กรุงเทพฯ 29 พ.ค. – กรมธุรกิจพลังงานรายงานสถานการณ์การใช้น้ำมันเชื้อเพลิงรอบ 4 เดือนของปี 2563 (ม.ค.-เม.ย.) พบว่าลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นร้อยละ 11.7 สาเหตุสำคัญมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ในช่วงต้นปี 2563 ทำให้ประเทศไทยต้องประกาศ พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉิน ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 2563
สำหรับการใช้น้ำมันกลุ่มเบนซิน เฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 29.47 ล้านลิตร/วัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนคิดเป็นร้อยละ 8.1 โดยกลุ่มแก๊สโซฮอล์มีปริมาณการใช้ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน เฉลี่ยอยู่ที่ 28.69 ล้านลิตร/วัน คิดเป็นร้อยละ 7.6 ขณะที่น้ำมันเบนซินมีการใช้ลดลงเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 0.78 ล้านลิตร/วัน คิดเป็นอัตราลดลงร้อยละ 22.5 สำหรับภาพรวมการใช้น้ำมันกลุ่มแก๊สโซฮอล์ พบว่า แก๊สโซฮอล์ อี 85 มีปริมาณการใช้ลดลงมากที่สุดเฉลี่ยอยู่ที่ 0.97 ล้านลิตร/วัน คิดเป็นอัตราลดลงร้อยละ 24.7 รองลงมาเป็นแก๊สโซฮอล์ 91 มีปริมาณการใช้เฉลี่ยอยู่ที่ 8.16 ล้านลิตร/วัน คิดเป็นอัตราลดลงร้อยละ 15.5 ถัดมาเป็นแก๊สโซฮอล์อี 20 มีปริมาณการใช้อยู่ที่ 6.03 ล้านลิตร/วัน คิดเป็นอัตราลดลงร้อยละ 5.9 ขณะที่แก๊สโซฮอล์ 95 มีปริมาณการใช้ลดลงน้อยที่สุดเฉลี่ยอยู่ที่ 13.53 ล้านลิตร/วัน คิดเป็นอัตราลดลงร้อยละ 1.2
ส่วนการใช้น้ำมันกลุ่มดีเซลเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 66.16 ล้านลิตร/วัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนคิดเป็นร้อยละ 4.8 โดยน้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดาบี 7 มีปริมาณการใช้ลดลงเฉลี่ยอยู่ที่ 48.80 ล้านลิตร/วัน คิดเป็นอัตราลดลงร้อยละ 25.8 น้ำมันดีเซลหมุนเร็วบี 10 มีปริมาณการใช้เฉลี่ยอยู่ที่ 8.40 ล้านลิตร/วัน (เริ่มมีการจำหน่ายตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคม 2562) และน้ำมันดีเซลหมุนเร็วบี 20 มีปริมาณการใช้เฉลี่ยอยู่ที่ 5.93 ล้านลิตร/วัน (เริ่มมีการจำหน่ายตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2561) โดยปริมาณการใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็วดังกล่าวอยู่ในช่วงการดำเนินการตามนโยบายของภาครัฐที่ใช้มาตรการราคากำหนดให้น้ำมันดีเซลหมุนเร็วบี 10 เป็นน้ำมันดีเซลฐานของประเทศ
ขณะที่การใช้น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) เฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 13.80 ล้านลิตร/วัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นร้อยละ 33.7 เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการบินอย่างมาก อีกทั้งสายการบินประกาศหยุดให้บริการเส้นทางบินระหว่างประเทศตั้งแต่ช่วงกลางเดือนมีนาคม 2563 รวมถึงสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ได้ประกาศห้ามอากาศยานทำการบินเข้าสู่ประเทศไทยเป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 7 เมษายน 2563
การใช้ LPG เฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 15.65 ล้าน กก./วัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนคิดเป็นร้อยละ 13.6 โดยปริมาณการใช้ภาคขนส่งลดลงมากที่สุด มีปริมาณการใช้อยู่ที่ 2.12 ล้าน กก./วัน คิดเป็นอัตราลดลงร้อยละ 27.9 รองลงมาเป็นภาคปิโตรเคมี มีปริมาณการใช้อยู่ที่ 6.28 ล้าน กก./วัน คิดเป็นอัตราลดลงร้อยละ 16.6 ถัดมาเป็นภาคครัวเรือนมีปริมาณการใช้ลดลงอยู่ที่ 5.51 ล้าน กก./วัน คิดเป็นอัตราลดลงร้อยละ 5.2 และภาคอุตสาหกรรมมีปริมาณการใช้ลดลงอยู่ที่ 1.73 ล้าน กก./วัน คิดเป็นอัตราลดลงร้อยละ 4.5 และการใช้ NGV เฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 4.31 ล้านกก./วัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นร้อยละ 23.8
ด้านการนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิง มีปริมาณรวมลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน เฉลี่ยอยู่ที่ 979,427 บาร์เรล/วัน คิดเป็นร้อยละ 7.6 โดยมีปริมาณการนำเข้าน้ำมันดิบเฉลี่ยอยู่ที่ 947,032 บาร์เรล/วัน คิดเป็นอัตราลดลงร้อยละ 3.5 คิดเป็นมูลค่า 48,608 ล้านบาท/เดือน เนื่องจากยังอยู่ในช่วงเวลาการหยุดซ่อมบำรุงโรงกลั่น และการ Lock down อย่างต่อเนื่อง ส่วนน้ำมันสำเร็จรูปเป็นการนำเข้าน้ำมันเบนซินพื้นฐาน น้ำมันดีเซลพื้นฐาน น้ำมันเตา น้ำมันอากาศยานและก๊าด และ LPG โดยมีปริมาณนำเข้าลดลงอยู่ที่ 32,395 บาร์เรล/วัน คิดเป็นอัตราลดลงร้อยละ 58.9 คิดเป็นมูลค่า 1,661 ล้านบาท/เดือน
ด้านการส่งออกเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนเฉลี่ยอยู่ที่ 186,432 บาร์เรล/วัน คิดเป็นร้อยละ 5.5 คิดเป็นมูลค่า 9,244 ล้านบาท/เดือน.-สำนักข่าวไทย