กรุงเทพฯ 11 มิ.ย. – ธ.ก.ส. สรุปผลโอนเงินเยียวยาเกษตรกรงวดที่ 1 สำเร็จ 7.1 ล้านราย ส่งรายชื่อคืนกระทรวงเกษตรฯ กว่า 2.2 แสนราย เป็นกลุ่มข้าราชการและกลุ่มที่มีสถานะทางทะเบียนราษฎร์ผิดปกติ นอกจากนี้ ยังมีปัญหาโอนเงินไม่ได้ เนื่องจากข้อมูลทางบัญชีไม่สมบูรณ์อีกจำนวนมาก
นายกษาปณ์ เงินรวง รองผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก. ส.) กล่าวถึงผลการจ่ายเงินเยียวยาเกษตรกรกรงวดที่ 1 ของเดือนพฤษภาคมว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ส่งรายชื่อมา 7,684,132 ราย โอนเงินสำเร็จแล้ว 7,145,330 ราย เป็นเงินกว่า 35 ล้านบาท
ล่าสุดส่งรายชื่อคืนกระทรวงเกษตรฯ 224,331 ราย ได้แก่ ข้าราชการ 91,426 ราย ซึ่ง ครม.มีมติไม่ให้สิทธิ์ ส่วนอีก 132,905 ราย เป็นกลุ่มที่ต้องตรวจสอบสถานะอีกครั้ง เนื่องจาก ธ.ก.ส.ตรวจสอบข้อมูลทะเบียนราษฎร์จากกระทรวงมหาดไทยแล้วพบว่า มีผู้เสียชีวิตและอยู่ในสถานะถูกจำหน่าย นอกจากนี้ มีรายชื่อที่อยู่ระหว่างตรวจสอบความถูกต้องของบัญชีธนาคาร 148,702 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นบัญชีของธนาคารอื่น หากได้รับการยืนยันว่าถูกต้องจะโอนเงินเข้าบัญชีให้เร็วที่สุด
นายอนันต์ สุวรรณรัตน์ ปลัดกระทรวงเกษตรฯ กล่าวว่า ทาง ธ.ก.ส.แจ้งว่ามีรายชื่อที่ไม่สามารถโอนเงินได้ 165,769 ราย เนื่องจากไม่พบบัญชี บัญชีไม่ถูกต้อง บัญชีถูกอายัด และบัญชีไม่เคลื่อนไหว ซึ่งร่วมกับธ.ก.ส.ประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรมาปรับปรุงข้อมูลทางบัญชี โดย ธ.ก.ส.ให้แจ้งผ่าน www.เยียวยาเกษตรกร.com ส่วนกระทรวงเกษตรฯ ส่งเจ้าหน้าที่ระดับภูมิภาคทั่วประเทศไปหาเกษตรกรถึงบ้าน เพื่อให้เกษตรกรดำเนินการแก้ไข รวมทั้งประสานนำข้อมูลแจ้งกลับ ธ.ก.ส.
สำหรับเกษตรกรกลุ่มข้าราชการประจำนั้น ทาง ธ.ก.ส.ยังไม่ได้โอนเงิน แต่กลุ่มข้าราชการท้องถิ่น พนักงานรัฐวิสาหกิจ พนักงานราชการ และลูกจ้างราชการโอนเงินไปแล้วก่อนมีมติ ครม.ไม่ให้สิทธิ์ ทางกรมบัญชีกลางจะประสานงานกับต้นสังกัด เพื่อเรียกเงินคืน ในช่วงบ่ายวันนี้คณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้จะประชุมพิจารณาข้อหารือของกระทรวงเกษตรฯ ที่ว่าจะให้สิทธิ์แก่เกษตรกรที่ทำกินในที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์และเช่าที่ดินทำกินหรือไม่ เนื่องจากกระทรวงเกษตรฯ พิจารณาว่าเกษตรกรกลุ่มนี้ด้อยโอกาสในเรื่องที่ดินทำกินอยู่แล้ว เมื่อได้รับผลกระทบจากโควิด-19 หากไม่ได้รับความช่วยเหลือจะยิ่งลำบาก ส่วนการจ่ายเงินเยียวยางวดที่ 2 ของเดือนมิถุนายน ทาง ธ.ก.ส.ยืนยันว่าพร้อมจ่ายตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายนเป็นต้นไป