ราชบุรี 29 พ.ค.-สองหนุ่มแว้นจักรยานยนต์หนีตำรวจ หักหลบเลี่ยงไฟแดงหลุดโค้งล้มกลิ้งฝุ่นตลบ แต่ยังกัดฟันวิ่งหนีตำรวจต่อ สุดท้ายโดนรวบ 1 คน ตรวจพบปัสสาวะม่วง-ไอซ์ 0.83 กรัม
จากกรณีผู้ใช้เฟสบุ๊กชื่อ Thirayut Soontornworaseth โพสต์คลิปและข้อความว่า เหตุการณ์รถจักรยานยนต์ตำรวจ สภ.เมืองราชบุรี ขี่ไล่ตามรถจักรยานยนต์ของ 2 ผู้ต้องสงสัย ขับหลบหนีการจับกุม อย่างไม่คิดชีวิต จนในที่สุดช่วงแยกไฟแดงเจ็ดเสมียน ต.ดอนทราย อ.โพธาราม คนร้ายพยายามตีโค้งเพื่อหลีกเลี่ยงไฟแดง จนทำให้รถของผู้ต้องสงสัยล้มกลิ้งฝุ่นตลบ แต่ผู้ต้องสงสัยทั้ง 2 คน พยายามวิ่งหลบหนีต่อไปอีก
พอหลังมีแชร์คลิปดังกล่าวออกไป มีชาวโซเชียลมากกว่าพันคน แชร์คลิปดังกล่าวออกไปภายไม่ถึงชั่วโมง ด้วยเสียงเชียร์ เสียงพากษ์ของหญิงที่นั่งอยู่ในรถที่ลุ้นจนตัวโก่ง
โดยช่วงสายวันนี้ ตำรวจออกตรวจบริเวณถนนเพชรเกษมหน้าห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ใน ต.โคกหม้อ อ.เมือง พบชายต้องสงสัย 2 คนขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ GPX สีแดง มีนายเจี๊ยบ อายุ 38 ปี ฉายา “เจี๊ยบ บ้านโพ เป็นคนขับขี่ และนายสุวรรณ เหลืองอ่อน อายุ 29 ปี นั่งซ้อนท้าย มีพฤติการณ์ต้องสงสัยจึงเรียกหยุดเพื่อตรวจสอบ แต่ทั้ง 2 รีบขี่รถหลบหนี สิบตำรวจเอกบุรินทร์ วรรณกาล และ ดาบตำรวจอนุชา ชมภูพันธ์ จึงขับรถติดตามอย่างกระชั้นชิด จนถึงริมถนนเพชรเกษม หมู่ 9 ต.ดอนทราย อ.โพธาราม รถจักรยานยนต์คันดังกล่าว เกิดอุบัติเหตุล้มลง นายเจี๊ยบ คนขับ และนายสุวรรณ นั่งซ้อนท้าย จึงวิ่งหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ก่อนจะติดตามจับกุมนายสุวรรณได้ จึงนำตัวมาที่เกิดเหตุและตรวจค้นภายในรถจักรยานยนต์ พบยาไอซ์หนึ่งถุง 0.83 กรัม พร้อมอุปกรณ์การเสพซุกซ่อนใต้เบาะ
จากการสอบสวน นายสุวรรณ ยอมรับยาเสพติดและรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวเป็นของตนเอง ซื้อยาไอซ์มาจาก นายเจี๊ยบ ในราคา 500 บาท ซึ่งช่วงเกิดเหตุ นายเจี๊ยบ ได้ขี่รถไปเจอกับตำรวจจึงเกิดความหวาดกลัวว่าจะถูกจับกุมจึงพยายามขี่รถหลบหนี แต่รถเสียหลักล้มจนตัวเองได้รับบาดเจ็บที่หน้าและด้านหลัง และผลตรวจปัสสาวะพบสารเสพติด ส่วนการตรวจสอบประวัติของนายสุวรรณ พบเคยติดคุกมาแล้วถึง 3 คดี ข้อหาชิงทรัพย์ เมื่อปี 50 ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา เมื่อปี 54 และเสพยาเสพติด เมื่อปี 56 จนได้รับการปล่อยตัวเมื่อต้นเดือนกรกฎาคม ปี62 ที่ผ่านมา
เบื้องต้นตำรวจ ตั้งข้อกล่าวหา นายสุวรรณ ร่วมกันมียาเสพติดยาไอซ์ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และเสพยาเสพติด ส่วนนายเจี๊ยบอยู่ระหว่างติดตามตัว.-สำนักข่าวไทย