“อุตตม” พร้อมแจงงบฯ ปี 64 มั่นใจผ่านฉลุย

ก.คลัง  25 มิ.ย.-“ธนกร” เผย “อุตตม” รมว.คลัง เรียกประชุมหน่วยงานเกี่ยวข้องเตรียมพร้อมแจงงบฯ ปี64 มั่นใจผ่านสภาฯ ฉลุย ย้ำเกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชน 


นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า วันนี้นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วยปลัดกระทรวงการคลัง ประชุมร่วมกับสำนักงบประมาณ และหน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงการคลัง ประกอบด้วย กรมสรรพากร กรมสรรพสามิต กรมศุลกากร กรมบัญชีกลาง สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง และสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ในวาระ 1 ระหว่างวันที่ 1 – 3 กรกฎาคม 2563 โดยการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 เป็นการดำเนินการภายใต้พระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2561 พระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 รวมถึงกฎหมาย ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างครบถ้วน ซึ่งพิจารณาครอบคลุมในทุกแหล่งเงิน ทั้งในส่วนของเงินงบประมาณ เงินนอกงบประมาณ และเงินสะสมคงเหลือขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 

นายธนกร กล่าวอีกว่า แนวทางการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ภายใต้วงเงิน 3.3 ล้านบาท สอดคล้องตามกรอบยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ที่มุ่งเน้นแนวทางการทำงานแบบบูรณาการของทุกภาคส่วนในทุกมิติ ทั้งเชิงยุทธศาสตร์และเชิงพื้นที่ โดยยุทธศาสตร์การจัดสรรงบประมาณปี 2564 ประกอบด้วย 6 ยุทธศาสตร์ ได้แก่ 1.ด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม วงเงิน 795,806 ล้านบาท 2.ด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ วงเงิน 577,752 ล้านบาท 3. ด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบบริหารจัดการภาครัฐ วงเงิน 556,529 ล้านบาท 4.ด้านความมั่นคง วงเงิน 416,004 ล้านบาท 5.ด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน วงเงิน 402,311 ล้านบาท และ 6.ด้านการสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม วงเงิน 118,315 ล้านบาท ทั้งนี้ การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ยังให้ความสำคัญต่อความเชื่อมโยงกับนโยบายสำคัญของรัฐบาล มีเป้าหมายเพื่อบรรเทา แก้ไขปัญหา และเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 พร้อมทั้งให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างศักยภาพทางการคลังขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งเป็นการเตรียมความพร้อมของการถ่ายโอนภารกิจการจัดบริการสาธารณะระดับท้องถิ่น เพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนในระดับพื้นที่ เพื่อให้การใช้จ่ายเงินงบประมาณเป็นไปอย่างคุ้มค่า มีประสิทธิภาพ และประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุด มั่นใจว่าจะผ่านการพิจารณาของสภาฯ อย่างแน่นอน.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นร.หญิง ม.1 จมทะเลดับ หลังโรงเรียนพาไปทัศนศึกษาที่ระยอง

โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งใน จ.นครราชสีมา พานักเรียนไปทัศนศึกษาที่ จ.ระยอง นักเรียนหญิง ม.1 ถูกคลื่นดูดลงทะเลขณะเล่นน้ำ เสียชีวิต พ่อแม่สุดเศร้าสูญเสียลูกสาวคนเดียวของครอบครัว

น้ำท่วมเชียงใหม่

เชียงใหม่จมบาดาล น้ำท่วมครั้งประวัติศาสตร์

น้ำท่วมในตัวเมืองเชียงใหม่ ยังวิกฤติ หลังน้ำในลำน้ำปิงขึ้นสูงสุดทรงตัวสูงกว่า 5.30 เมตร ซึ่งสูงที่สุดตั้งแต่มีการวัดระดับน้ำปิง

น้ำท่วมขนส่งเชียงใหม่กระทบผู้โดยสาร เปิดจุดจอดรับ-ส่งชั่วคราว

น้ำขยายวงกว้างเข้าท่วมสถานีขนส่งเชียงใหม่แห่งที่ 2 และ 3 เต็มพื้นที่ ระดับน้ำสูงเกือบ 50 ซม. ผู้ประกอบการขนส่งต้องนำรถทัวร์โดยสารออกมาจอดรับ-ส่งบนถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ ยืนยันผู้ประกอบการยังให้บริการตามปกติ

ระทึก! แท็กซี่พลิกคว่ำเกิดเพลิงไหม้ 5 ชีวิตรอดหวุดหวิด

รถแท็กซี่พลิกคว่ำและเกิดเพลิงลุกไหม้กลางถนนพระราม 9 ผู้โดยสารหญิงสติดีถีบประตูช่วยตัวเองและคนอื่นออกมาจากตัวรถรวม 5 ชีวิตได้ทัน แต่ในจำนวนนี้บาดเจ็บสาหัส 1 คน เป็นคนขับแท็กซี่ ตำรวจเร่งสอบสวนหาสาเหตุ

ข่าวแนะนำ

เขื่อนเจ้าพระยาปรับเพิ่มการระบายน้ำ

น้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาขึ้นไม่หยุด ล้นตลิ่งท่วมบ้านเรือน ต.ธรรมามูล อ.เมืองชัยนาท ขณะที่เขื่อนเจ้าพระยาปรับเพิ่มการระบายแบบขั้นบันไดต่อเนื่อง ล่าสุดเมื่อเวลา 11.00 น. น้ำระบายท้ายเขื่อนที่ 2,200 ลบ.ม./วินาที

เร่งอพยพชาวบ้านหลายร้อยครอบครัว น้ำปิงยังสูง

แม้ระดับน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ เริ่มลดลง หลังขึ้นสูงสุดถึง 5.30 เมตร แต่หลายชุมชนและย่านการค้ายังมีน้ำท่วมสูง โดยเฉพาะพื้นที่ตอนใต้ของเมือง น้ำยังเพิ่มสูง หลายร้อยครอบครัวต้องอพยพด่วน

อิสราเอลโจมตีทางอากาศมัสยิด-โรงเรียนในกาซา ดับแล้ว 24

สำนักงานสื่อมวลชนของรัฐบาลกาซาที่กลุ่มฮามาสเป็นผู้ดำเนินการ กล่าวว่า อิสราเอลโจมตีทางอากาศโดยมีเป้าหมายเป็นมัสยิดและโรงเรียน ซึ่งเป็นสถานที่พักพิงของผู้พลัดถิ่นฐานในฉนวนกาซา เมื่อตอนเช้าวันอาทิตย์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 24 ราย และบาดเจ็บอีก 93 ราย