เพชรบูรณ์ 21 มิ.ย. – หลังดีเอสไอ กอ.รมน. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจค้นโรงโม่หินบุกรุกป่า ต.ตะกุดไล อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ และพบว่าทำผิด พ.ร.บ.ป่าไม้ เข้าระเบิดหินบนภูเขาโดยไม่ได้รับอนุญาต และยังขยายโรงงานออกนอกพื้นที่สัมปทาน ล่าสุดการเข้าตรวจค้นรอบ 2 ได้อายัดหินน้ำหนักกว่า 100,000 ตัน เป็นของกลาง
ภายหลังดีเอสไอภาค 6 ผนึกกำลังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บุกเข้าตรวจค้นโรงโม่หินในพื้นที่บ้านดงขุย ต.ตะกุดไล อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ หลังชาวบ้านร้องเรียนว่า โรงโม่ดังกล่าวบุกรุกพื้นที่ป่า ลักลอบระเบิดหินบนภูเขา ทำลายสิ่งแวดล้อม
การตรวจค้นของดีเอสไอและหน่วยงานที่เกี่ยวก่อนหน้านี้พบว่าโรงโม่ดังกล่าวได้รับสัมปทานโรงงาน เหมืองแร่ โม่และย่อยหิน เป็นเวลา 25 ปี บนเนื้อที่ 1,000 ไร่ มีกำลังการผลิตปีละ 300,000 ตัน โดยใช้เครื่องจักร 2000 แรงม้า ได้รับสัมปทานครั้งแรกในปี 2538 และต่ออายุสัมปทานทุก 10 ปี
การลงพื้นที่ชี้แนวเขตสัมปทานโรงโม่ พบมีการขยายพื้นที่โรงงานไปนอกเขตสัมปทาน เนื้อที่ 84 ไร่ พบการแผ้วถางป่า ตัดถนนขึ้นสู่ยอดเขา ทั้งที่ประทานบัตรหรือใบอนุญาตระเบิดหินบนภูเขาหมดอายุไปแล้ว
หลังการตรวจค้นครั้งแรกเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน ดีเอสไอได้ส่งไม้ต่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กอ.รมน. กรมป่าไม้ อุตสาหกรรมจังหวัดเพชรบูรณ์ รับลูกดำเนินการทางกฎหมาย ล่าสุดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจค้นครั้งที่ 2 และครั้งนี้พบว่าโรงโม่ได้เพิ่มขนาดเครื่องจักรจาก 2000 แรงม้า เป็น 3000 แรงม้า มากกว่าที่ขออนุญาตไว้ถึง 1000 แรงม้า
การตรวจค้นครั้งที่ 2 ของ กอ.รมน. กรมป่าไม้ และอุตสาหกรรมจังหวัด ได้อายัดหินที่ยังไม่ผ่านกระบวนการโม่และย่อย เป็นของกลาง ห้ามทำการเคลื่อนย้ายออกนอกพื้นที่
ส่วนหินที่โม่แล้ว 200,000 ตัน มูลค่าประมาน 40 ล้านบาท เจ้าหน้าที่ได้อายัดไว้ตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายนที่ผ่านมา อุตสาหกรรมจังหวัดระบุว่า หินดังกล่าวได้จ่ายค่าภาคหลวงต่อรัฐไปแล้ว ไม่สามารถอายัดได้ อนุญาตให้โรงโม่นำออกไปขายได้ตามปกติ
อย่างไรก็ตาม สำหรับความเสียหายจากการแผ้วถางป่า และระเบิดหินบนภูเขาในเขตป่าโป่งนกแก้ว กรมป่าไม้และอุตสาหกรรมจังหวัดเพชรบูรณ์ประเมินการคร่าวๆ ไม่ต่ำกว่า 70 ล้านบาท. – สำนักข่าวไทย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
►ดีเอสไอบุกค้นโรงโม่รุกป่า ตอน 2
►ตรวจสอบใบอนุญาตโรงโม่หิน หลังชาวบ้านร้องลอบระเบิดหิน