กทม. 28 มิ.ย. – “สกาลา” โรงภาพยนตร์สแตนด์อโลน แห่งสุดท้ายของกรุงเทพฯ ที่เปิดฉายภาพยนตร์มานานกว่า 50 ปี กำลังจะปิดฉากลง และวันที่ 3-5 กรกฎาคม มีการนัดเปิดไฟทุกดวงในงาน “LA SCALA ลา สกาลา” ให้แฟนภาพยนตร์ได้เก็บความทรงจำ
นับถอยหลังอีกเพียงไม่กี่วัน “สกาลา” โรงภาพยนตร์สแตนด์อโลนแห่งสุดท้ายของกรุงเทพมหานคร จะเปิดไฟทุกดวงและฉายภาพยนตร์ “รอบปิดม่าน” เพื่อให้แฟนๆ เข้ามาร่วมเก็บภาพความความทรงจำที่ยังสว่างไสวในใจทุกคนไปพร้อมๆ กัน
ผ่านไปเพียง 2 วันของการเปิดจำหน่ายบัตร เพื่อเข้าชมภาพยนตร์ 4 เรื่องพิเศษ ที่บอกเล่าความรุ่งเรืองและร่วงโรยของโรงภาพยนตร์สแตนด์อโลน จำกัดเพียงรอบละ 400 ที่นั่งเท่านั้น บางเรื่องขายบัตรหมดไปแล้ว ขณะที่คอหนังสกาลาที่ผูกพันกับโรงหนังแห่งนี้มาเกือบ 30 ปี ต่างรู้สึกใจหาย และอยากให้อนุรักษ์สถาปัตยกรรมที่นี้ไว้
โรงภาพยนตร์สกาลา ก่อตั้งเมื่อปี 2512 เป็น 1 ใน 3 ทหารเสือ โรงภาพยนตร์เครือเอเพ็กซ์ในย่านสยามสแควร์ ต่อจากโรงภาพยนตร์สยาม ก่อตั้งเมื่อปี 2509 และโรงภาพยนตร์ลิโด ก่อตั้งเมื่อปี 2511 โดยนายพิสิฐ ตันสัจจา เจ้าของโรงหนังศาลาเฉลิมไทย ที่ต้องการสร้างโรงหนังที่สวยที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้ จึงก่อสร้างและตกแต่งแบบคลาสสิก ผสมผสานตะวันออกและตะวันตก ภายในโรงหนังประดับลวดลายศิลปะ Art Deco ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น คือ เสาและฝ้าเพดานสีทอง มีขนาด 1,000 ที่นั่ง
เมื่อเดินขึ้นบันไดมาจะมีโคมไฟแชนเดอเลียร์ จากอิตาลี คอยทำหน้าที่ต้อนรับผู้ชมที่กำลังเดินขึ้นบันได และความโอ่อ่าทำให้สกาลามีฐานะเป็น “ราชาโรงหนังแห่งสยาม” ภายหลังการแข่งขันโรงภาพยนตร์รุนแรงมากขึ้น และการเข้ามาของดิจิทัลแพลตฟอร์ม ทำให้โรงภาพยนตร์เครือเอเพ็กซ์ขาดทุนต่อเนื่อง แม้จะเพิ่มภาพยนตร์และเพิ่มรอบฉาย ตอบสนองคอหนังในแนวที่หลากหลายมากขึ้น
พี่วินัย หนึ่งในพนักงานสกาลา ภูมิใจที่ได้ทำงานที่นี่มากว่า 42 ปี รู้สึกใจหายแต่ก็ต้องยอมรับการเปลี่ยนแปลง และกลับไปทำสวนที่บ้าน
หลังจากนี้ สกาลาจะเปิดให้เช่าสถานที่สำหรับจัดกิจกรรมและจัดฉายภาพยนตร์รอบพิเศษ ไปจนกว่าสัญญาจะสิ้นสุดลงในสิ้นปีนี้
สกาลา พาผู้คนจากรุ่นสู่รุ่นสัมผัสวัฒนธรรมการดูหนัง ที่ไม่ได้เสพเพียงศิลปะบนแผ่นฟิล์ม แต่เป็นความทรงจำยังคงอัดแน่นอยู่ในห้วงคำนึงของผู้คนมากมาย ก่อนที่ “จะเหลือเพียงความทรงจำแห่งสยาม” มาร่วมเก็บความทรงจำครั้งสุดท้าย ก่อนสกาลาจะปิดม่าน ในวันที่ 3 – 5 ก.ค.นี้. – สำนักข่าวไทย