กรุงเทพฯ
27 มิ.ย.-รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เร่งแก้ปัญหาลำไยล้นตลาด สั่งพาณิชย์จังหวัดเร่งหาตลาดให้เกษตรกรระบายสินค้าโดยตรงไม่ผ่านคนกลาง
ส่วนประเด็นการปรับ ครม. ในส่วนพรรคประชาธิปัตย์ ยืนยันไม่มีสัญญาณจากนายกรัฐมนตรี
นายจุรินทร์
ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงปัญหาลำไยล้นตลาด
ระบุขณะนี้ผลไม้กำลังทยอยออก โดยเฉพาะลำไยจากภาคเหนือซึ่งผลผลิตปีนี้เพิ่มขึ้น 20%
กระทรวงพาณิชย์ได้มีมาตรการเชิงรุก
ร่วมกับเกษตรกรผู้แปรรูป
และผู้ส่งออกล่าสุดไปพบกับผู้ที่เกี่ยวข้องในจังหวัดเชียงใหม่และลำพูน ซึ่งได้มีมาตรการช่วยเหลือทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง
เริ่มจากมาตรการสนับสนุนด้านการเงิน โดยเกษตรกร ที่ตัดลำไยและนำไปขาย
สามารถนำเอกสารการซื้อขายเบิกเงินจากพาณิชย์จังหวัด ได้กิโลกรัมละ 3 บาท
รวมทั้งในส่วนการแปรรูปก็ได้เช่นกัน ขณะที่ในส่วนผู้ส่งออกจะเพิ่มเป็นพิเศษ
โดยเฉพาะตลาดส่งออกไปจีน อินโดนีเซีย
และประเทศอื่นๆที่เกี่ยวข้อง จะสนับสนุนกิโลกรัมละ 5 บาท
เนื่องจากเห็นว่าหากส่งออกไปต่างประเทศได้มาก
ก็จะกลับมารับซื้อจากเกษตรกรได้มากขึ้น
นอกจากนี้ยังมีมาตรการช่วยหาตลาดในประเทศและต่างประเทศ
ทั้งตลาดออฟไลน์ และตลาดออนไลน์
ในส่วนตลาดออฟไลน์ พาณิชย์จังหวัดจะหาพื้นที่ให้เกษตรกรสามารถไปจำหน่ายได้โดยตรง
ไม่ต้องผ่านคนกลาง รวมไปถึงผลไม้อื่นๆด้วย ไม่เฉพาะลำไยเท่านั้น ขณะนี้ได้รับความร่วมมือห้างมาบุญครอง
ในกรุงเทพมหานคร จัดพื้นที่ให้ 3,000
ตารางเมตร โดยไม่คิดค่าพื้นที่ ซึ่งพาณิชย์จังหวัดจะประสานให้เกษตรกร มาจำหน่ายโดยตรง
ถือเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการระบายสินค้าภายในประเทศ ส่วนตลาดออนไลน์มีการจำหน่ายผ่านแพลตฟอร์มที่มีชื่อเสียงทั้งลาซาด้า
ช็อปปี้ ไทยแลนด์โพสต์มาท (ไปรษณีย์ไทย )
หรือจตุจักรดอทคอม
รวมทั้งแพลตฟอร์มต่างประเทศ เช่น ทีมอลล์ ของอาลีบาบา รวมทั้งแอมะซอนในประเทศต่างๆ
และแพลตฟอร์มอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ช่วยระบายทั้งลำไยและผลไม้อื่น
ที่ผู้บริโภคสสั่งซื้อได้โดยตรง
โดยเฉพาะในเดือนมิถุนายนและกรกฎาคม
กระทรวงพาณิชย์จัดไทยฟรุ้ตโกลเด้นมันท์ เพื่อรณรงค์ให้ผู้บริโภคทั้งชาวไทยและต่างประเทศมาบริโภคผลไม้ไทย รวมทั้งลำไยด้วย คาดว่าจะทำให้สถานการณ์ลำไยปีนี้ระบายได้คล่องตัวพอสมควร
ส่วนประเด็นกระแสข่าวการปรับ
ครม.ของพรรคร่วมรัฐบาลนั้น นายจุรินทร์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
กล่าวว่า ภายในพรรคยังไม่มีการพูดคุยกันถึงเรื่องดังกล่าว การปรับคณะรัฐมนตรี
ต้องเริ่มนับหนึ่งที่นายกรัฐมนตรี ซึ่งจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีการส่งสัญญาณใดๆ
มาที่พรรคประชาธิปัตย์ส่วนพรรคอื่นตนไม่ทราบ
แต่เท่าที่ได้คุยกับนายกรัฐมนตรียังไม่มีเรื่องนี้ ซึ่งเมื่อวานนี้ตนได้ไปร่วมร่วมพิธีเปิดอาเซียนซัมมิทกับนายกรัฐมนตรีที่ทำเนียบรัฐบาล
ก็ยังไม่มีการพูดคุยกันเรื่องปรับคณะรัฐมนตรี
เมื่อถามว่าในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์
จะมีการเปลี่ยนแปลงบุคคลที่รับตำแหน่งในคณะรัฐมนตรี หรือยังเป็นบุคคลเดิม
นายจุรินทร์ ยังยืนยันทุกอย่างต้องเริ่มต้นจากหัวหน้ารัฐบาลคือนายกรัฐมนตรี
ว่ามีความประสงค์จะปรับหรือไม่ หรือจะปรับในรูปแบบไหน หากส่งสัญญาณอะไร
ไปในทิศทางไหน ทางพรรคก็พร้อมพิจารณาต่อไป.-สำนักข่าวไทย