ป.ป.ท.29 พ.ค.- ศอตช.ลุยตรวจสอบการใช้จ่ายเงินงบประมาณของ อปท. ทั่วประเทศ ขยายผลเพิ่ม 52 อปท. ใน 30จังหวัด เผย 16 พฤติการณ์ความผิดปกติจัดซื้อจัดจ้างอุปกรณ์ป้องกันโควิด
พ.ต.ท.วันนพ สมจินตนากุล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (เลขาธิการ ป.ป.ท.) เปิดเผยว่า สำนักงาน ป.ป.ท. ในฐานะฝ่ายเลขานุการ ศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) ดำเนินการตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) กรณีการจัดซื้อจัดจ้างอุปกรณ์ป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ที่มีลักษณะที่ไม่โปร่งใสหรืออาจส่อไปในทางทุจริตอันจะเกิดผลเสียหายต่อทางราชการเพื่อใช้เป็นฐานในการตรวจสอบเรื่องนี้อย่างเป็นระบบ รวมถึงเพื่อเป็นข้อเสนอแนะและแนวทางให้หน่วยงานต่างๆ ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างอย่างถูกต้องตามระเบียบของ พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560
จึงได้แต่งตั้งชุดปฏิบัติการจำนวน 15 ชุด ออกตรวจสอบข้อเท็จจริงทั่วประเทศ และได้บูรณาการร่วมกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร(กอ.รมน.) รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบในกรณีดังกล่าว ซึ่งขณะนี้ชุดปฏิบัติการฯ ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงไปแล้ว ตามที่มีผู้แจ้งเบาะแส รวมจำนวน 52 อปท.รวม 30 จังหวัด
พบพฤติการณ์ความผิดปกติในการจัดซื้อจัดจ้างเพิ่มเติม รวมเป็น จำนวน 19แห่ง ซึ่งได้ส่งสำนักงาน ป.ป.ช.ไปแล้วจำนวน 3 แห่ง และยกเลิกการจัดซื้อ จำนวน 5 แห่ง โดยพบข้อสังเกตในความผิดปกติจำนวน 16 รูปแบบ ดังนี้
1. ราคาจัดซื้อสูงเกินจริงเมื่อเทียบกับราคาหรือคุณสมบัติของพัสดุในสถานการณ์ขณะนั้น
2.ไม่ปรากฏหลักฐานการสืบราคาให้ตรวจสอบ
3.ร้านคู่เทียบยืนยันว่าไม่ได้เป็นผู้เสนอราคาตามเอกสารจัดซื้อจัดจ้าง
4.นำพัสดุชิ้นใหม่มาสับเปลี่ยนกับที่ได้ตรวจรับไปแล้ว
5.ยกเลิกการจัดซื้อจัดจ้างในราคาที่ผ่านการต่อรองแล้วและไปจัดซื้อใหม่ในราคาที่สูงกว่าเดิม
6.ผู้รับจ้างและคู่เทียบไม่ใช่ผู้ประกอบการที่มีอาชีพขายหรือรับจ้างโดยตรง
7.จัดซื้อกับผู้ประกอบการต่างท้องที่ ทั้ง ๆ ที่ราคาสูงกว่าผู้ประกอบการในท้องที่
8.จัดซื้อเกินวงเงินที่มีอำนาจอนุมัติ
9.จัดซื้อในปริมาณที่มากเกินความจำเป็น
11.มีชื่อร้านคู่เทียบเพื่อสืบราคา แต่ไม่มีราคาในการนำเสนอ
12.คู่สัญญาและร้านคู่เทียบ มีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกัน
12.เจ้าหน้าที่ของรัฐเป็นผู้จัดหาสินค้าเอง โดยจ่ายเงินให้กับบริษัท/ร้านค้า เพื่อขอนำชื่อบริษัท/ร้านค้านั้นมาเป็นคู่สัญญาแทนตน
13.คณะกรรมการตรวจรับ ไม่ได้ทำการตรวจรับจริง แต่มีเจ้าหน้าที่นำเอกสารการตรวจรับมาให้ลงลายมือชื่อ
14.มีการซื้อขายกับรัฐวิสาหกิจบางแห่งที่ทำหน้าที่เป็นคนกลางจัดหาสินค้า ทั้งที่หน่วยงานดังกล่าวไม่มีวัตถุประสงค์ในการขายสินค้าประเภทที่มีการจัดซื้อ เพื่อหลีกเลี่ยงการสืบราคา
15. ผู้บริหารท้องถิ่น มีการจ่ายเงินค่าซื้อพัสดุอุปกรณ์ป้องกันโควิด โดยสั่งจ่ายเป็นเช็คเข้าบัญชีตนเอง
16. อปท. จำนวน 5 แห่ง ทำการยกเลิกการจัดซื้อเมื่อถูกหน่วยงานของรัฐตรวจสอบ
นอกจากนี้แล้วยังมีประเด็นที่น่าสนใจเพิ่มเติม คือ ในปัจจุบันพบว่า องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หลายแห่ง ได้มีการเปลี่ยนแปลงวิธีการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด -19 จากการจัดซื้อจัดหาอุปกรณ์ป้องกัน ควบคุม หรือรักษาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 มาเป็นการแจกเงินช่วยเหลือกรณีได้รับผลกระทบจากโรคโควิด ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยค่าใช้จ่ายเพื่อช่วยเหลือประชาชนตามอำนาจหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2560ซึ่งเป็นอีกแนวทางหนึ่งของการช่วยเหลือ เพื่อไม่ให้เป็นเหตุกระทำที่ซ้ำเติมปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน และสนับสนุนการใช้งบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ คุ้มค่า ตรงตามวัตถุประสงค์ เพื่อให้ประชาชน หรือผู้ได้รับผลกระทบโดยตรง ได้รับเงินตามความเป็นจริงและเต็มจำนวน.-สำนักข่าวไทย