เกษตรฯ ออกคำสั่งเรียกคืน “พาราควอต-คลอร์ไพริฟอส”

กรุงเทพฯ  28 พ.ค. –  กรมวิชาการเกษตรเรียกคืนพาราควอตและคลอร์ไพริฟอส หลังคณะกรรมการวัตถุอันตรายมีมติยกระดับเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 ห้ามนำเข้า ผลิต จำหน่าย และครอบครอง โดยให้เกษตรกรส่งคืนร้านค้าที่ซื้อมาภายใน 90 วัน หากฝ่าฝืนจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ


นางสาวเสริมสุข สลักเพ็ชร์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า ได้ลงนามในคำสั่งกรมวิชาการเกษตร เรื่อง การดำเนินการเกี่ยวกับวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 ที่กรมวิชาการเกษตรเป็นผู้รับผิดชอบ สาระสำคัญ คือ ให้ผู้ครอบครองวัตถุอันตรายตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม ได้แก่ พาราควอต พาราควอตคลอไรด์ และพาราควอต บิส เมทิลซัลเฟต ซึ่งเป็นสารป้องกันกำจัดวัชพืช รวมทั้งคลอร์ไพริฟอส และคลอร์ไพริฟอส-เมทิล ซึ่งเป็นสารป้องกันกำจัดศัตรูพืชนำส่งมอบคืนผู้ขายที่ซื้อมาให้เสร็จภายใน 90 วัน นับตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน จนถึง 29 สิงหาคม 2563 

ส่วนผู้มีใบอนุญาตครอบครองเพื่อขายต้องรับมอบคืนและรวบรวมเข้ากับที่ผู้ขายมีอยู่ด้วย รวมทั้งแจ้งปริมาณการครอบครองและส่งอมบแก่พนักงานเจ้าหน้าที่กรมวิชาการเกษตรภายใน 120 วัน คือ จนถึงวันที่ 28 กันยายน 2563 สำหรับผู้มีใบอนุญาตผลิตหรือนำเข้าต้องมอบคืนจากร้านจำหน่ายและรวบรวมเข้ากับที่ครอบครองอยู่ จากนั้นแจ้งปริมาณส่งให้พนักงานเจ้าหน้าที่กรมวิชาการเกษตรภายใน 270 วัน คือ ก่อนวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2564 พร้อมแจ้งแผนการเก็บรักษา กำหนดเวลา วิธีและสถานที่ทำลายที่ปลอดภัย เมื่อทำลายแล้วให้ส่งผลการทำลายแก่พนักงานเจ้าหน้าที่กรมวิชาการเกษตรในพื้นที่ สำหรับผู้ครอบครองต้องจ่ายเงินค่าทำลาย โดยกรมวิชาการเกษตรจะไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น คำสั่งดังกล่าวประกาศในราชกิจจานุเบกษาวันที่ 27 พฤษภาคม โดยมีมีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2563


นายสุกรรณ์ สังข์วรรณะ เลขาธิการสมาพันธ์เกษตรปลอดภัย กล่าวว่า คำสั่งกรมวิชาการเกษตรที่ให้เกษตรกรส่งมอบคืนสารเคมีทั้ง 2 ชนิดคืนร้านจำหน่าย แต่ไม่ได้ระบุให้ร้านคืนเงินให้เกษตรกร ถือว่าเป็นคำสั่งที่ละเมิดสิทธิ์ของเกษตรกรเนื่องจากขณะที่ซื้อมาใช้ทำการเกษตรทั้งพาราควอตและคลอร์ไพริฟอสเป็นของถูกกฎหมาย แต่ต่อมาคณะกรรมการวัตถุอันตรายมีมติทำให้กลายเป็นสิ่งผิดกฎหมาย การที่ไม่ได้กำหนดให้มีการคืนเงินหรือเยียวยาเกษตรกรทั้งที่เป็นความเสียหายที่เกิดขึ้นจากมาตรการรัฐ จึงไม่ยุติธรรม ดั้งนั้น เมื่อไม่สามารถพึ่งหน่วยราชการใด ๆ ได้เลย กลุ่มเกษตรกรจึงร้องต่อศาลปกครองกลางวานนี้ (27 พ.ค.)  ซึ่งศาลรับคำร้องไว้ในสารบบแล้ว โดยหวังว่าจะเป็นที่พึ่งสุดท้าย

นายสุกรรณ์ กล่าวว่า ขณะนี้เกษตรกรยังคงใช้สารเคมีดังกล่าวได้ แต่หลังจากวันที่ 1 มิถุนายน ขึ้นกับดุลพินิจของแต่ละคนว่าจะทำอย่างไรกับสารเคมีทางการเกษตรที่ซื้อมา แต่หากเกษตรกรไม่สามารถใช้สารเคมี 2 ชนิดนี้ในการประกอบอาชีพได้ต่อไป ก็จะไม่ยอมให้นำเข้าสินค้าเกษตรจากประเทศที่ยังมีการใช้พาราควอตและคลอร์ไพริฟอสแน่นอน หากกระทรวงสาธารณสุขจะออกประกาศปรับระดับปริมาณสารพิษ ซึ่งเป็นอันตรายทางเคมี (Maximum Residue Limits : MRLs) เพื่อให้นำเข้าสินค้าเกษตรที่มีสารดังกล่าวตกค้าง เช่น แป้งสาลีที่นำมาใช้ในผลิตภัณฑ์บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ขนมเค้ก และขนมปังต่าง ๆ นั้น เกษตรกรจะไม่ยอมอย่างแน่นอน หากเกษตรกรใช้ไม่ได้ ก็ห้ามนำเข้าสินค้าเกษตรที่มีสารตกค้างอย่างเด็ดขาด.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”