทางแสดงเขตห้ามจอด (ขาว-แดง) ตลอดแนวถนน อีกท้ัง รถยนต์คันดังกล่าว ยังจอดอยู่ในลักษณะกีดขวางการจราจรเป็นเหตุให้ผู้ขับขี่รถยนต์รายอื่นไม่สามารถ เดินรถได้ตามปกติวิสัย ใช้เครื่องมือบังล้อ ไม่ให้เคลื่อนย้ายรถคันดังกล่าว พร้อม ออกใบสั่ง แสดงใบสั่งและใบเตือนไว้ที่บริเวณหน้ารถที่ผู้ขับขี่สามารถเห็นได้ง่าย แล้วจึงออกตรวจพื้นที่ ตามที่ได้รับมอบหมายต่อไป
ต่อมา ได้รับแจ้งทางวิทยุสื่อสารว่า เจ้าของหรือผู้ขับขี่ รถยนต์คันดังกล่าวขอพบตํารวจผู้ใช้เครื่องมือบังคับล้อมิให้เคลื่อนย้ายรถ ประกอบกับได้รับแจ้งว่า ผู้ขับขี่หรือเจ้าของรถยนต์คันดังกล่าวได้ชําระค่าปรับ ณ สน.ปทุมวัน เรียบร้อยแล้ว ด้วยความบริสุทธิ์ใจ และเพื่อการดําเนินการปลดล็อกเครื่องมือบังคับล้อโดยมิชักช้า จึงได้ไปแสดงตัวต่อเจ้าของ เมื่อไปถึงบริเวณที่เกิดเหตุได้พบคุณลีน่า จังจรรจา หรือลีน่าจัง แสดงตัวเป็นเจ้าของ หรือผู้ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าว ที่ได้จอดรถฝ่าฝืนกฎหมาย โดยปรากฏตามคลิปวิดีโอที่เผยแพร่ อยู่ในสื่อสังคมออนไลน์
รองโฆษก ตร. กล่าวต่อว่า อยากให้เข้าใจถึงการกระทำที่เป็นการฝ่าฝืนกฎจราจร ซึ่งถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย โดยในส่วนการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ ก็เป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย และตามนโยบายของผู้บังคับบัญชาที่ได้มอบหมายในการกวดขับจับกุมผู้ขับขี่ จอดรถ ฝ่าฝืนกฎหมายจราจรหรือกีดขวางการจราจร เพื่อคืนพื้นผิวการจราจรให้กับประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนโดยส่วนรวม อีกทั้งตำรวจคนดังกล่าว ได้แสดงถึงความอดทนอดกลั้น มีวุฒิภาวะในการควบคุมสติปัญญา อารมณ์ แม้นว่าผู้ขับขี่รถคันดังกล่าวจะพยายามพูดจาต่อว่าเอะอะโวยวายหรือแสดงอากัปกิริยามารยาทก้าวร้าวใส่ก็ตามที กรณีมองว่าตำรวจเลือกปฏิบัตินั้น ขอเรียนว่า ในการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจจราจร หากพบเห็นการกระทำความผิด จอดรถในที่ห้ามจอด หรือ เป็นการจอดรถกีดขวางทางจราจร ตลอดจนการกระทำความผิดในข้อหากฎหมายอื่นๆ ตำรวจพร้อมที่จะดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายทันทีทุกราย ยืนยันไม่ได้เลือกปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติตามที่กล่าวหาอยู่แล้ว ส่วนประเด็นที่ มีการใช้ถ้อยคำในลักษณะหมิ่นประมาท หรือ ดูหมิ่นซึ่งหน้า อาจทำให้ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่รายดังกล่าวได้รับความเสียหาย หรือ อับอายในที่สาธารณะ ประกอบมีการนำไปเผยแพร่คลิปวิดีโอลงในโซลเชียลมิเดียนั้น เบื้องต้นตำรวจรายดังกล่าว ได้แจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน พร้อมปรึกษาหารือกับผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดพิจารณาดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป.-สำนักข่าวไทย