กรุงเทพฯ 8 มิ.ย. – ปลัดเกษตรฯ เผยมอบหมายให้ทุกหน่วยงานไปคัดกรองและพิจารณาข้ออุทธรณ์ของเกษตรกรที่ไม่ได้รับเงินเยียวยา ขณะนี้มียื่น 1.8 แสนราย หากแก้ปัญหาหรือสรุปเรื่องในหน่วยงานระดับภูมิภาคหรือกรมได้จะเหลือเรื่องถึงคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ไม่มาก ชี้เร่งหารือคณะกรรมการกลั่นกรองเกี่ยวกับเกษตรกรอยู่ในที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์สามารถรับเงินเยียวยาได้หรือไม่
นายอนันต์ สุวรรณรัตน์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานประชุมคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์สิทธิ์รับเงินเยียวยาเกษตรกร โดยกล่าวว่า ขณะนี้มีผู้ยื่นอุทธรณ์ 186,945 ราย แต่ยังมีรายชื่อที่อยู่ระหว่างนำข้อมูลการอุทธรณ์เข้าระบบ เนื่องจากวันยื่นอุทธรณ์วันสุดท้าย (5 มิ.ย.) มีเกษตรกรจำนวนมาก ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์สั่งการให้รับเรื่องของทุกราย แม้จะเลยเวลาราชการแล้วก็ตาม วันนี้ (8 มิ.ย.) มอบหมายให้หน่วยงานที่รับขึ้นทะเบียนแต่ละแห่งไปคัดกรองข้ออุทธรณ์ โดยเรื่องที่หาข้อสรุปในหน่วยงานระดับภูมิภาคให้ดำเนินการทันที หากนอกเหนืออำนาจให้เสนอมายังกรมที่รับผิดชอบ ดังนั้น คาดว่าจะเหลือเรื่องที่คณะกรรมการฯ ต้องพิจารณาไม่มากสามารถทำได้รวดเร็ว
นายอนันต์ กล่าวว่า ขณะนี้เร่งหารือไปยังคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ว่าเกษตรกรที่ทำกินในที่ดินไม่มีเอกสารสิทธิ์สามารถรับเงินเยียวยาได้หรือไม่ หากคณะกรรมการกลั่นกรองฯ ให้สิทธิ์ ทางกระทรวงเกษตรฯ จะจ่ายเงินเยียวยาให้ทุกราย นอกจากนี้ ยังมีเกษตรกรที่มีชื่ออยู่ในฐานข้อมูลประกันสังคมมายื่นอุทธรณ์กว่า 80,000 ราย ซึ่งสั่งการให้ปฏิบัติตามที่คณะกรรมการกลั่นกรองกำหนดว่าต้องไม่ซ้ำซ้อนกับสิทธิ์ประกันสังคม โครงการเราไม่ทิ้งกัน ไม่เป็นข้าราชการประจำ ข้าราชการบำนาญ และลูกจ้างราชการ แต่หากออกจากงานประจำและทำเกษตรกรรมอย่างเดียว โดยชื่อยังค้างในทะเบียนประกันสังคมและไม่ได้รับเงินช่วยเหลือจากโครงการใด ๆ เลย มีสิทธิ์รับเงินเยียวยาเกษตรกร เช่นเดียวกับผู้ที่สละสิทธิ์จากโครงการเราไม่ทิ้งกัน แต่ประสงค์จะรับเงินเยียวยาเกษตรกร โดยกระทรวงเกษตรฯ ตรวจสอบรายชื่อยังอยู่ในโครงการเราไม่ทิ้งกันจะถือเป็นรายชื่อตกหล่นได้รับสิทธิ์ด้วย
นายอนันต์ กล่าวถึงกรณีผู้ขึ้นทะเบียนเกษตรกรเป็นรายบุคคลเสียชีวิตว่า ไม่ได้ให้สิทธิ์ตกทอดไปถึงทายาท ให้เฉพาะผู้ขึ้นทะเบียนเกษตรกรเท่านั้น ยกเว้นผู้ขึ้นทะเบียนต่อกรมส่งเสริมการเกษตรซึ่งขึ้นเป็นรายครัวเรือน หากหัวหน้าครัวเรือนเสียชีวิต แต่สมาชิกครัวเรือนยังคงทำเกษตรกรรมอยู่จะได้รับสิทธิ์.-สำนักข่าวไทย